Envision ลงนามความร่วมมือเชิงกลยุทธ์เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืนในสิงคโปร์

เปลี่ยนนโยบาย “Smart Nation” ให้เป็นรูปธรรมจับต้องได้

Envision บริษัทแพลตฟอร์มพลังงานดิจิทัลชั้นนำของโลก ลงนามความร่วมมือกับองค์กร 4 แห่งในสิงคโปร์ เพื่อพัฒนาระบบนิเวศเชิงนวัตกรรมที่จะช่วยผลักดันการเปลี่ยนผ่านไปสู่ระบบดิจิทัล

(รูปภาพ: https://mma.prnewswire.com/media/637122/MOU_Signing_Ceremony.jpg )
(รูปภาพ: https://mma.prnewswire.com/media/637123/Envision_and_Sunseap.jpg )
(รูปภาพ: https://mma.prnewswire.com/media/637124/Partnership_with_SERIS_and_NTU.jpg )

การสร้างความร่วมมือกับ Ascendas-Singbridge Group, Sunseap Group, Solar Energy Research Institute of Singapore (SERIS) และ Nanyang Technological University, Singapore (NTU Singapore) เกิดขึ้นก่อนการเปิดตัว Global Digital Hub ของ Envision ในสิงคโปร์ โดยมีจุดมุ่งหมายเพื่อส่งเสริมนวัตกรรมการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ การวิจัยและพัฒนาด้าน IoT รวมถึงการบ่มเพาะบุคลากรที่มีความสามารถ พร้อมกับแสวงหาความเป็นเลิศทางการค้า สำหรับการสร้างความร่วมมือครั้งนี้เป็นเครื่องยืนยันว่า Envision มุ่งให้การสนับสนุนสิงคโปร์อย่างจริงจัง และจะช่วยผลักดันนโยบาย “Smart Nation” ของสิงคโปร์ให้กลายเป็นรูปธรรม

คุณเล่ย จาง ซีอีโอของ Envision เปิดเผยว่า “Envision ได้รับแรงบันดาลใจจากความมุ่งมั่นในการดำเนินนโยบาย Smart Nation ของสิงคโปร์ เรารู้สึกตื่นเต้นที่ได้เปลี่ยนนโยบาย Smart Nation จากนามธรรมให้เป็นรูปธรรมที่จับต้องได้ ผ่านระบบนิเวศและแพลตฟอร์ม IoT อัจฉริยะ และการร่วมมือกับบรรดาพันธมิตรที่มีจุดมุ่งหมายเดียวกันจะช่วยให้การดำเนินงานมีความรวดเร็วยิ่งขึ้น”

บันทึกความเข้าใจระหว่าง Ascendas-Singbridge กับ Envision จะเอื้อให้ทั้งสองบริษัทสามารถร่วมมือกันพัฒนาโซลูชั่นอาคารอัจฉริยะโดยใช้ระบบนิเวศและแพลตฟอร์ม EnOS(TM) ของ Envision ขณะเดียวกัน Ascendas-Singbridge จะมอบความรู้เชิงธุรกิจรวมถึงอุปกรณ์สำหรับใช้ในการทดสอบโซลูชั่นที่พัฒนาร่วมกัน ณ Galaxis ซึ่งเป็นศูนย์วิจัยและพัฒนาของ Ascendas-Singbridge ในเขต one-north ของสิงคโปร์ นอกจากนี้ thebridge ซึ่งเป็นพื้นที่ปฏิบัติงานร่วมของ Ascendas-Singbridge ใน Singapore Science Park ยังเป็นที่ตั้งของ Global Digital Hub ของ Envision ด้วย ซึ่งทำเลทองดังกล่าวช่วยให้ Envision เติบโตในประเทศและก้าวไกลในระดับโลก โดยเฉพาะในตลาดพลังงานเอเชียแปซิฟิก

คุณมาโนฮาร์ เคียตานิ รองซีอีโอของ Ascendas-Singbridge กล่าวเสริมว่า “เรายินดีที่ได้สร้างความร่วมมือกับ Envision และในฐานะที่เราเป็นผู้ให้บริการโซลูชั่นการพัฒนาเมืองและพื้นที่ธุรกิจอย่างยั่งยืนรายใหญ่ของเอเชีย เราจึงมุ่งมั่นที่จะพัฒนาอุทยานธุรกิจอัจฉริยะโดยผสมผสานการพลิกโฉมกับโซลูชั่นอาคารยั่งยืนเพื่อผู้เช่าและชุมชนของเรา”

