กรมสวัสดิการ

กสร. ห่วงลูกจ้างต่างด้าว ประมงเสี่ยงโควิด

กสร. ห่วงลูกจ้างต่างด้าว ประมงเสี่ยงโควิด

กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ห่วงลูกจ้างต่างด้าว แรงงานประมงเสี่ยงโควิด-19 ส่งเจ้าหน้าที่ทำความเข้าใจนายจ้างให้จัดมาตรการป้องกันตามที่รัฐกำหนด และกำกับดูแลลูกจ้างปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด นายอภิญญา สุจริตตานันท์ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 ในปัจจุบันยังพบว่ามีสถานประกอบกิจการบางแห่งยังขาดการจัดมาตรการและการกำกับดูแลที่รัดกุมและทั่วถึง โดยเฉพาะในสถานประกอบกิจการที่มีการใช้แรงงานต่างด้าว ซึ่งส่วนหนึ่งมาจากอุปสรรคทางด้านภาษาทำให้แรงงานกลุ่มนี้ไม่เข้าใจมาตรการต่าง ๆ ของภาครัฐได้เท่าที่ควร ดังนั้น เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด – 19 ในกลุ่มของสถานประกอบกิจการที่มีการใช้แรงงานต่างด้าว กสร. ได้ให้พนักงานตรวจแรงงานเข้าไปทำความเข้าใจกับนายจ้างในการจัดมาตรการต่าง ๆ รวมทั้งการให้ความรู้เกี่ยวกับการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด – 19 แก่แรงงานต่างด้าว โดยให้นายจ้างจัดทำเอกสารเผยแพร่เป็นภาษาของแรงงานต่างด้าว เพื่อให้สามารถสื่อสารเข้าใจง่าย รวมไปถึงจัดมาตรการและกำกับดูแลให้แรงงานต่างด้าวที่พักอาศัยในที่พักที่นายจ้างจัดให้ตามที่กระทรวงสาธารณสุข และหน่วยงานภาครัฐกำหนด เช่น เว้นระยะทางกายภาพ (Physical Distancing) งดเว้นการชุมนุมสังสรรค์ และไม่ออกจากพื้นที่ในเวลาที่กฎหมายกำหนด อธิบดีกสร. กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับนายจ้างในกิจการประมงทะเลซึ่งมีสภาพการทำงานที่แตกต่าง และมีข้อจำกัดในเรื่องของพื้นที่ ขอให้นำมาตรการของทางภาครัฐไปปรับใช้ให้เหมาะสม เช่น การให้ความรู้แก่ ผู้ควบคุมเรือ ลูกจ้างในการป้องกันดูแลตนเองและสถานที่ปฏิบัติงาน การตรวจคัดกรองลูกจ้างก่อนปฏิบัติงาน เป็นต้น ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดทุกจังหวัด และสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครทุกพื้นที่ […]

กสร. ลงพื้นที่ติดตามเลิกจ้างลูกจ้างมิตซูบิชิ อิเล็คทริค

กสร. ลงพื้นที่ติดตามเลิกจ้างลูกจ้างมิตซูบิชิ อิเล็คทริค

กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์เลิกจ้างลูกจ้างมิตซูบิชิ อิเล็คทริคฯ ชลบุรี เผยลูกจ้างได้รับค่าชดเชย ค่าบอกกล่าวล่วงหน้ากว่า 41 ล้านบาทเรียบร้อยแล้ว ด้านนายจ้างเตรียมจ่ายค่าจ้าง 20 เม.ย.63 นายอภิญญา สุจริตตานันท์ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เปิดเผยถึงกรณีบริษัท มิตซูบิชิ อิเล็คทริค คอนซูเมอร์ โปรดักส์ (ประเทศไทย) จำกัด ประกาศเลิกจ้างลูกจ้าง จำนวน 1,000 คน ว่า จากการตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า บริษัทดังกล่าวมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่จังหวัดชลบุรี ประกอบกิจการผลิตเครื่องปรับอากาศสำเร็จรูปและผลิตชิ้นส่วนเครื่องปรับอากาศ มีลูกจ้างโดยตรง 2,500 คน และมีลูกจ้างรับเหมาค่าแรงอีก 2,600 คน ซึ่งการเลิกจ้างครั้งนี้เป็นการเลิกจ้างลูกจ้างรับเหมาค่าแรงจากบริษัทรับเหมาค่าแรง 7 บริษัท จำนวนลูกจ้าง รวม 1,119 คน และให้มีผลทันทีโดยเริ่มตั้งแต่วันที่ 16 เมษายน 2563 ทั้งนี้ บริษัทแจ้งว่าได้กำหนดจ่ายค่าชดเชยและค่าบอกกล่าวล่วงหน้าเป็นเงินรวมทั้งสิ้นกว่า 41 ล้านบาท โดยโอนเข้าบัญชีธนาคารของลูกจ้าง ทุกรายที่ถูกเลิกจ้าง ซึ่งขณะนี้ลูกจ้างได้รับเงินดังกล่าวเรียบร้อยแล้ว และจะจ่ายค่าจ้างในวันที่ […]

