“หัวเว่ย” แนะผู้ให้บริการใช้เครือข่ายพรีเมี่ยมที่แตกต่างเพิ่มความสามารถการแข่งขันในตลาด

หัวเว่ย จัดกิจกรรมเสวนาออนไลน์ในหัวข้อ “Premium Networks, Better Digital World” ที่งาน Better World Summit 2020 โดยเชิญชวนผู้ให้บริการเครือข่ายโทรศัพท์มือถือระดับโลก นักวิเคราะห์ IDC มาร่วมหารือกับหัวเว่ยถึงวิธีการที่เหล่าผู้ให้บริการจะสามารถปรับปรุงเครือข่ายและยกระดับบริการของตนให้แตกต่าง เพื่อให้ธุรกิจอยู่รอดได้ต่อไป
เครือข่ายที่แตกต่างจะเป็นจุดแข็งสำหรับการแข่งขันของเหล่าผู้ให้บริการ
การเปลี่ยนผ่านสู่ความเป็นดิจิทัลอย่างรวดเร็วในอุตสาหกรรมสารสนเทศ รวมถึงการพัฒนาที่กว้างขึ้นของ 5G การเติบโตของการศึกษาออนไลน์ในช่วงที่เกิดโรคระบาดเมื่อไม่นานมานี้ ตลอดจนเรื่องของคลาวด์สาธารณะ ได้เพิ่มแรงกดดันให้กับเครือข่ายโครงสร้างพื้นฐาน Gary Lu ประธานแผนก Network Marketing & Solution Sales ของหัวเว่ย กล่าวว่า “การผลิกโฉมอุตสาหกรรมสู่ความเป็นดิจิทัลจะเร็วขึ้นในปี 5 ปีข้างหน้า ผู้คน บ้านพักอาศัย และบริษัทต่าง ๆ จะมีความต้องการในบริการที่พวกเขาได้รับมากยิ่งขึ้น เราจึงคิดว่าจะเป็นการดีกว่าสำหรับเหล่าผู้ให้บริการในการมอบบริการที่แตกต่างและสามารถรับประกันมาตรฐานได้ เพราะนั่นจะทำให้พวกเขาสามารถสร้างรายได้จากมูลค่าเครือข่ายและความโดดเด่นเหนือคู่แข่ง”
Matt Eastwood รองประธานอาวุโสของ IDC ขึ้นกล่าวสุนทรพจน์หัวข้อ “Digital Transformation and Its Impact of Scale and Automation” โดยระบุว่า ผู้ให้บริการควรวางแผนและสร้างเป้าหมายเครือข่ายในอนาคต โดยอิงจากโมเดลดัชนีสถาปัตยกรรมหลัก (KAI) เพื่อเตรียมตัวสู่การผลิกโฉมอุตสาหกรรมสู่ความเป็นดิจิทัล
เปิดรับ F5G ใยแก้วคือทองคำแห่งอนาคต
Richard Jin ประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์สื่อสารและเข้าถึงเครือข่ายของหัวเว่ย กล่าวว่า “ใยแก้วคือทองคำ ใยแก้วคืออนาคต ใยแก้วมีอยู่ทุกที่ และการเชื่อมต่อผ่านใยแก้วนำแสงนั้นก็คือประสบการณ์การใช้งานขั้นสูงสุด โซลูชัน AirPON ของหัวเว่ยช่วยให้เหล่าผู้ให้บริการสามารถสร้างเครือข่าย FTTH ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อติดตั้งการเชื่อมต่อผ่านใยแก้วในทุกหนแห่ง ซึ่งทั้ง eAI ONT และ OLT รวมถึงการกระจายความชาญฉลาดจะช่วยเพิ่มรายได้แก่ผู้ให้บริการ และลดอัตราการเสียลูกค้าผ่านประสบการณ์แห่งบริการภายในบ้านแบบ E2E ขั้นสูงสุดที่มีความแน่นอน ในขณะที่โซลูชัน OTN แบบพรีเมี่ยมจะช่วยยกระดับคุณภาพของการเชื่อมต่อในหลายองค์กร ผ่านเครือข่ายพรีเมี่ยมและบริการคลาวด์ เพื่อให้ผู้บริการเข้าถึงตลาดองค์กรได้มากขึ้น”
นอกจากนี้ Lv Pin รองประธานบริษัท China Telecom Anhui ยังมาร่วมกันแบ่งปันความคิดเห็นกรณีการนำพรีเมี่ยม Wi-Fi และ e-guarding มาใช้ในบ้านอัจฉริยะ ขณะเดียวกัน Cai Weiwen ผู้อำนวยการคณะกรรมการและรองประธานบริษัท China Mobile Guangdong ก็มาร่วมพูดคุยถึงนวัตกรรมใยแก้วและการนำคลาวด์เสมือนจริงมาใช้ในเชิงพาณิชย์ รวมถึงการใช้งานโทรทัศน์ใยแก้ว (OTV), OTN, เครือข่ายส่วนตัวแบบพรีเมี่ยม และบริการ 5G บนรถไฟความเร็วสูง ซึ่งล้วนเป็นเทคโนโลยีที่ก่อให้เกิดแพลตฟอร์มการสื่อสารที่ดีกว่าในเขตพื้นที่อ่าวกวางตุ้ง-ฮ่องกง-และมาเก๊า