สำหรับความร่วมมือระหว่าง Envision กับ Sunseap Group จะทำให้ทั้งสองฝ่ายสามารถพัฒนาแพลตฟอร์ม IoT ร่วมกัน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพให้กับโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ของ Sunseap ทั้งในปัจจุบันและอนาคต อาทิ โครงการติดตั้งแผงเซลล์แสงอาทิตย์บนหลังคา บนพื้นดิน และบนผิวน้ำ ทั้งในสิงคโปร์และทั่วภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก นอกจากนั้นยังมีการผนวกรวมเทคโนโลยีการจัดการพลังงานเชิงอุปสงค์ ตลอดจนสำรวจความเป็นไปได้ในการใช้งานพลังงานแสงอาทิตย์เชิงนวัตกรรม

คุณแฟรงค์ พวน ผู้ร่วมก่อตั้งและผู้อำนวยการของ Sunseap Group กล่าวว่า “เราตื่นเต้นที่ได้ร่วมมือกับ Envision ในการพัฒนาโซลูชั่นพลังงานสะอาดเชิงนวัตกรรม เพื่อส่งมอบให้กับลูกค้าในราคาที่เอื้อมถึงและเชื่อถือได้ ความร่วมมือครั้งนี้เปิดโอกาสให้เราได้ใช้เทคโนโลยีของ Envision เพื่อบ่มเพาะนวัตกรรมพลังงานสะอาดท่ามกลางตลาดที่เติบโตของเอเชีย”

ขณะเดียวกัน SERIS จะสนับสนุนการพัฒนาแพลตฟอร์ม EnOS(TM) โดยเน้นในส่วนของการพยากรณ์อากาศ ระบบตรวจสอบติดตามอัจฉริยะในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน รวมถึงการใช้งานและซ่อมบำรุงระบบแผงเซลล์แสงอาทิตย์ขนาดใหญ่ นอกจากนี้ ความร่วมมือดังกล่าวจะช่วยให้ทั้งสองฝ่ายสามารถดำเนินกิจกรรมการวิจัยและพัฒนาที่มีศักยภาพร่วมกัน ดร.โทมัส เรนเดิล รองซีอีโอของ SERIS กล่าวว่า “SERIS มุ่งมั่นที่จะพัฒนา ทดสอบ และทำการตลาดเทคโนโลยีในสิงคโปร์ จากนั้นจึงจะขยายธุรกิจไปยังตลาดอื่นๆในเอเชียแปซิฟิกและทั่วโลก การจับมือกับผู้นำระดับโลกด้าน IoT อัจฉริยะในอุตสาหกรรมพลังงาน ถือเป็นการทดสอบโซลูชั่นที่เราพัฒนาขึ้นเองและเผยแพร่ไปทั่วโลก เรารู้สึกตื่นเต้นกับความร่วมมือและประโยชน์ที่ได้รับร่วมกัน ซึ่งเกิดจากการทำงานเป็นทีมเพื่อพัฒนาโซลูชั่นที่ทันสมัยที่สุดสำหรับอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์”

นอกจากนี้ จุดแข็งของ NTU ด้านการวิจัยและพัฒนาโซลูชั่นพลังงาน ยังช่วยให้ Envision สามารถสำรวจความเป็นไปได้ในการสร้างระบบพยากรณ์ทิศทางการใช้ไฟฟ้าในอนาคต ระบบจัดการแบตเตอรี่ และการบูรณาการแพลตฟอร์ม EnOS(TM) เข้ากับแผน EcoCampus ของ NTU

ศาสตราจารย์ลัม คิน หยง รองประธานฝ่ายวิจัยของ NTU กล่าวว่า “NTU ยินดีที่ได้จับมือกับ Envision เพื่อแสวงหาโซลูชั่นพลังงานที่สร้างสรรค์และยั่งยืน ผมมั่นใจว่าความร่วมมือครั้งนี้จะช่วยยกระดับการพัฒนาโซลูชั่นอันยั่งยืนที่สามารถนำมาใช้ในเอเชียและที่อื่นๆ โดยอาศัยความเชี่ยวชาญของ NTU ในการพลิกโฉมห่วงโซ่คุณค่าพลังงานทั้งหมดสู่ระบบดิจิทัล”

