Hermes

HERMES: เรือนเวลาอาร์โซ รงด์ เดส์ เออร์ส – ARCEAU RONDE DES HEURES

HERMES: เรือนเวลาอาร์โซ รงด์ เดส์ เออร์ส – ARCEAU RONDE DES HEURES

พระจันทร์เสี้ยวเริงระบำเคียงคู่กับเวลาบน อาร์โซ รุ่นใหม่ ล้อไปกับจานบอกเวลาชั่วโมงที่สลับกันปรากฎโฉมและแอบซ่อน เรือนเวลาอาร์โซ ออกแบบโดย อองรี ดอริญี ในปี 1978 ด้วยดีไซน์ที่เรียบง่ายแต่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว จึงได้รับการเลือกมานำเสนอเวลาในรูปแบบใหม่ตามแบบฉบับของแอร์เมส ซึ่งเป็นการรังสรรค์ที่นอกกรอบและซุกซนด้วยการเปลี่ยนบทบาทตามธรรมชาติของพระจันทร์ ครั้งนี้จานดาวเทียมได้ทำหน้าที่บ่งบอกเวลาด้วยตัวของมันเอง โดยตัวเลขจะหมุนผ่านเข้าไปในแสงจันทร์ ขณะที่เข็มบอกนาทีจะชี้ไปที่กลุ่มดวงดาวที่ห่างไกลออกไป ตั้งแต่ครั้งแรกของการรังสรรค์เรือนเวลาอาร์โซ ตัวเรือนทรงกลมจะมาพร้อมกับหูสายโกลนม้าทรงฉาก ควบไล่ตามภาพเงาโดยไม่มีที่สิ้นสุด กรอบตัวเรือนดำตกแต่งด้วยอัญมณีนิลดำ ทอแสงเปล่งประกายยามค่ำคืนอย่างชัดเจน หน้าปัดสีดำเงาลวดลายลำแสงพระอาทิตย์มีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง เมื่อจานหมุนที่มีตัวเลขเอียงลู่ค่อยๆ เคลื่อนพาดผ่านพระจันทร์เหลือบมุก กระจ่างท่ามกลางความมืดมิด คือพระจันทร์และเหล่าดวงดาว ที่รังสรรค์ขึ้นด้วยมุกเคลือบแลคเกอร์เรืองแสง ผลิตเพียง 300 เรือน เรือนเวลา อาร์โซ รงด์ เดส์ เออร์ส มาพร้อมกับสายหนังจระเข้สีดำ ซึ่งช่างศิลป์ผู้เชี่ยวชาญของแอร์เมสผลิตขึ้น