กสร.ขอความร่วมมือนายจ้างกำชับลูกจ้างปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด 19

กสร.ขอความร่วมมือนายจ้างกำชับลูกจ้างปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโควิด 19

​ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ขอความร่วมมือสถานประกอบกิจการกำกับดูแลลูกจ้างปฏิบัติตามมาตรการภาครัฐอย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 นายอภิญญา สุจริตตานันท์ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เปิดเผยว่า ตามที่ กสร.ได้ออกแนวทางในการขอความร่วมมือนายจ้าง ลูกจ้างเกี่ยวกับมาตรการเฝ้าระวัง การป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ โควิด-19 เช่น การให้ความรู้แก่ลูกจ้าง ทำความสะอาดสถานที่ทำงานอย่างสม่ำเสมอ การตรวจคัดกรองลูกจ้างก่อนเข้าทำงาน เป็นต้น เพื่อให้การดำเนินการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสดังกล่าวเป็นไปอย่างต่อเนื่อง ได้สั่งการให้พนักงานตรวจแรงงานติดตามการดำเนินการตามมาตรการดังกล่าว รวมไปถึงการดำเนินการตามมาตรการของหน่วยงานภาครัฐ เช่น มาตรการเว้นระยะห่างระยะห่างทางกายภาพ (Physical distancing) การสวมหน้ากากอนามัยระหว่างเดินทางไปกลับจากที่ทำงานและบ้านพัก การสลับเวลาในการรับประทานอาหารของพนักงานเพื่อลดความแออัด เป็นต้น รวมทั้งขอความร่วมมือนายจ้าง เจ้าของสถานประกอบกิจการให้กำกับดูแลลูกจ้างที่มาปฏิบัติงาน และลูกจ้างที่นายจ้างกำหนดให้ทำงานที่บ้าน (Work from home) ปฏิบัติตามมาตรการดังกล่าวด้วย อธิบดีกสร. กล่าวเพิ่มเติมว่า ขอให้ลูกจ้างที่มาปฏิบัติงานในสถานประกอบกิจการและที่ทำงานจากที่บ้านร่วมมือกันในการปฏิบัติตามมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) หรือ โควิด-19 ที่สถานประกอบกิจการและหน่วยงานภาครัฐกำหนดอย่างเคร่งครัดเพื่อร่วมกันป้องกันและการแพร่ระบาดของไวรัสดังกล่าว ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวสิทธิหน้าที่สามารถสอบถามได้ที่ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดทุกจังหวัด และสำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครทุกพื้นที่ หรือโทรศัพท์สายด่วน 1506 กด […]