เกี่ยวกับ Envision

Envision เป็นบริษัทจัดการพลังงานอัจฉริยะชั้นนำระดับโลก ซึ่งเป็นเจ้าของ EnOS(TM) แพลตฟอร์ม IoT ด้านพลังงานที่ใหญ่ที่สุดโลก ซึ่งจัดการพลังงานมากถึง 100 กิกะวัตต์ ขณะเดียวกัน Envision ยังเป็นบริษัทกังหันลมอัจฉริยะชั้นนำของโลก เป็นผู้ผลิตกังหันลมรายใหญ่อันดับสองของโลก และเป็นผู้จัดหาโซลูชั่นพลังงานลมนอกชายฝั่งรายใหญ่ที่สุดในจีน ทั้งนี้ ด้วยการเข้าไปลงทุนครั้งสำคัญในบริษัทเทคโนโลยีพลังงานชั้นแนวหน้า อาทิ Sonnen, ChargePoint, AutoGrid, Bazefield และอื่นๆ จึงส่งผลให้ Envision ก้าวสู่การเป็นผู้นำการผสมผสานเทคโนโลยี IoT ด้านพลังงานและระบบนิเวศเมืองอัจฉริยะระดับโลก

Envision มีสำนักงานใหญ่ในเซี่ยงไฮ้ และมีสำนักงานสาขากระจายอยู่ทั่วเอเชีย ยุโรป อเมริกาเหนือ และอเมริกาใต้ ขณะเดียวกัน บริษัทได้ตั้งศูนย์วิจัยและพัฒนา รวมถึงศูนย์วิศวกรรมในเดนมาร์ก เยอรมนี และสหรัฐอเมริกา พันธกิจของ Envision คือ “การเอาชนะความท้าทายเพื่ออนาคตที่ยั่งยืน” บริษัทมุ่งมั่นที่จะพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงเพื่อสร้างอนาคตที่ยั่งยืน ซึ่งทุกคนสามารถเข้าถึงพลังงานที่สะอาด ปลอดภัย และราคาย่อมเยา และนั่นคือโลกแห่ง “พลังงานที่สวยงาม”

รับชมข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Envision Energy ได้ที่ http://www.envision-energy.com

เกี่ยวกับ Ascendas-Singbridge Group

Ascendas-Singbridge Group เป็นผู้ให้บริการโซลูชั่นการพัฒนาเมืองและพื้นที่ธุรกิจอย่างยั่งยืนรายใหญ่ของเอเชีย ที่มีสินทรัพย์ภายใต้การจัดการมากกว่า 2 หมื่นล้านดอลลาร์สิงคโปร์

บริษัทมีเจ้าของร่วมคือ Temasek Holdings และ JTC Corporation ด้วยสัดส่วนการถือหุ้น 51:49 โดยบริษัทได้ดำเนินโครงการพัฒนาเมืองหลายโครงการ ครอบคลุมการสร้างเขตชุมชน การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์แบบผสมผสาน รวมถึงการพัฒนานิคมอุตสาหกรรมและธุรกิจ บริษัทมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่สิงคโปร์ มีโครงการต่างๆใน 28 เมืองทั่ว 9 ประเทศในเอเชีย ซึ่งรวมถึงออสเตรเลีย จีน อินเดีย อินโดนีเซีย สิงคโปร์ และเกาหลีใต้

Ascendas-Singbridge เป็นเจ้าของอาคารพาณิชย์ โรงแรม และนิคมอุตสาหกรรมทั่วเอเชียแปซิฟิก นอกจากนั้นยังถือผลประโยชน์และบริหารจัดการ 3 กองทุนที่จดทะเบียนในสิงคโปร์ผ่านบริษัทในเครืออย่าง Ascendas ได้แก่ กองทุน Ascendas Reit (หุ้นในดัชนี Straits Times Index) กองทุน Ascendas India Trust และกองทุน Ascendas Hospitality Trust นอกเหนือจากกองทุนจดทะเบียนเหล่านี้แล้ว บริษัทยังเป็นผู้จัดการกองทุนอสังหาริมทรัพย์ส่วนบุคคลอีกหลายกองทุนด้วย

รับชมข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Ascendas-Singbridge Group ได้ที่ http://www.ascendas-singbridge.com

เกี่ยวกับ Sunseap Group

Sunseap Group เป็นผู้พัฒนา เจ้าของ และผู้ดำเนินงานระบบพลังงานแสงอาทิตย์ชั้นนำของสิงคโปร์ ซึ่งดำเนินงานผ่านบริษัทในเครือ 3 แห่ง ประกอบด้วย Sunseap Leasing, Sunseap International และ Sunseap Energy โดยบริษัท Sunseap Leasing ทำธุรกิจให้เช่าพลังงานแสงอาทิตย์รายแรกและรายใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ ส่วนบริษัท Sunseap International พุ่งเป้าไปที่ตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้และแปซิฟิก โดยมีโซลาร์ฟาร์มขนาด 140 MWp ในอินเดีย และโซลาร์ฟาร์มขนาด 10 MWp ในกัมพูชา ขณะที่บริษัท Sunseap Energy ให้บริการโซลูชั่นพลังงานสะอาดสำหรับใช้นอกสถานที่ โดยอาศัยระบบพลังงานแสงอาทิตย์ของกลุ่มบริษัท Sunseap Group และมีลูกค้ารายสำคัญคือบริษัท Apple ซึ่งลงนามข้อตกลงให้ Sunseap ทำหน้าที่จัดหาพลังงานจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนให้ครอบคลุมตามความต้องการของบริษัท