HERMES: เรือนเวลาเคปคอด แชน ดองคร์ – CAPE COD Chaîne d’ancre

HERMES: เรือนเวลาเคปคอด แชน ดองคร์ – CAPE COD Chaîne d’ancre

Cape Cod เรือนนี้ได้รับการตกแต่งสายนาฬิกาแบบพันสองรอบด้วยการเจาะลายแองเคอร์เชน ย้ำถึงแรงบันดาลใจแต่แรกเริ่มของนาฬิการุ่นนี้ ดีไซเนอร์ อองรี ดอริญี ได้รับมอบหมายให้ออกแบบนาฬิกาทรงสี่เหลี่ยมจัตุรัส หากแต่ดินสอที่ซุกซนของเขากลับวาดออกมาเป็นเรือนเวลาเคปคอด เรือนเวลาทรงจัตุรัสในกรอบสี่เหลี่ยมผืนผ้า จึงได้ถือกำเนิดขึ้นในปี 1991 ด้วยความแตกต่างที่ไม่เหมือนใคร ลายเส้นชัด ความขบถ และรังสรรค์ตามเกณฑ์อันเข้มงวด เรือนเวลานี้ได้ท้าทายกฎแห่งความงดงามที่มีอยู่แต่เดิม คอลเลกชั่นเคปคอดชอบที่จะเล่นกับ «แองเคอร์ เชน» ตัวเชื่อมกึ่งหนึ่งสองชิ้นของแองเคอร์ เชน ก่อให้เกิดเป็นรูปตัวเรือน ลายที่โรแบร์ต ดูมาส์ รังสรรค์ขึ้นเมื่อปี 1938 ได้รับการไฮไลต์ให้โดดเด่นขึ้นด้วยงานหัตถศิลป์ด้านหนังของแอร์เมส สายพันรอบที่สองของสายนาฬิกาออกแบบเพื่อเผยให้เห็นแพทเทิร์นแองเคอร์เชนลิงก์บนชิ้นหนัง เพื่อให้เห็นเอฟเฟคนี้อย่างชัดเจน ช่างฝีมือได้นำหนังมาซ้อนกันสี่ชั้น ก่อนที่จะบรรจงตัดและเย็บเข้าด้วยกันด้วยเครื่องมือที่ปรับไปตามโค้งของสายนาฬิกา สายนาฬิกาแบบพันสองรอบนี้ ที่รังสรรค์ขึ้นโดยมาร์ติน มาร์จิเอลา เมื่อปี 1998 มีให้เลือก 4 สีคือ บาเรเนียดำ น้ำเงินเข้ม เหลืองอำพัน และชมพูสด ช่วยขับเน้นรูปทรงของตัวเรือนสตีลอันเป็นเอกลักษณ์และหน้าปัดเงินที่โดดเด่นด้วยตัวเลขสีขาว ผลิตขึ้นในห้องเวิร์คช้อปผลิตนาฬิกาของแอร์เมสเอง

Hermès: เรือนเวลาอาร์โซ แอสโทรโลฌี นูแวล (Arceau Astrologie Nouvelle)

Hermès: เรือนเวลาอาร์โซ แอสโทรโลฌี นูแวล (Arceau Astrologie Nouvelle)

ซีซั่นนี้ แอร์เมสขอประดับตกแต่งหน้าปัดของเรือนเวลาอาร์โซ ด้วยเทคนิคการฝังประกอบไม้ที่สุดแสนพิเศษ เรือนเวลาอาร์โซ ที่ออกแบบโดยอองรี ดอริญี เมื่อปี 1978 ได้รับการหยิบมานำเสนอในรูปแบบงานศิลป์ใหม่ นั่นก็คือ การตัดต่อลายไม้ (Wood Marquetry) ตัวเรือนทองคำขาวที่งดงามของอาร์โซ เชื่อมต่อกับหูสายทรงโกลนม้าแบบอสมมาตร ล้อมหน้าปัดที่สลักเสลาขึ้นจากไม้ทิวลิป โดยเลือกแบบลายของผ้าพันคอ แอสโทรโลฌี นูแวล (Astrologie Nouvelle) ที่ ซีริล ดิอัตคิน นำมาตีความใหม่ในปี 2012 แสดงให้เห็นถึงท่วงทำนองที่บ่งบอกถึงจังหวะของการเคลื่อนผ่านและความกระชั้นของเวลา นักออกแบบผู้นี้ได้แต่งเติมให้ดูทันสมัยยิ่งขึ้น ด้วยการรื้อและปรับเปลี่ยนดีไซน์ของเดิม เพื่อสร้างรูปแบบของ ‘ความอลหม่านที่เป็นระเบียบ’ ขึ้นมา การนำเสนอธีมนี้บนหน้าปัดนาฬิกา ช่างฝีมือของแอร์เมสเริ่มต้นด้วยการย่อขนาดลายให้เล็กจิ๋ว แล้วจึงเลือกส่วนที่จำเป็นและสีของวัสดุ ที่จะใช้เพื่อสื่อให้เห็นถึงภาพ ซึ่งก็คือ ไม้ทิวลิป หรือที่รู้จักกันว่าเป็น หรือต้นทิวลิปเวอร์จิเนีย (ดอกของมันจะคล้ายกับทิวลิปสีเขียว-เหลืองใหญ่ ต้นไม้นี้เดิมถือกำเนิดในอเมริกาเหนือ มีแกนลักษณะพิเศษซึ่งจะเปลี่ยนสีไปตามช่วงอายุ จากสีขาวไปจนถึงสีน้ำเงินเข้ม ช่างฝีมือจึงเลือกไม้ชนิดนี้เนื่องจากมีเชดสีที่ใกล้เคียงกับดีไซน์ต้นฉบับ รวมถึงเนื้อไม้มีความละเอียดและแน่น เหมาะกับศิลปะการตัดต่อลายไม้ขนาดเล็กจิ๋ว โดยช่างฝีมือจะตัดชิ้นส่วนขนาดจิ๋วจำนวนมากเพื่อสร้างเป็นแพทเทิร์นก่อนที่จะประกอบมันเข้าด้วยกันเหมือนการต่อจิ๊กซอว์ ทากาวเพื่อยึดให้เข้าที่และเก็บงานให้เรียบร้อยด้วยการขัดกระดาษทรายและเคลือบเงา ซึ่งต้องใช้เวลาถึงสามสัปดาห์ของการผสมผสานหลักการอันเข้มงวด ความอดทน และความชำนาญในการรังสรรค์หน้าปัดที่มีความแตกต่างโดยธรรมชาติให้สำเร็จขึ้นมาเรือนหนึ่ง เรือนเวลาอาร์โซ แอสโทรโลฌี นูแวล […]

