เฮอร์บาไลฟ์ นิวทริชั่น เผยชาวเอเชียแปซิฟิกกว่า 70% อยากเป็นเจ้าของธุรกิจ โดยส่วนใหญ่เชื่อว่าเป็นนายตัวเองเติมเต็มชีวิตได้มากกว่า

เฮอร์บาไลฟ์ นิวทริชั่น (Herbalife Nutrition) บริษัทโภชนาการระดับโลก เปิดเผยผลสำรวจความเป็นผู้ประกอบการในเอเชียแปซิฟิก “Asia Pacific Entrepreneurship Survey” ประจำปี 2562 ซึ่งจัดทำขึ้นเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา โดยพบว่าผู้บริโภคในเอเชียแปซิฟิกราวเจ็ดในสิบ (71%) อยากเป็นเจ้าของธุรกิจ โดยความต้องการเป็นผู้ประกอบการมีมากที่สุดในชาวอินโดนีเซีย (96%) ฟิลิปปินส์ (92%) ไทย (89%) และมาเลเซีย (86%) นอกจากนี้ ชาวเอเชียแปซิฟิกส่วนใหญ่ (54%) เชื่อว่าการเป็นนายตัวเองจะเติมเต็มจุดมุ่งหมายในชีวิตได้มากกว่าการทำงานให้คนอื่น

สตีเฟน คอนชี รองประธานอาวุโสและกรรมการผู้อำนวยการประจำภูมิภาคเอเชียแปซิฟิกของเฮอร์บาไลฟ์ นิวทริชั่น กล่าวว่า “ผู้บริโภคในเอเชียแปซิฟิกจำนวนมากฝันอยากมีธุรกิจของตัวเอง แต่การทำฝันให้เป็นจริงอาจดูน่าหวาดหวั่น ผลสำรวจนี้เผยให้เห็นมุมมองและทัศนคติของผู้ที่อยากเป็นผู้ประกอบการ นอกจากนั้นยังมีการนำเสนอประสบการณ์ของผู้ประกอบการตัวจริงเพื่อช่วยให้เราเข้าใจมากขึ้นว่าจะสามารถสานฝันของคนเหล่านี้ได้อย่างไร ด้วยหวังว่าหลายคนจะก้าวข้ามความกลัวและกลายเป็นผู้ประกอบการในวันหนึ่ง”

การทำตามฝันเป็นแรงผลักดันให้ผู้ประกอบการเริ่มธุรกิจของตัวเอง

เมื่อถามถึงเหตุผลที่เริ่มทำธุรกิจของตัวเอง ผู้ประกอบการในเอเชียแปซิฟิกเกือบครึ่ง (48%) ที่มีธุรกิจเป็นของตัวเองเรียบร้อยแล้ว พร้อมใจตอบว่าเป็นเพราะต้องการทำตามฝัน ตามมาด้วยเหตุผลอื่นๆ ดังนี้

– ต้องการเพิ่มรายได้ (43%)
– ทำตามความรู้สึก/สัญชาตญาณ (37%)
– ได้รับการสนับสนุนจากครอบครัว (30%)
– ได้รับการสนับสนุนจากเพื่อนฝูง (22%)

แม้ว่าประสบการณ์ความเป็นผู้ประกอบการจะแตกต่างกัน แต่ผู้ประกอบการในเอเชียแปซิฟิกมากถึงสามในสี่ (77%) ระบุว่ามีความสุขมากขึ้นตั้งแต่เริ่มทำธุรกิจของตัวเอง แสดงให้เห็นว่าความเป็นผู้ประกอบการให้ผลตอบแทนที่คุ้มค่าสำหรับคนในภูมิภาค

ผู้ที่อยากมีธุรกิจของตัวเองส่วนใหญ่ฝันว่าวันหนึ่งจะได้ลาออกจากงาน

สองในสาม (67%) ของผู้ที่อยากมีธุรกิจของตัวเอง ฝันว่าวันหนึ่งจะได้เดินไปบอกเจ้านายว่าขอลาออก และหกในสิบ (62%) เชื่อมั่นว่าไอเดียธุรกิจของตนเองสามารถปฏิวัติวงการ โดยความเชื่อมั่นนี้พุ่งสูงสุดในมาเลเซีย (80%) ฟิลิปปินส์ (78%) ไทย (74%) และอินโดนีเซีย (68%)