รับชมข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Sunseap Group ได้ที่ http://www.sunseap.com

เกี่ยวกับ Solar Energy Research Institute of Singapore (SERIS)

Solar Energy Research Institute of Singapore (SERIS) ในสังกัดมหาวิทยาลัยแห่งชาติสิงคโปร์ (NUS) คือสถาบันวิจัยด้านการใช้พลังงานแสงอาทิตย์แห่งชาติของสิงคโปร์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากมูลนิธิวิจัยแห่งชาติของสิงคโปร์ (NRF) ผ่านทางคณะกรรมการพัฒนาเศรษฐกิจแห่งสิงคโปร์ (EDB) และ NUS โดย SERIS ทำการวิจัย พัฒนา ทดสอบ และให้คำปรึกษาด้านเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ รวมถึงการนำพลังงานแสงอาทิตย์ไปใช้ร่วมกับระบบไฟฟ้าและอาคาร การวิจัยและพัฒนาของทางสถาบันครอบคลุมทั้งวัสดุ ส่วนประกอบ กระบวนการ ระบบ และบริการ โดยเน้นไปที่ระบบ โมดูล และเซลล์แสงอาทิตย์ SERIS ดำเนินงานทั่วโลก แต่เน้นพัฒนาเทคโนโลยีและให้บริการในประเทศเขตร้อน โดยเฉพาะในสิงคโปร์และประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ SERIS ประสานงานอย่างใกล้ชิดกับบรรดามหาวิทยาลัย องค์กรการวิจัย หน่วยงานรัฐ และภาคอุตสาหกรรมทั้งในสิงคโปร์และทั่วโลก

รับชมข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ SERIS ได้ที่ http://www.seris.sg

เกี่ยวกับ Nanyang Technological University, Singapore

Nanyang Technological University, Singapore (NTU Singapore) เป็นมหาวิทยาลัยรัฐที่เน้นในด้านการทำวิจัย โดยมีนักศึกษาปริญญาตรี ปริญญาโท และปริญญาเอกกว่า 33,500 คนในภาควิชาต่างๆ ได้แก่ วิศวกรรมศาสตร์ ธุรกิจ วิทยาศาสตร์ มนุษยศาสตร์ ศิลปศาสตร์ สังคมศาสตร์ รวมถึงในวิทยาลัยสหวิทยาการ นอกจากนี้ ทางสถาบันยังจับมือกับ Imperial College London ก่อตั้งสถาบัน Lee Kong Chian School of Medicine ซึ่งเปิดสอนหลักสูตรแพทยศาสตร์

NTU เป็นที่ตั้งของสถาบันอิสระระดับโลกหลายแห่ง ได้แก่ National Institute of Education, S Rajaratnam School of International Studies, Earth Observatory of Singapore และ Singapore Centre for Environmental Life Sciences Engineering รวมถึงศูนย์ค้นคว้าวิจัยชั้นนำหลายแห่ง เช่น Nanyang Environment & Water Research Institute (NEWRI) และ Energy Research Institute @ NTU ( ERI@N )

NTU เป็นมหาวิทยาลัยอันดับ 11 ของโลก และยังติดโผมหาวิทยาลัยใหม่ชั้นนำของโลก 4 ปีติดต่อกัน ขณะที่วิทยาเขตหลักของมหาวิทยาลัยก็ติดท็อป 15 วิทยาเขตที่สวยงามที่สุดในโลก นอกจากนั้นยังมีอาคาร 57 หลังที่ได้รับมาตรฐาน Green Mark (เทียบเท่ามาตรฐาน LEED) โดยอาคาร 54 หลังในจำนวนนี้ได้รับมาตรฐานระดับ Green Mark Platinum ขณะเดียวกัน ทางมหาวิทยาลัยยังมีวิทยาเขตในโนเวนา ซึ่งเป็นย่านการแพทย์ของสิงคโปร์ด้วย

รับชมข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ http://www.ntu.edu.sg

ที่มา: Envision

เผยแพร่ข่าวโดย:

พีอาร์ บุฟเฟ่ต์ www.prbuffet.com ข่าวประชาสัมพันธ์ online







Leave a Reply

Your email address will not be published.

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.