HERMES: เรือนเวลาอาร์โซ กร็องด์ ฟงด์ (ARCEAU Grands Fonds)

HERMES: เรือนเวลาอาร์โซ กร็องด์ ฟงด์ (ARCEAU Grands Fonds)

เฉกเช่นปลาที่แหวกว่ายดื่มด่ำสายน้ำอย่างเริงร่า หน้าปัดโมเสกแก้วขนาดเล็กจิ๋วช่วยขับเน้นเรือนเวลาคอลเลกชัน อาร์โซให้โดดเด่นสะดุดตาด้วยสีสันอันสดใส ลวดลายบนหน้าปัดซึ่งนำมาจากลาย ‘กร็องด์ ฟงด์’ (Grands Fonds) บนผืนผ้าพันคอแอร์เมส เป็นผลงานหัตถศิลป์ที่ประกอบไปด้วยกระจกสีแสนประณีตขนาดเล็กจิ๋วจำนวนมากมาย ออกแบบโดยอองรี ดอริญี ในปี 1978 เรือนเวลาอาร์โซที่มีดีไซน์เรียบง่ายแต่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวนี้ ได้รับการแต่งแต้มด้วยความสร้างสรรค์และความเชี่ยวชาญของช่างหัตถศิลป์ ตัวเรือนวงกลมที่มาพร้อมกับหูสายรูปโกลนม้าล้อมรอบหน้าปัดโมเสกแก้วชิ้นจิ๋วจำนวนมาก เจ้าปลาหายากสีสันสดใสฉายเด่นอยู่เหนือพื้นหลังสีน้ำเงินเทอร์ควอยซ์นี้ เป็นลวดลายที่นำมาจากผ้าพันคอ กร็องด์ ฟงด์ ซึ่งออกแบบโดยแอนนี่ แฟรฟร์ (Annie Faivre) ศิลปินชาวฝรั่งเศส ในปี 1992 เทคนิคที่ต้องอาศัยความอุตสาหะและความสร้างสรรค์อันล้นเหลือได้รับการถ่ายทอดลงบนหน้าปัดงานโมเสกแก้วชิ้นจิ๋วสีสันสดใสนี้ เนรมิตขึ้นโดยช่างศิลป์แห่งแอร์เมส การรังสรรค์หน้าปัดหนึ่งชิ้นด้วยเทคนิคจุลจิตรกรรมนี้ต้องใช้เวลามากกว่าหนึ่งเดือนเต็ม เริ่มจากช่างศิลป์ทำการเลือกสรรกระจกแก้วขนาดเล็กที่มีสีสันอันหลากหลาย นำมาตัดและหลอมที่ระดับอุณหภูมิสูงกว่า 700 องศาเซลเซียสเพื่อยืดออกเป็นแท่งแก้วเส้นเล็กจิ๋วสำหรับการทำชิ้นงานโมเสกนี้ ปูนที่ใช้ในการเชื่อมกระเบื้องขนาดจิ๋วเหล่านี้เข้าด้วยกัน ประกอบไปด้วยผงหินอ่อน น้ำมะนาว และน้ำมันลินซีด ลวดลายของสัตว์น้ำใต้ทะเลที่มีเอกลักษณ์นี้ได้รับการทำขึ้นอีกครั้งให้พอดีกับขนาดฐานของหน้าปัด จากนั้นจึงใช้มีดผ่าตัดในการแกะสลักลงไปบนบริเวณที่กระจกสีแต่ละชิ้นจะถูกวางลงไป แท่งแก้วหลากสีเหล่านี้จะถูกตัดด้วยตะไบเป็นชิ้นสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดเล็ก และนำไปวางเรียงทีละชิ้นด้วยไม้คีบ หลังจากทิ้งไว้จนแห้งเป็นเวลา 1 เดือน งานโมเสกนี้ต้องมีผิวหน้าที่เนียนเรียบสนิท ซึ่งถือเป็นความท้าทายด้านเทคนิคอย่างแท้จริงสำหรับช่างทำแก้วเจ้าของผลงาน เข็มบอกเวลาที่เพรียวบางทั้งสองพาดผ่านหน้าปัดงานโมเสกแก้วขนาดจิ๋ว สะท้อนจังหวะเวลาที่เคลื่อนผ่านด้วยกลไกไขลานอัตโนมัติรุ่น H1837 ของแอร์เมส บอกเวลาชั่วโมงและนาที ตัวเรือนทองคำขาวอันเลอค่า ขนาด […]