IP อัจฉริยะครอบคลุมทุกบริการภายใต้มาตรฐาน SLA
เครือข่าย IP คือหัวใจของยุคแห่ง 5G และคลาวด์ ที่มีความต้องการรองรับบริการสื่อสารแบบครอบคลุมคุณภาพสูง โดย Kevin Hu ประธานฝ่ายผลิตภัณฑ์การสื่อสารข้อมูลของหัวเว่ย กล่าวว่า “ในยุคของ 5G และคลาวด์ เครือข่าย IP จำเป็นต้องมีแบนด์วิดท์สูงและเข้าถึงได้ แซงหน้าเครือข่ายผู้บริโภคที่เน้นความเร็ว เพื่อกลายเป็นเครือข่ายขนส่งการผลิตที่สามารถรับประกันคุณภาพได้ หัวเว่ยจึงกำลังจะเปิดตัวเราเตอร์ในซีรีส์ NetEngine 8000 ซึ่งถูกออกแบบมาสำหรับเครือข่าย IP บรอดแบนด์ขนาดใหญ่ที่มีการเชื่อมต่ออันชาญฉลาด และ O&M เพื่อมาตอบสนองความต้องการของบริการ 5G ในระหว่างกระบวนการเคลื่อนย้ายสู่ระบบคลาวด์ขององค์กรต่าง ๆ ทำให้ธุรกิจของผู้ให้บริการเครือข่ายเติบโตยิ่งขึ้น”
Luo Rui รองประธานบริษัท China Telecom Ningxia กล่าวถึงการนำโซลูชัน IP สายส่วนตัวอันชาญฉลาดของหัวเว่ยมาใช้ร่วมกับเครือข่ายส่วนตัวแห่งแรกสำหรับผู้ใช้ในภาครัฐ ภาคสาธารณสุข และภาคการศึกษา เพื่อการเชื่อมต่อแบบไร้รอยต่อ ระหว่างเครือข่ายและคลาวด์คุณภาพสูง ขณะที่ Faruk Ekici หัวหน้าฝ่ายวางแผนเครือข่ายขนส่งของ Turkcell ได้กล่าวถึง การสร้างเครือข่ายขนส่ง IP ที่รองรับ 5G แบบบรรจบและสามารถตั้งโปรแกรมได้ ตลอดจนการมองลึกลงไปถึงความเป็นผู้นำด้วยเทคโนโลยี IP ยุคใหม่
iMaster NCE ขับเคลื่อนเครือข่ายอิสระ FBB เพื่อธุรกิจที่คล่องตัว
พวกเรากำลังมุ่งสู่โลกที่เชื่อมต่อถึงกันและมีความชาญฉลาดอย่างเต็มตัว ดังนั้นการทำให้เครือข่ายสามารถทำงานได้อย่างอัตโนมัติและชาญฉลาดนั้น ถือเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับประสบการณ์ระดับพรีเมี่ยม และบริการสื่อสารครบวงจร David Lu ประธานฝ่ายพัฒนาทั่วไปของหัวเว่ย กล่าวว่า “เครือข่ายอิสระเป็นที่ยอมรับอย่างดีในหน่วยงานมาตรฐาน และถือเป็นเป้าหมายของการพลิกโฉมผู้ให้บริการ ด้วยเหตุนี้ Huawei iMaster NCE ซึ่งเป็นระบบควบคุมและการจัดการเชิง FBB อันชาญฉลาดที่ให้ความสำคัญกับคุณค่า 5G และ F5G จึงกำลังวางเครือข่ายอิสระที่สามารถทำงาน รักษา และปรับแต่งได้ด้วยตนเอง โดย iMaster NCE รับประกันมาตรฐานการใช้งานทั้งก่อน ระหว่าง และหลังการขาย นอกจากนี้ ยังใช้ประโยชน์จากปัญญาประดิษฐ์และเทคโนโลยีบิ๊กดาต้า เพื่อให้บริการ O&M ในเชิงรุก ซึ่งหมายถึงประสิทธิภาพบริการ O&M ที่สูงกว่า และคุณภาพการทำงานของเครือข่ายที่ดีกว่า”
เครือข่ายพรีเมี่ยมจะสร้างโอกาสใหม่แก่ผู้ให้บริการ ร่วมกันคว้าโอกาสนี้ไว้ และสร้างโลกดิจิทัลที่ดีกว่าเพื่อประโยชน์ของพวกเราทุกคน
รูปภาพ – https://photos.prnasia.com/prnh/20200730/2871959-1

เผยแพร่ข่าวโดย:

พีอาร์ บุฟเฟ่ต์ www.prbuffet.com ข่าวประชาสัมพันธ์ online







Leave a Reply

Your email address will not be published.

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.