กสร. รับมอบหน้ากากอนามัย แจกจ่ายจนท.-ผู้ติดต่อราชการ

กสร. รับมอบหน้ากากอนามัย แจกจ่ายจนท.-ผู้ติดต่อราชการ

กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน รับมอบหน้ากากอนามัยจากบริษัทเอกชน เพื่อส่งต่อให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานและผู้มาติดต่อราชการ ร่วมป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 นายอภิญญา สุจริตตานันท์ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) พร้อมด้วยผู้บริหารกรม เป็นผู้แทนรับมอบหน้ากากอนามัย จำนวน 2,500 ชิ้น จากบริษัท ไพพรรณรัตน์ กรุ๊ป จำกัด และบริษัท ไพพรรณรัตน์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด โดยอธิบดีกสร. ได้เปิดเผยว่า สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 หรือ โควิด-19 ส่งผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้างอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานเป็นหน่วยงานของรัฐบาลที่มีหน้าที่ดูแลนายจ้าง ลูกจ้าง โดยเฉพาะในช่วงนี้ที่อาจส่งผลกระทบต่อการดำเนินธุรกิจ ซึ่งกสร. ยังคงปฏิบัติหน้าที่และให้บริการตามปกติและอาจมีประชาชนเข้ามาติดต่อราชการจำนวนมาก ดังนั้น เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการยับยั้งการแพร่ระบาดของโควิด-19 กสร. จะส่งมอบหน้ากากอนามัยให้แก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานใกล้ชิดประชาชน เช่น เจ้าหน้าที่ประจำจุดคัดกรอง เจ้าหน้าที่รับเรื่องร้องเรียน พนักงานตรวจแรงงาน รปภ. เป็นต้น รวมไปถึงแรงงานและประชาชนผู้มาติดต่อราชการที่ไม่ได้ใส่หน้ากากอนามัยมาด้วย อธิบดีกสร. กล่าวต่อว่า รัฐบาลภายใต้การนำของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ได้ให้ความสำคัญในการแก้ปัญหาโรคระบาดอย่างจริงจังซึ่งเห็นได้จากมาตรการต่าง ๆ ที่ออกมาบังคับใช้ อย่างไรก็ตาม ขอฝากให้ นายจ้าง […]

อธิบดีกสร. ย้ำ นายจ้างใช้มาตรา 75 ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่/ลูกจ้างก่อน

อธิบดีกสร. ย้ำ นายจ้างใช้มาตรา 75 ต้องแจ้งเจ้าหน้าที่/ลูกจ้างก่อน

กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ห่วงลูกจ้าง นายจ้างได้รับผลกระทบโควิด-19 ย้ำ ใช้มาตรา 75 ช่วงหยุดกิจการชั่วคราวต้องแจ้งลูกจ้าง เจ้าหน้าที่ก่อน 3 วัน พร้อมเตือนนายจ้างลดค่าจ้าง ลดวันทำงานต้องให้ลูกจ้างยินยอมด้วย นายอภิญญา สุจริตตานันท์ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กล่าวถึงการดูแลลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 ว่า หม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน มีความห่วงใยนายจ้าง ลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 ซึ่งสถานประกอบกิจการบางแห่งได้รับผลกระทบจนทำให้ไม่สามารถประกอบกิจการได้ตามปกติเป็นเหตุให้ต้องหยุดกิจการทั้งหมดหรือบางส่วนชั่วคราว โดยมีการใช้มาตรา 75 ตามพ.ร.บ.คุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 จึงได้สั่งการให้กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานให้คำแนะนำแก่สถานประกอบกิจการในการดำเนินการตามมาตรา 75 รวมทั้งกำกับดูแลให้ดำเนินการให้ถูกต้องตามกฎหมาย ทั้งนี้ สถานประกอบกิจการที่ใช้มาตรา 75 จะต้องแจ้งพนักงานตรวจแรงงานในพื้นที่และลูกจ้างทราบล่วงหน้าเป็นหนังสือก่อนเริ่มวันหยุดกิจการไม่น้อยกว่า 3 วันทำงาน นายอภิญญา กล่าวต่อว่า สำหรับสถานประกอบกิจการที่ให้ลูกจ้างมาทำงานจะต้องจ่ายค่าจ้างตามปกติ และหากนายจ้างตกลงกับลูกจ้างในการเปลี่ยนแปลงสภาพการจ้าง เช่น ลดวันทำงาน ลดค่าจ้าง ก็สามารถทำได้แต่จะต้องได้รับความยินยอมจากลูกจ้างด้วย อย่างไรก็ดีสำหรับการจ่ายค่าจ้างให้กับลูกจ้างต้องไม่จ่ายต่ำกว่าค่าจ้างขั้นต่ำ ทั้งนี้ กสร. ขอให้นายจ้าง ลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบปรึกษาหารือร่วมกัน และพูดคุยกันด้วยหลักสุจริตใจเพื่อร่วมกันฝ่าฟันวิกฤตครั้งนี้ไปด้วยกัน ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดทุกจังหวัด […]