Hermès: เรือนเวลาสลิม เดอ แอร์เมส เปกาส เปอีย์ซาจ

Hermès: เรือนเวลาสลิม เดอ แอร์เมส เปกาส เปอีย์ซาจ

หน้าปัดเรือนเวลา Slim d’Hermès ต้อนรับภาพเพกาซัสในรูปแบบงานตัดต่อลายไม้อันเลอค่า เรือนเวลา Slim d’Hermès ที่รังสรรค์ขึ้นเมื่อปี 2015 โดยฟิลิปป์ เดโลตัล มีความเหมาะสมกับการนำเสนอศิลปะความเชี่ยวชาญรูปแบบใหม่ นั่นคือ การตัดต่อลายไม้ (wood marquetry) ตัวเรือนบางมาพร้อมหูสายทรงฉาก ล้อมกรอบหน้าปัดที่มีภาพจำลองของเพกาซัส ซึ่งประกอบขึ้นจากไม้พันธุ์หายาก เป็นรูปร่างขึ้นมาจากชิ้นส่วนของไม้ ส่วนหัวที่เห็นในรูปแสดงให้เห็นถึงความคล่องแคล่ว พลังและความเงียบสงบ ในขณะที่ลายลูกคลื่นทำให้ชวนนึกถึงภาพของทิวเขา สายน้ำ และทุ่งนาข้าวที่ลดหลั่นกันลงมาเมื่อมองจากมุมมองด้านบน การปรับปริมาตรและลายเส้นโค้งต่าง ๆ อันซับซ้อนให้ได้ตามขนาดของหน้าปัด ช่างฝีมือของแอร์เมสเริ่มต้นด้วยการย่อขนาดลายให้เล็กจิ๋ว แล้วบรรจงเลือกเฉพาะส่วนที่สำคัญและสีของวัสดุที่จะใช้เป็นสื่อกลางในการแสดงภาพ – ในที่นี้คือการผสมผสานไม้อันมีค่า อาทิ อะมาแรนธ์ และไม้มะริด และไม้หายากอย่างไม้เกาลัด แพร์เหลือง และ madrona burr อะมาแรนธ์เป็นไม้สีม่วงที่มีลายเรียบ และมีแกนกลางสีเกือบขาวซึ่งจะกลายเป็นสีดำเมื่อผ่านไปหลายปี ไม้มะริดจะมีสีดำแทรกด้วยลายสีอำพัน ลายไม้ละเอียดมากและมีความหนาแน่นสูง ส่วนไม้ของต้นเกาลัดจะเบา นุ่ม เนื้อเนียน เป็นสีขาวดั่งไหม ไม้ต้นแพรสีเหลือง มีขนาดเล็กและมีลายเหมือนๆ กัน จะถูกนำไปขัดให้ขึ้นเงา และสุดท้ายคือ มาโดรนา เบอร์ […]

