ดั๊บเบิ้ล เอ ให้ใจ ให้แรงบันดาลใจ จัดกิจกรรม “A to a” อาชีพน่ารู้ในสวนสัตว์

A-to-a-อาชีพน่ารู้ในสวนสัตว์

วันนี้ ดั๊บเบิ้ล เอ ได้พาเยาวชนลูกหลานชาวนา มาเจาะลึกกับผู้อยู่เบื้องหลังที่ดูแลรับผิดชอบชีวิตของสัตว์ต่าง ๆ ในสวนสัตว์ดุสิต ภายใต้กิจกรรม “A to a” ในโครงการ Double A Better Tomorrow ปลูกฝัน ปลูกปัญญา เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ลูกหลานชาวนาและเยาวชน ก้าวสู่อาชีพในฝัน โดยมีพี่ A (ใหญ่) ที่ประสบความสำเร็จในอาชีพนั้นๆ มาแนะนำถ่ายทอดประสบการณ์ให้น้องๆ a (เล็ก) เป็นการจุดประกายความฝัน ค้นหาตัวเองและทำให้เป็นจริงได้

กิจกรรมในครั้งนี้ มีน้องๆจากโรงเรียนบ้านโป่งไผ่ ตำบลท่าตูม อำเภอศรีมหาโพธิ จังหวัดปราจีนบุรี ร่วมเรียนรู้อาชีพสัตวแพทย์และนักโภชนาการสัตว์ ณ สวนสัตว์ดุสิต กรุงเทพฯ

พี่ A (ใหญ่) ที่มาร่วมเป็นดั๊บเบิ้ล เอ อาสา คือ “คุณหมอปัณ” สัตวแพทย์ปัณณวัฒน์ สุภาพรรณชาติ ทำหน้าที่ดูแลรักษาสัตว์ที่เจ็บป่วยในสวนสัตว์แห่งนี้ ได้แนะนำอาชีพสัตวแพทย์ ว่า “เบื้องต้นสิ่งที่น้องจะก้าวสู่อาชีพนี้ ต้องมีความมุ่งมั่น ตั้งใจ และเลือกเรียนสายสามัญ แผนการเรียนวิทย์-คณิต เพื่อสอบเข้าคณะสัตวแพทยศาสตร์ ใช้เวลาเรียน 6 ปี นอกจากน้องๆต้องขยันตั้งใจให้มากแล้ว ยังต้องไม่กลัวบาดแผล ไม่กลัวเลือด และทนเห็นความเจ็บปวดได้ หากเรารักสัตว์แต่ไม่อยากเห็นเลือด ก็อาจจะเรียนไปทางสัตวศาสตร์ สัตวบาลแทนได้”

คุณหมอเล่าว่า สัตว์ไม่สามารถพูดได้ ฉะนั้นต้องรู้จักสังเกตว่า อาการของมันเป็นเช่นไร ซึ่งคุณหมอบอกว่าขณะเรียนก็ศึกษาสัตว์หลากหลายชนิดทั้ง หมา แมว นก ไก่ หมู วัว ฯลฯ แต่ไม่มีเรียนเรื่องสัตว์ป่า ดังนั้นพอถึงเวลาทำงาน ก็สามารถนำมาปรับใช้กับสัตว์ในประเภทคล้ายกัน เช่น เสือกับแมว หมีกับหมา เป็นต้น อาชีพนี้ถือว่าต้องมีความเสียสละ ทุ่มเท และรักสัตว์ หน้าที่การทำงานในแต่ละวันของคุณหมอ จะดูความผิดปกติของสัตว์ในสวนสัตว์ จากนั้นก็กลับมาที่โรงพยาบาลดูแลสัตว์ที่บาดเจ็บ พักรักษาตัว และดูแลสัตว์ที่ป่วยเข้ามาใหม่ต่อไป ที่นี่จะมีหมอ 3 คน ต้องดูแลสัตว์ราว 1,500 ชีวิต

นอกจากนี้ โดยคุณหมอยังได้สาธิตการอุ้มกระต่ายที่ถูกต้อง และให้ความรู้ว่า ไม่ควรอุ้มด้วยการจับหูกระต่าย มันจะเจ็บเหมือนคนเราที่โดนดึงหู เพราะมีเส้นประสาทอยู่ที่ใบหูของมันด้วย แต่ควรจับที่หลังคอพร้อมกับช้อนมืออุ้มที่ก้นของมัน และให้วิธีสังเกตว่ากระต่ายมีความผิดปกติหรือป่วยอย่างไร

เด็กหญิงปาริชาติ มนตรี หรือน้องชมพู่ นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 เล่าว่า “สัตวแพทย์เป็นอาชีพในฝันของหนูค่ะ กิจกรรม A to a ในวันนี้ทำให้หนูรู้สึกสนุกและอยากดูแลสัตว์มากขึ้นค่ะ ที่สำคัญทำให้หนูรู้ว่าหนูต้องเตรียมตัวอย่างไรบ้าง หนูชอบที่พี่หมอเล่าให้ฟังว่าในแต่ละวันการทำงานของพี่หมอต้องทำอะไรเป็นสิ่งที่หนูไม่รู้มาก่อนค่ะ ตอนนี้หนูมีแรงบันดาลใจและจะทำให้ได้ตามที่ฝันค่ะ”

