การศึกษานิวซีแลนด์แนะวิธีวางแผนการเรียน เพื่ออาชีพใหม่ในอนาคตสำหรับเด็กไทยยุค 4.0

การศึกษานิวซีแลนด์แนะวิธีวางแผนการเรียน
เพื่ออาชีพใหม่ในอนาคตสำหรับเด็กไทยยุค 4.0

เมื่อการเรียนในปัจจุบันเป็นแนวทางสำหรับการดำเนินชีวิตในอนาคต การวางแผนเรื่องการเรียนจึงจำเป็นต่อนักเรียนที่จะก้าวไปสู่รั้วมหาวิทยาลัย สะสมประสบการณ์ก่อนเผชิญกับโลกความจริงในการประกอบอาชีพ ซึ่งจากงานวิจัยจาก World Economic Forum ปี 2016 เปิดเผยว่า 65% ของนักเรียนประถมจะจบมาทำงานในอาชีพใหม่ และกว่า 5ล้านอาชีพในปัจจุบันจะถูกแทนที่ด้วยเครื่องจักรอัตโนมัติในปี 2020
หน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ จึงร่วมสนับสนุนโครงการส่งเสริมความสามารถพิเศษภาคฤดูร้อน พ.ศ.2561(แบรนด์ซัมเมอร์แคมป์ครั้งที่ 30)ซึ่งมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ ร่วมกับ บริษัท แบรนด์ ซันโทรี่ (ประเทศไทย) จำกัดผู้ผลิตแบรนด์ซุปไก่สกัด และมูลนิธิเพื่อพัฒนาการศึกษาไทยได้ร่วมกันจัดขึ้น โดยเมื่อเร็วๆนี้ ได้มีการจัดสัมมนาทางวิชาการครูและอาจารย์แนะแนวเรื่อง“ครูแนะแนวกับการศึกษาไทยยุคเศรษฐกิจดิจิทัล 4.0”เพื่อเป็นข้อมูลให้ครูแนะแนวนำไปเป็นแนวทางแนะนำให้กับเด็กนักเรียนก่อนที่จะมีการติวเข้มฟิตสมองก่อนสอบโค้งสุดท้าย พร้อมกันทั่วประเทศ 4 จังหวัด 4 ภาค ระหว่างวันที่ 10-15 ก.พ. ศกนี้ เพื่อเตรียมตัวก้าวเข้าสู่รั้วมหาวิทยาลัยโดยมีครูแนะแนวกว่า 400 คนจากทั่วประเทศให้ความสนใจณ ห้องประชุมสุธรรม อารีกุล อาคารสารนิเทศ 50 ปี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ บางเขน กรุงเทพมหานคร เมื่อเร็วๆ นี้
น.ส.ช่อทิพย์ ประมูลผล ผู้จัดการการตลาดประจำประเทศไทย หน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์ เปิดเผยระหว่างการสัมมนาในห้อข้อ “มองอาชีพใหม่ สำหรับแนะแนวเด็กไทยยุค 4.0”ว่า ประเทศนิวซีแลนด์เป็นประเทศที่มีการเตรียมความพร้อมเรื่องอนาคตสำหรับนักเรียนเป็นอันดับ 1 ของโลก และหน่วยงานการศึกษานิวซีแลนด์เล็งเห็นถึงการพัฒนาด้านการศึกษาของเยาวชนไทยเป็นอย่างมาก เนื่องจากเราได้มีการทำงานร่วมกับมหาวิทยาลัย และโรงเรียนต่างๆ ในประเทศไทย ทั้งการจัดอบรมครู นักเรียน และให้ความรู้ด้านการพัฒนาศักยภาพการใช้ภาษาอังกฤษ อีกทั้งแลกเปลี่ยนเทคนิคการเรียนการสอนในแบบนิวซีแลนด์โดยการนำข้อดีของการสอนแบบนิวซีแลนด์ซึ่งเน้นการปฏิบัติ การส่งเสริมการคิดวิเคาระห์และสร้างสรรค์ มาปรับใช้กับการเรียนการสอนแบบไทย เพื่อพัฒนาการศึกษาไทยให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างมีประสิทธิภาพ