Hermes: เรือนเวลาเออร์ อาช (Heure H)

Hermes: เรือนเวลาเออร์ อาช (Heure H)

เรือนเวลาเออร์ อาช มาพร้อมกับสายแบบพันสองรอบ (Double Tour) ที่สามารถถอดเปลี่ยนได้ ตกแต่งด้วยการฉลุลาย มี 4 เฉดสีให้เลือก ได้แก่ สีส้มแอปริคอต สีแดงเวอร์มิลเลียน สีดำ และสีเทาน้ำตาล หนึ่งในเอกลักษณ์ที่แข็งแกร่งและชัดเจนจากแอร์เมส เรือนเวลาเออร์ อาช ผลงานการออกแบบของฟิลิปป์ มูเกต์ ดีไซเนอร์ฝีมือฉกาจ ที่รังสรรค์ขึ้นในปี ค.ศ. 1996 ชิ้นงานที่ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องบอกเวลา แต่เป็นดั่งสัญลักษณ์ที่ถ่ายทอดเรื่องราวความทันสมัย ความมีชีวิตชีวา และความสดใสที่ยังคงอยู่แม้เวลาจะผ่านพ้น ด้วยความคิดที่ไม่เหมือนใครในการเก็บเอาห้วงเวลามาแทรกไว้ในตัวอักขระ เนรมิตการเคลื่อนขยับของห้วงเวลาไว้ในกรอบเรือนรูปตัว H ที่สนุกสนานไม่จำเจ สายหนังแบบพันสองรอบ (Double Tour) อันเป็นสัญลักษณ์ของแอร์เมส ออกแบบโดยมาร์ติน มาจีลา สำหรับงานแฟชั่นโชว์แอร์เมสครั้งแรกของเขาในปี ค.ศ.1998 สอดรับกับตัวเรือนได้อย่างไร้ที่ติ ทั้งยังช่วยขับเน้นกราฟิกให้เด่นชัดยิ่งขึ้น เรือนเวลาเออร์ อาชได้ถ่ายทอดสุนทรียะแห่งความแตกต่างที่ลงตัว ผ่านการจับคู่ระหว่างหูสายรูปทรงคลาสสิกกับการเจาะรูระดับไมครอนเป็นลายตัวอักษร H ลงบนสายนาฬิกาวงที่สอง ช่างศิลป์เพิ่มลูกเล่นด้วยการสอดแทรกแผ่นหนังสีเงินบางเฉียบคั่นกลางระหว่างสายหนังที่ประกบกัน เพื่อสร้างเอฟเฟกต์โปร่งแสงราวกับมีแสงพาดผ่าน รังสรรค์ขึ้นจากช่างศิลป์ผู้เชี่ยวชาญของแอร์เมส เรือนเวลาเออร์ อาช มีตัวเรือนให้เลือกถึงสองแบบ ตัวเรือนสเตนเลสสตีลมาพร้อมกับสายหนังสีส้มแอปริคอต หรือสายสีแดงเวอร์มิลเลียน […]

HERMES: เรือนเวลาอาร์โซ อาช เดโค (ARCEAU H déco)

HERMES: เรือนเวลาอาร์โซ อาช เดโค (ARCEAU H déco)