อีกหนึ่งอาชีพน่ารู้ในสวนสัตว์ คือ นักโภชนาการสัตว์ ซึ่งพี่ A (ใหญ่) ที่มาแนะนำคือ คุณณรงค์ศักดิ์ สำราญกลาง หรือคุณอ๊อด พาคณะเข้าชมห้องปฎิบัติการที่มองไปรอบๆแล้วคล้ายกับห้องครัว คุณอ๊อด กล่าวว่า “นักโภชนาการสัตว์ นับเป็นอาชีพที่มีความสำคัญ เพราะมีหน้าที่ดูแลอาหารการกินของสัตว์ที่อยู่ในสวนสัตว์ ความท้าทายของอาชีพนี้คือ สัตว์ที่เราดูแลเป็นสัตว์ป่า เราจะต้องเรียนรู้การดำรงชีวิตของสัตว์แต่ละชนิด หมวดหมู่และปริมาณอาหารที่ต้องให้ ซึ่งแบ่งประเภทของสัตว์ตามชนิดอาหารที่มันกิน คือ สัตว์กินพืช เช่น ม้าลาย ยีราฟ เป็นต้น สัตว์ที่กินเนื้อสัตว์ เช่น เสือ สิงโต แมวน้ำ สัตว์กินทั้งพืชและเนื้อสัตว์ เช่น ลิง ในแต่ละวันเราก็ต้องจัดเตรียม ทำความสะอาด รู้สัดส่วนในการให้อาหารของสัตว์แต่ละประเภท รวมถึงต้องรู้ว่าสัตว์ชนิดไหนห้ามทานอาหารอะไร มิฉะนั้นอาจทำให้สัตว์ตายได้ น้องๆที่สนใจในอาชีพนี้ต้องขยัน ตั้งใจเรียน และมีความรับผิดชอบ คณะที่เกี่ยวข้องในสายอาชีพนี้ เช่น คณะเกษตรศาสตร์ สาขาสัตวศาสตร์ สาขาสัตวบาล หรือคณะวิทยาศาสตร์ สาขาสัตววิทยา”

เด็กชายวัชรพล เจริญพล หรือน้องโฟน นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 บอกกับเราว่า “ตอนแรกผมไม่รู้ครับว่ามีอาชีพนี้ในสวนสัตว์ รู้แค่ว่าต้องมีคนให้อาหารสัตว์แน่ๆ แต่วันนี้รู้แล้วครับเรียกอาชีพนี้ว่า ‘นักโภชนาการสัตว์’ ผมฟังพี่อ๊อดแล้วรู้สึกว่าเป็นอาชีพที่ไม่น่าเบื่อครับ ได้เจอสัตว์หลายชนิดในทุกๆวัน จริงๆสัตว์ที่ผมชอบที่สุดคือ ลิง อนาคตหากความฝันผมเป็นจริงได้ทำอาชีพนี้ ผมจะคิดเมนูแปลกใหม่และมีคุณค่าทางอาหารให้กับสัตว์ครับ วันนี้ผมขอขอบคุณดั๊บเบิ้ล เอ มากๆครับที่ให้โอกาสผมและเพื่อนๆ มาเรียนรู้และให้เรามีแรงบันดาลใจในอาชีพต่างๆครับ”

โดยคุณอ๊อด ก็ฝากให้นักท่องเที่ยวที่มาชมสัตว์ อย่าให้อาหารสัตว์เอง เพราะอาจจะไม่ทราบหรือไม่ระมัดระวังแล้วทำให้สัตว์ตายได้ เช่น ค่าง 5 สี มันกินกล้วยสุกไม่ได้ กินแล้วมันจะท้องอืดและตาย ซึ่งที่สวนสัตว์ก็พบสัตว์หลายตัวที่ตายเพราะอาหารที่มีหนังยางรัดติดอยู่หรือมีเศษสตางค์ติดไป

แรงบันดาลใจ เป็นเหมือนแสงสว่างที่จะนำทางให้ เยาวชนรุ่นใหม่ประสบความสำเร็จในอนาคต แคมเปญ Double A Better Tomorrow ปลูกฝัน ปลูกปัญญา จึงขอเชิญชวนพี่ ๆ ทุกอาชีพร่วมเป็นพี่ A (ใหญ่) แบ่งปันความรู้ ประสบการณ์ที่มีค่า ให้กับน้อง a (เล็ก) ในกิจกรรม A to a โดยเริ่มจากคนใกล้ตัวและขยายต่อไปยังน้องๆที่ขาดโอกาส เพื่อร่วมสร้างอนาคตที่ดีให้กับเยาวชนของประเทศร่วมกัน สามารถชมคลิปแนะนำอาชีพจากพี่ A ใหญ่ทั้งสองท่านนี้ได้ที่ Youtube Double A Thailand หรือ Facebook Double A Club

เผยแพร่ข่าวโดย:

พีอาร์ บุฟเฟ่ต์ www.prbuffet.com ข่าวประชาสัมพันธ์ online







Leave a Reply

Your email address will not be published.

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.