นอกจากนี้ ผู้ที่อยากมีธุรกิจของตัวเองยังเชื่อมั่นว่าการมีธุรกิจของตัวเองมีข้อดีมากมาย ดังนี้

– สามารถจัดตารางชีวิตและการทำงานได้อย่างยืดหยุ่น (65%)
– สามารถเพิ่มพูนรายได้ของตัวเอง (60%)
– สามารถเป็นนายตัวเอง (55%)
– สามารถทำในสิ่งที่ตัวเองรัก (52%)
– มีความพึงพอใจในการทำงานมากขึ้น (45%)

การเป็นผู้ประกอบการยังเป็นเรื่องหวาดหวั่นสำหรับคนส่วนใหญ่

ความเป็นผู้ประกอบการมีข้อดีอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม กว่าแปดในสิบ (85%) ของผู้ที่อยากมีธุรกิจของตัวเอง ยังมีความกลัวที่จะเริ่มต้นธุรกิจ และมากถึง 79% ยอมรับว่า บางครั้งรู้สึกว่าตนเองอาจไม่มีโอกาสได้เริ่มธุรกิจเลย

ถึงกระนั้น ชาวเอเชียแปซิฟิกที่อยากมีธุรกิจของตัวเองยังคงคิดจริงจังเกี่ยวกับการเป็นผู้ประกอบการ โดยเกือบครึ่งหนึ่ง (47%) มองว่ารายได้จากการทำธุรกิจของตัวเองสำคัญพอๆกับการทำตามฝัน ขณะที่ 33% มองว่ารายได้จากการทำธุรกิจของตัวเองสำคัญกว่าการทำตามฝัน

ในส่วนของความเสี่ยงทางการเงินนั้น ผู้ที่อยากมีธุรกิจของตัวเองส่วนใหญ่ราวสี่ในห้า (78%) จะใช้เงินของตัวเองในการลงทุนเริ่มธุรกิจ ขณะที่ส่วนน้อยราว 28% จะใช้เงินของครอบครัว นอกจากนี้ 26% จะขอสินเชื่อสำหรับธุรกิจขนาดย่อม และ 25% จะขอสินเชื่อส่วนบุคคลเพื่อเริ่มธุรกิจของตัวเอง

ทุนคืออุปสรรคสำคัญที่สุดของผู้ประกอบการในเอเชียแปซิฟิก

เมื่อถามว่าอะไรคืออุปสรรคของการเป็นผู้ประกอบการ ผู้ที่อยากมีธุรกิจของตัวเองส่วนใหญ่ (65%) ตอบว่าทุนในการเริ่มธุรกิจเป็นอุปสรรคสำคัญที่สุด ตามมาด้วยปัจจัยดังต่อไปนี้

– ความกังวลว่าธุรกิจจะไม่ประสบความสำเร็จ (42%)
– ความกังวลว่าธุรกิจจะไม่ทำกำไร (40%)
– ขาดการสนับสนุนด้านการเงินและความรู้เรื่องตลาด (40%)

อย่างไรก็ดี ผู้ที่อยากมีธุรกิจของตัวเองส่วนใหญ่ (77%) ระบุว่าจะมีความมั่นใจมากขึ้นในการเริ่มธุรกิจของตัวเองหากมีหุ้นส่วนธุรกิจ ความคิดนี้ชัดเจนเป็นพิเศษในมาเลเซีย (83%) อินโดนีเซีย (79%) ฟิลิปปินส์ (76%) และไทย (73%)

สตีเฟน คอนชี กล่าวว่า “จากผลสำรวจดังกล่าว เราเห็นว่าผู้ที่อยากมีธุรกิจของตัวเองมีการวางแผนล่วงหน้าด้วยความรอบคอบอย่างมาก โดยจะเริ่มเดินตามความฝันต่อเมื่อมั่นใจว่าธุรกิจที่สร้างขึ้นจะมีรายได้ชัดเจนและมีต้นทุนในการเริ่มธุรกิจค่อนข้างต่ำ อย่างไรก็ตาม การเริ่มธุรกิจมีทั้งข้อดีและความเสี่ยงเสมอ ดังนั้น ผู้ที่อยากมีธุรกิจของตัวเองจำเป็นต้องมีเครือข่ายผู้สนับสนุนที่ดี ซึ่งสามารถให้ความรู้และความเชี่ยวชาญสำหรับการเริ่มธุรกิจ และช่วยลดความเสี่ยงไปพร้อมกัน”