เอกลักษณ์แห่งลวดลาย และหัตถศิลป์อันเลอค่า เรือนเวลาอาร์โซรุ่นใหม่ทั้งสองรุ่นเป็นการผสานศิลปะงานตัดต่อลายด้วยมุก และศาสตร์แห่งการฝังอัญมณีเข้าไว้ด้วยกัน ตัวเรือนรายล้อมด้วยกรอบทำจากทองคำและเพชร ลวดลายอาช เดโค (H déco) ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากลวดลายอันเป็นเอกลักษณ์ในชื่อเดียวกันจากคอลเลกชั่นชุดเครื่องครัวของแอร์เมส และถูกนำมาตีความใหม่บนกึ่งกลางหน้าปัด ลายตัวอักษร H ซ้อนกันสองชั้น สรรค์สร้างภาพโค้งมนเป็นหนึ่งเดียวกับการเคลื่อนไหวของข้อมือผู้สวมใส่ เรือนเวลาอาร์โซออกแบบโดยอองรี ดอริญี ในปี ค.ศ. 1978 ได้ขับเน้นเรือนเวลารุ่นใหม่ทั้งสองแบบให้โดดเด่นยิ่งขึ้นด้วยกลิ่นอายศิลปะแบบอาร์ตเดโค (Art Deco) ด้วยเทคนิคการตัดต่อลายด้วยมุกและการฝังเพชร หน้าปัดเรือนเวลาชิ้นนี้ยังได้นำลวดลาย อาช เดโค (H déco) บนชุดเครื่องครัวพอร์ซเลนของแอร์เมส มาตีความใหม่อีกครั้ง การออกแบบลายสีดำตัดสีขาวได้แรงบันดาลใจมาจากโครงเหล็ก ที่ตกแต่งอยู่หน้าบูทีคของแอร์เมส บนถนน รูดูโฟบูรก์ แซ็งต์ ออนอเร ในกรุงปารีส ณ กึ่งกลางหน้าปัด เข็มเรียวบางขยับเคลื่อนบอกเวลาเหนือตัวอักษร H สองตัวที่ไขว้ซ้อนกัน ล้อมรอบด้วยแผ่นวงลายมุก หมุนวนไปตามจังหวะการขยับข้อมือ อาร์โซใหม่มาเป็นคู่ ที่มีความแตกต่างอย่างลงตัว คือ รุ่นสีดำ มีหน้าปัดวิบวับสะดุดตาจากลวดลายโค้งมนฝังเพชรระยิบระยับ ในขณะที่รุ่นสีขาว ตกแต่งด้วยกรอบลวดลายทำจากทอง ฝังเพชร 432 เม็ดบนหน้าปัด […]

Hermès: เรือนเวลาอาร์โซ อาวูว์ (ARCEAU Awooooo)

Hermès: เรือนเวลาอาร์โซ อาวูว์ (ARCEAU Awooooo)

เมื่อคุณร้องเรียกหาหมาป่า มันก็ปรากฏกายออกมาบนหน้าปัดเคลือบเงาของเรือนเวลาใหม่ อาร์โซ อาวูว์ ! เจ้าหมาป่าขนสีดอกเลาโดดเด่นท่ามกลางผืนฟ้าที่ประดับประดาด้วยดาวระยิบระยับ เคียงข้างพระจันทร์เสี้ยวบาง ศิลปะขนาดจิ๋วนี้ล้อมกรอบด้วยตัวเรือนทองคำขาว และสายหนังจระเข้เนื้อแมตต์สีดำกราไฟต์ เจ้าหมาป่าแหงนหน้าเห่าหอนมองดวงจันทร์ตัวนี้ เป็นผลงานศิลปะลายสัตว์ตัวใหม่จากแอร์เมส ออกแบบโดยอลิซ เชอร์ลีย์ ถัดจากลายหมี “Grrrrr!” แสนน่ารัก ที่เปิดตัวในฤดูใบไม้ร่วงปี 2016 เรือนเวลา อาร์โซ ในรุ่น “อาวูว์!” มาพร้อมหน้าปัดลายหมาป่าที่ปรากฏโฉมครั้งแรกในคอลเลกชันผ้าพันคอสำหรับคุณสุภาพบุรุษ เรื่องราวจากตำนานและเทพนิยายเกี่ยวกับหมาป่าขาวดุร้าย ทว่าสง่างามชวนฝัน ย่างกรายออกมาจากพงไพรด้วยจิตวิญญาณที่รักอิสระเสรี ถูกถ่ายทอดออกมาผ่านจุลศิลป์บนหน้าปัดที่วาดมือด้วยสีน้ำมัน การรังสรรค์ลวดลายหมาป่าและผืนฟ้ายามราตรีประดับดาวสุดประณีตนี้ให้กลับมามีชีวิตขึ้นอีกครั้ง ต้องอาศัยทักษะความชำนาญอันแสนพิถีพิถันของช่างหัตถศิลป์ ช่างฝีมือเริ่มประดิษฐ์หน้าปัดเคลือบเงาสีขาวโปร่งแสงทั้งสองด้าน แล้วบรรจงขัดเกลาเพื่อสร้างพื้นผิวที่เนียนเรียบไร้ที่ติ แล้วจึงร่างเค้าโครงลวดลาย ก่อนที่จะจรดพู่กันเพรียวบางแตะผงเคลือบเงาที่ผสมกับน้ำมันธรรมชาติลงบนหน้าปัด จากนั้นจึงเริ่มการเคลือบผิวหน้าปัด ด้วยการอบและเผาในเตาสลับกันหลายครั้ง จนกระทั่งภาพมีความสมจริงอย่างน่าอัศจรรย์ใจ การถ่ายทอดเรื่องราวผ่านภาพกราฟิกและเฉดสีเทาบางเบา ช่วยเผยให้เห็นวิถีชีวิตของสัตว์ป่ายามรัตติกาลที่สมจริงไม่ปรุงแต่ง หมู่ดาวและจันทร์เสี้ยวยิ่งชวนให้นึกถึงวัฏจักรแห่งธรรมชาติซึ่งผู้ล่ารับบทบาทสำคัญ โทนสีบนหน้าปัดสอดรับกับตัวเรือนที่ทำจากทองขาวพร้อมหูสายรูปโกลน บรรจุเครื่องกลไกที่แอร์เมสผลิตเอง ดีไซน์สุดคลาสสิกของตัวเรือนที่ อองรี ดอริญี รังสรรค์ไว้เมื่อ 40 ปีก่อน ประกบเข้ากันอย่างลงตัวกับสายนาฬิกาที่ทำจากหนังจระเข้เนื้อแมตต์สีดำกราไฟต์ ช่วยเพิ่มความงดงามให้งานศิลป์ที่ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 8 เรือนเท่านั้น