อาชีพในอนาคตที่มีความต้องการในตลาดสูง และรายได้ดี
การก้าวเข้าสู่ยุคเทคโนโลยีดิจิตอล ทำให้ระบบการเรียนการสอน และการทำธุรกิจต่างๆ เปลี่ยนไป และในอนาคตเทคโนโลยีดิจิตอลจะมีบทบาทต่อการวางอนาคตของเด็กนักเรียนมากยิ่งขึ้น โดยอาชีพที่จะเติบโตในตลาดอนาคตได้แก่
1. ธุรกิจ Virtual Reality (VR) หรือ การสร้างภาพเสมือนจริงที่แพร่หลายในเกมต่างๆ ในอนาคตจะพัฒนาไปสู่การทำโฆษณาและภาพยนตร์ ซึ่งอาชีพที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจนี้ได้แก่ นักพัฒนาซอฟแวร์ VR นักผลิตวีดีโอ 360 องศา นักออกแบบ นักตัดต่อ VR นัก VR บำบัด การชำระเงินในโลกเสมือนจริง ที่ปรึกษากฎหมาย VR
2. นักวิเคราะห์ข้อมูล เมื่อเข้าสู่ยุคที่ผู้คนสามารถเข้าถึงข้อมูลต่างๆ ได้อย่างง่ายดาย แต่จะมีสักกี่คนที่สามารถวิเคราะห์ในเชิงลึก แล้วสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้จริง
3. นักยุทธศาสตร์การค้าปลีก ที่สามารถวางช่องทางการขายให้สามารถเข้าถึงลูกค้าได้ทุกช่องทาง -ในแบบ Omni channel Marketingที่สามารถเชื่อมต่อการตลาดและการขายทั้ง Offline และ Online เข้าด้วยกัน อย่างไร้รอยต่อให้ลูกค้าได้เข้าถึงสินค้าได้อย่างสะดวกมากยิ่งขึ้น
4. นักพัฒนาซอฟแวร์การใช้เสียงสั่งการ
5. นักออกแบบการ Display สินค้าโดยใช้ภาพเสมือนจริง หรือ Hologram retail display designer โดยร้านค้าไม่ต้องใช้หุ่น หรือสินค้าจริงมาใช้ในการตกแต่งร้าน
6. นักดูแลความปลอดภัยในโลกไซเบอร์
นอกจากนี้ยังมีอาชีพต่างๆ อีกมากมายที่ยังเป็นที่ต้องการของตลาด ไม่ว่าจะเป็นด้านการแพทย์และสาธารณสุข พลังงานทดแทน กฎหมายต่างประเทศและสิ่งแวดล้อม เทคโนโลยีการผลิตอาหารนักคิด Content การตลาด การวิเคราะห์ข้อมูล วิทยาศาสตร์ และการเงินน.ส.ช่อทิพย์ กล่าวและเสริมว่า
ในอนาคตอาชีพหลายๆ อย่างอาจถูกแทนที่ด้วยเครื่องจักรกล การพัฒนาศักยภาพด้านองค์ความรู้และปรับตัวให้เข้ากับยุคสมัยจะช่วยให้เราสามารถทำงานได้ง่ายขึ้น โดยโอกาสในการประกอบอาชีพของเด็กในอนาคต ขึ้นอยู่กับทักษะ ความรู้ และประสบการณ์ รวมไปถึงความสามารถในการพัฒนาและประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์

ทักษะในการประกอบอาชีพที่จำเป็นสำหรับเด็กไทยในยุค 4.0
1. ความรู้ทั่วไปที่เป็นพื้นฐานเช่น การอ่าน การเขียน ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ ICT การเงินต่างๆ
2. ศักยภาพในการเชิญความท้าทายต่างๆ ในอนาคต เช่น มีความสามารถในการคิดวิเคราะห์คิดเชิงสร้างสรรค์ การสื่อสาร สามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้เข้าใจการทำงานเป็นทีม
3. ลักษณะนิสัยที่พร้อมรับความเปลี่ยนแปลงเช่น ให้ความสนใจสิ่งที่เกิดรอบข้าง มีความคิดริเริ่มและลงมือทำ ความอดทนจนสำเร็จ ความสามารถในการปรับตัวต่อสิ่งใหม่ๆ ความเป็นผู้นำ เป็นต้น
สำหรับผู้สนใจข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับการศึกษานิวซีแลนด์ ดูได้ที่ www.studyinnewzealand.govt.nz

สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมกรุณาติดต่อ:
บริษัท คอมมูนิเคชั่น แอนด์ มอร์ จำกัด คุณบุษบา สุขบัติ และคุณชลียาพันธุ์ นุ่นสวัสดิ์ โทร. 02 718 3800

เผยแพร่ข่าวโดย:

พีอาร์ บุฟเฟ่ต์ www.prbuffet.com ข่าวประชาสัมพันธ์ online







Leave a Reply

Your email address will not be published.

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.