เกี่ยวกับผลสำรวจความเป็นผู้ประกอบการในเอเชียแปซิฟิกประจำปี 2562 โดยเฮอร์บาไลฟ์ นิวทริชั่น

ผลสำรวจความเป็นผู้ประกอบการในเอเชียแปซิฟิกประจำปี 2562 จัดทำโดยเฮอร์บาไลฟ์ นิวทริชั่น และทำการสำรวจโดยบริษัทวันโพล (OnePoll) เมื่อเดือนเมษายน 2562 โดยมีผู้ตอบแบบสำรวจ 9,000 คนจาก 9 ประเทศทั่วเอเชียแปซิฟิก ได้แก่ ออสเตรเลีย ฮ่องกง อินโดนีเซีย ญี่ปุ่น เกาหลี มาเลเซีย ฟิลิปปินส์ สิงคโปร์ และไทย

เกี่ยวกับเฮอร์บาไลฟ์ นิวทริชั่น

เฮอร์บาไลฟ์ นิวทริชั่น เป็นบริษัทโภชนาการระดับโลกที่มีความมุ่งหมายในการทำให้ผู้คนทั่วโลกมีสุขภาพที่ดีขึ้นและมีความสุขมากขึ้น บริษัทก่อตั้งขึ้นด้วยพันธกิจด้านโภชนาการ โดยช่วยเปลี่ยนแปลงชีวิตผู้คนด้วยโภชนาการและแผนการจัดการโภชนาการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2523 บริษัทส่งมอบผลิตภัณฑ์คุณภาพสูงที่ผ่านการรับรองทางวิทยาศาสตร์ พร้อมให้คำแนะนำเฉพาะบุคคลจากผู้จำหน่ายอิสระ รวมถึงนำเสนอแนวทางในการสนับสนุนชุมชนเพื่อเป็นแรงบันดาลใจให้ผู้บริโภคใช้ชีวิตอย่างมีสุขภาพดีและมีวิถีชีวิตที่กระฉับกระเฉงยิ่งขึ้น

ผลิตภัณฑ์ของเฮอร์บาไลฟ์ นิวทริชั่น ซึ่งประกอบด้วยผลิตภัณฑ์โภชนาการเฉพาะ ผลิตภัณฑ์เพื่อการจัดการน้ำหนัก ผลิตภัณฑ์เพื่อเสริมสร้างพลังงานและเพื่อการกีฬา รวมถึงผลิตภัณฑ์ส่วนบุคคล จัดจำหน่ายผ่านผู้จำหน่ายอิสระในกว่า90 ประเทศ

เฮอร์บาไลฟ์ นิวทริชั่น ให้การสนับสนุน เฮอร์บาไลฟ์ นิวทริชั่น ฟาวเดชั่น (Herbalife Nutrition Foundation) องค์กรไม่แสวงผลกำไรที่ช่วยเหลือหน่วยงานด้านโภชนาการในระดับชุมชน ทั้งยังให้การสนับสนุนการแข่งขันกีฬา นักกีฬา และสโมสรกีฬากว่า 190 รายทั่วโลก

ปัจจุบัน เฮอร์บาไลฟ์ นิวทริชั่น มีพนักงานกว่า 8,300 คนทั่วโลก สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ IAmHerbalife.com

รูปภาพ – https://photos.prnasia.com/prnh/20190619/2502067-1
คำบรรยายภาพ – ผลสำรวจความเป็นผู้ประกอบการในเอเชียแปซิฟิกประจำปี 2562 โดยเฮอร์บาไลฟ์ นิวทริชั่น

เผยแพร่ข่าวโดย:

พีอาร์ บุฟเฟ่ต์ www.prbuffet.com ข่าวประชาสัมพันธ์ online







Leave a Reply

Your email address will not be published.

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.