เรือนเวลาแอร์เมส: อาร์โซ เลอร์ เดอ ลา ลูน โอนลี่ วอตช์ (Arceau L’heure de la lune ONLY WATCH)

เรือนเวลาแอร์เมส: อาร์โซ เลอร์ เดอ ลา ลูน โอนลี่ วอตช์ (Arceau L’heure de la lune ONLY WATCH)

การเดินทางในอีกห้วงมิติ ห้วงอวกาศและภาพแห่งความฝัน ก้าวเท้าลงบนดวงจันทร์ และปล่อยใจให้ล่องลอยไปเหนือมิติแห่งเวลาและอวกาศ นี่คือภาพมุมมองของดาวเทียมที่มองจากโลกในแบบที่ไม่เหมือนใคร นำเสนอผ่านเรือนเวลาอาร์โซ เลอร์ เดอ ลา ลูน โอนลี่ วอตช์ (Arceau L’heure de la lune ONLY WATCH) แสดงดวงจันทร์ข้างขึ้นข้างแรมทั้งแถบขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ หน้าปัดย่อยบอกเวลาสองหน้าปัดที่เคลื่อนขยับ อวดโฉมอยู่เหนือพื้นหน้าปัดที่ทำด้วยหินอุกกาบาต เผยภาพดวงจันทร์ที่ทำจากเปลือกหอยมุกแปรผันตามโมดูลชนิดพิเศษและเครื่องกลไกที่แอร์เมสผลิตเอง ด้วยความคิดนอกกรอบในการออกแบบกลไกซับซ้อน เรือนเวลา อาร์โซ เลอร์ เดอ ลา ลูน นำเสนอการตีความศาสตร์แห่งการประดิษฐ์เครื่องบอกเวลาที่ไม่เหมือนใครของแอร์เมส กลไกที่ห่อหุ้มอยู่ภายใต้ตัวเรือนทองคำขาวให้สัมผัสที่บางเบาจนแทบไม่สังเกตเห็น หินอุกกาบาตฝังเปลือกหอยมุกก่อกำเนิดเป็นห้วงอวกาศ ที่มีหน้าปัดย่อยซึ่งเปรียบประหนึ่งดาวเทียม โคจรลอยอยู่เหนือดวงจันทร์ หน้าปัดแสนกลแฝงลูกเล่นด้วยการสลับตำแหน่ง ให้ทิศใต้อยู่ด้านบนและให้ทิศเหนืออยู่ด้านล่าง การกลับทิศทางเช่นนี้ชวนให้คนที่สังเกตรู้สึกงุนงง พลั้งเผลอใจล่องลอยไปกับหมู่ดาว… ม้า อันเป็นจุดกำเนิดของแอร์เมส ควบย่างอย่างสง่างามสู่โลกแห่งความฝัน พระจันทร์ประดับลายเพกาซัส ณ ตำแหน่ง 12 นาฬิกา ออกแบบโดย “ดีไซเนอร์ช่างฝัน” ดิมิทรี ไรบัลต์เชนโค่ (Dimitri Rybaltchenko) ภาพม้ามีปีกนามว่า Pleine […]

