บลูมเบิร์กจัดงานสัมมนา “อนาคตของเทคโนโลยีและการใช้ข้อมูลทางการเงิน”

บลูมเบิร์กปันประสบการณ์การใช้เทคโนโลยีในงานสัมมนา “อนาคตของเทคโนโลยีและการใช้ข้อมูลทางการเงิน” ที่จัดเป็นครั้งแรกในกรุงเทพฯ
บลูมเบิร์ก (Bloomberg) จัดงานสัมมนาหัวข้อ “อนาคตของเทคโนโลยีและการใช้ข้อมูลทางการเงิน – Future of Technology and Data in Finance” ในวันที่ 16 พฤษภาคมที่กรุงเทพฯ โดยมีประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านสารสนเทศ หัวหน้าฝ่ายเทคโนโลยีและข้อมูล ผู้เชี่ยวชาญจากบลูมเบิร์ก และผู้ปฏิบัติการในตลาดร่วมกันหารือถึงแนวทางที่บริษัทด้านการเงินสามารถต่อยอดการดำเนินงานผ่านการใช้ข้อมูล การเรียนรู้ของเครื่อง (machine learning) และการดำเนินการกลยุทธ์ที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูลในยุคของระบบอัตโนมัติ
บลูมเบิร์กสนับสนุนผู้ที่ทำงานในสาขาการเงินมากกว่า 325,000 คนทั่วโลกซึ่งใช้ข้อมูลแบบเรียลไทม์และเทคโนโลยีขั้นสูงของบริษัทเพื่อการตัดสินใจด้านการลงทุนในทุกวัน ข้อมูลทางการเงินและเครือข่ายทั่วโลกของของบลูมเบิร์กได้ช่วยขับเคลื่อนตลาดการเงินของโลกผ่านข้อมูลแบบเรียลไทม์ กระบวนการการวิเคราะห์ โซลูชันด้านการซื้อขายและข่าวสาร
สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (Digital Economy Promotion Agency – Depa) คาดว่าอุตสาหกรรมข้อมูลขนาดใหญ่ (big data) ในประเทศไทยจะมีมูลค่าอยู่ที่ 1.77 หมื่นล้านบาทในปี 2562 เพิ่มขึ้นร้อยละ 16.4 (1.545 หมื่นล้านบาท ) จากปี 2561 ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 13.7 จากปีก่อนหน้า โดยอุตสาหกรรมการเงินและการธนาคารใช้ข้อมูลขนาดใหญ่มากที่สุด
“ความท้าทายที่สำคัญที่สุดของสถาบันการเงินในปัจจุบันคือการระบุชุดข้อมูลที่ต้องการจะใช้ วิธีการตรวจสอบเพื่อให้แน่ใจว่าชุดข้อมูลที่ได้มีคุณภาพสูง สม่ำเสมอ สอดคล้องเชื่อมโยงและพร้อมใช้งาน รวมทั้งวิธีการในการแปรผลข้อมูลเหล่านั้นอย่างรวดเร็วเพื่อการตัดสินใจในการลงทุน การเรียนของเครื่องจำเป็นต้องขับเคลื่อนด้วยข้อมูลและช่วยให้นักลงทุนสามารถเข้าใจความสัมพันธ์ที่ซับซ้อนได้อย่างรวดเร็ว ทั้งนี้บริษัทที่เข้าใจเรื่องนี้ในขณะนี้และได้วางกลยุทธ์ของธุรกิจอันขับเคลื่อนด้วยข้อมูลจะก้าวสู่การเป็นผู้ชนะในที่สุดในยุคแห่งการเรียนรู้ของเครื่องนี้” นายทาราน คีรา หัวหน้าฝ่ายขายประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของบลูมเบิร์กกล่าว
บลูมเบิร์กยังระบุถึงวิวัฒนาการของเทคโนโลยีในภาคการเงิน ซึ่งมีอยู่ด้วยกัน 3 ระยะอันประกอบด้วยการเชื่อมโยงตลาดด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ (electronification) การสร้างระบบเครื่องจักรอัตโนมัติ (automation) และการแปลงเป็นดิจิทัล (digitization) การเชื่อมโยงตลาดด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ถือเป็นแนวโน้มที่กำลังมาแรงในตลาดที่กำลังพัฒนาในเอเชีย โดยมีการเปลี่ยนรูปแบบจากเสียง (voice) ไปสู่แพลตฟอร์มอิเล็กทรอนิกส์ กฎระเบียบที่ออกมารองรับช่วยผลักดันระบบอัตโนมัติในกระบวนการค้าขายให้บริษัททางการเงินหลายแห่ง ระยะที่สามคือการแปลงตลาดให้เป็นดิจิทัลซึ่งมีข้อมูลและการวิเคราะห์ขั้นสูง การเรียนรู้ของเครื่อง รวมทั้งวิทยาการด้านข้อมูลเป็นตัวกำหนดวิถีของของการทำธุรกิจการเงิน

นายคีราจะกล่าวปาฐกถาพิเศษเรื่องภูมิทัศน์ตลาดการเงินในปัจจุบันและวิธีการกำหนดอนาคตของเทคโนโลยีและข้อมูลขนาดใหญ่ด้านการเงิน นอกจากนี้เขาจะแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนของบลูมเบิร์กในด้านระบบอัตโนมัติรุ่นถัดไปเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของการซื้อขาย ระบบการเรียนรู้ของเครื่องและเทคนิคการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (natural language processing techniques) เพื่อดึงโครงสร้างของข้อมูลจากเอกสาร วิเคราะห์กระแส และการกำหนดพฤติกรรมการสอบถามที่เป็นภาษาธรรมชาติ(natural language query interfaces)

นายคีรากล่าวเสริมว่า “ผู้ที่ทำงานด้านการเงินต่างกำลังมองหาเทคโนโลยีเพื่อดำเนินการระบบอัตโนมัติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและสภาพคล่องให้มากขึ้นในการซื้อขาย โดยมีเป้าหมายสูงสุดในการสร้างตลาดการเงินที่โปร่งใสและคึกคักมากขึ้น การเดินหน้าสู่การซื้อขายทางอิเล็กทรอนิกส์และการดำเนินการที่ดีที่สุดที่ขับเคลื่อนด้วยกฎระเบียบจะสามารถสร้างข้อมูลได้มากขึ้นโดยจำเป็นต้องอาศัยการนำเทคโนโลยีและแพลตฟอร์มข้อมูลแบบผสมผสานมาใช้งาน (Integrated technology and data platforms)”
นอกจากนี้ผู้เข้าร่วมสัมมนาจะได้รับฟังเรื่องราวความสำเร็จและความท้าทายต่างๆ เกี่ยวกับข้อมูลและเทคโนโลยีจากผู้ประกอบการตลาดในประเทศไทยอีกด้วย สำหรับข้อมูลเพิ่มเติมหรือต้องการลงทะเบียนเข้าร่วมสัมมนาโปรดคลิกที่ http://www.bloomberglp.com/bkk-tech-decoded’

เผยแพร่ข่าวโดย:

พีอาร์ บุฟเฟ่ต์ www.prbuffet.com ข่าวประชาสัมพันธ์ online







Leave a Reply

Your email address will not be published.

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.