แอร์เมส: เรือนเวลาอาร์โซ เลอร์ เดอ ลา ลูน (Arceau L’heure de la lune)

แอร์เมส: เรือนเวลาอาร์โซ เลอร์ เดอ ลา ลูน (Arceau L’heure de la lune)

ห้วงอวกาศและภาพแห่งความฝัน ก้าวเท้าลงบนดวงจันทร์ และปล่อยใจให้ล่องลอยไปกับมิติแห่งเวลาและอวกาศ นี่คือภาพมุมมองของดาวเทียมที่มองจากโลกในแบบที่ไม่เหมือนใคร นำเสนอผ่านเรือนเวลาอาร์โซ เลอร์ เดอ ลา ลูน (Arceau L’heure de la lune) โฉมใหม่ แสดงดวงจันทร์ข้างขึ้นข้างแรมทั้งแถบขั้วโลกเหนือและขั้วโลกใต้ หน้าปัดย่อยบอกเวลาสองหน้าปัดที่เคลื่อนขยับ อวดโฉมอยู่บนพื้นหน้าปัดที่ทำด้วยหินอุกกาบาตหรือหินอเวนเจอรีน เผยภาพดวงจันทร์ที่ทำจากเปลือกหอยมุกเคลื่อนไปพร้อมกับโมดูลชนิดพิเศษและเครื่องกลไกที่แอร์เมสผลิตเอง ด้วยความคิดนอกกรอบในการออกแบบกลไกซับซ้อน เรือนเวลา อาร์โซ เลอร์ เดอ ลา ลูน นำเสนอการตีความศาสตร์แห่งการประดิษฐ์เครื่องบอกเวลาที่ไม่เหมือนใครของแอร์เมส กลไกที่ห่อหุ้มอยู่ภายใต้ตัวเรือนทองคำขาวให้สัมผัสที่บางเบาจนแทบไม่สังเกตเห็น หินอุกกาบาตและหินอเวนเจอรีนฝังอยู่ในเปลือกหอยมุกก่อกำเนิดเป็นห้วงอวกาศ ที่มีหน้าปัดย่อยโคจรอยู่เหนือดวงจันทร์เปรียบประหนึ่งดาวเทียม หน้าปัดแสนกลแฝงลูกเล่นด้วยการสลับตำแหน่ง ให้ซีกโลกใต้มาอยู่บนซีกโลกเหนือ การกลับทิศทางเช่นนี้ชวนให้คนที่สังเกตรู้สึกงุนงง ล่องลอยไปกับหมู่ดาว… ม้า อันเป็นจุดกำเนิดของแอร์เมส ควบย่างอย่างสง่างามสู่โลกแห่งความฝัน พระจันทร์ประดับลายเพกาซัส ณ ตำแหน่ง 12 นาฬิกา ออกแบบโดยดีไซเนอร์ช่างฝัน ดิมิทรี ไรบัลต์เชนโค่ (Dimitri Rybaltchenko) ภาพม้ามีปีกนามว่า Pleine Lune (หรือ Full Moon) ถ่ายทอดเรื่องราวระหว่างทั้งสองโลก ระหว่างโลกแห่งมนตราและความเป็นจริง […]

1 2 3 5