กสร. ฝึก “นิติกร” เป็นทนายว่าความแก้ต่างให้ลูกจ้างในศาลแรงงาน

กสร. ฝึก “นิติกร” เป็นทนายว่าความแก้ต่างให้ลูกจ้างในศาลแรงงาน

กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) พัฒนาศักยภาพของนิติกร และผู้ปฏิบัติงานด้านกฎหมาย หวังเพิ่มพูนทักษะ สร้างประสบการณ์ฝึกให้เป็นทนายความฟ้องคดี ประสานคดีกับพนักงานอัยการ หรือแก้ต่างให้กับลูกจ้างในศาลแรงงาน นายอภิญญา สุจริตตานันท์ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เปิดเผยว่า กรมมีกฎหมายที่อยู่ในความรับผิดชอบหลายฉบับ “นิติกร”ในฐานะผู้ปฏิบัติงานด้านกฎหมายของกรม นอกจากทำหน้าที่ให้คำปรึกษากฎหมายแล้ว ยังมีอำนาจหน้าที่สำคัญตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ.2541 คือ การเป็นทนายความ ฟ้องคดี หรือแก้ต่างคดีให้แก่ลูกจ้างหรือทายาทโดยธรรมของลูกจ้างซึ่งถึงแก่ความตายจนคดีถึงที่สุด และทำหน้าที่ฟ้องเรียกทรัพย์สินหรือค่าเสียหายให้แก่ผู้รับงานไปทำที่บ้านหรือทายาท รวมถึงการประสานคดีกับพนักงานอัยการในศาลแรงงาน จึงจำเป็นที่นิติกรต้องมีความรู้และเข้าใจในกฎหมาย เพื่อให้ปฏิบัติหน้าที่ในศาลแรงงานได้ถูกต้องเหมาะสม ดังนั้น กรมจึงจัดโครงการพัฒนาศักยภาพผู้ปฏิบัติงานด้านกฎหมาย หลักสูตร การว่าความใน ศาลแรงงานขึ้น เพื่อตอบโจทย์ในเรื่องดังกล่าว มุ่งหวังเพิ่มพูนทักษะ สร้างประสบการณ์เกี่ยวกับการเตรียมคดี ก่อนเข้าสู่การพิจารณาคดีของศาล ไม่ว่าจะเป็นการตรวจสอบสำนวน การจัดเตรียมพยานหลักฐาน การวางรูปคดี การพิจารณาคดีในศาล ให้สามารถฟ้อง/แก้ต่างคดีให้กับลูกจ้าง รวมถึงให้มีความรู้ในขั้นตอนและวิธีการติดตามหนี้กองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง การฟ้องคดีและการขอรับชำระหนี้ในคดีล้มละลายการขอรับชำระหนี้ในการฟื้นฟูกิจการ การติดตามหนี้กองทุนฯ กรณีใช้สิทธิทางศาลแพ่ง การจำหน่ายหนี้สูญ การตรวจสอบทรัพย์สิน ตลอดจน การยึด อายัดและขายทอดตลาดทรัพย์สิน อธิบดี กสร. กล่าวต่อว่า โครงการข้างต้น มีผู้เข้าร่วมประกอบด้วยนิติกร และผู้ปฏิบัติงานด้านนิติการ จากส่วนกลางและส่วนภูมิภาค […]

กสร. ทบทวนแผนปฏิบัติการด้านคุ้มครองแรงงานนอกระบบ ใช้ “ประชารัฐ” ลดความเหลื่อมล้ำ มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานนอกระบบ

กสร. ทบทวนแผนปฏิบัติการด้านคุ้มครองแรงงานนอกระบบ ใช้ “ประชารัฐ” ลดความเหลื่อมล้ำ มุ่งยกระดับคุณภาพชีวิตแรงงานนอกระบบ

กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ทบทวนแผนปฏิบัติการด้านคุ้มครองแรงงานนอกระบบ เพื่อเป็นกรอบทิศทางในการยกระดับและพัฒนาคุณภาพชีวิตแรงงานนอกระบบอย่างเป็นรูปธรรม ก้าวสู่ภาพลักษณ์ใหม่นำแนวคิด“ประชารัฐ”เป็นกลไกความร่วมมือในการแก้ไขปัญหา ลดความเหลื่อมล้ำด้านแรงงาน นายอภิญญา สุจริตตานันท์ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เปิดเผยว่า แรงงานนอกระบบ เป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ที่มีจำนวนมากถึง 20.4 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 54.30 ของผู้มีงานทำทั้งประเทศ ที่ผ่านมากรมขับเคลื่อนภารกิจด้านแรงงานนอกระบบโดยการส่งเสริมการทำงานแบบบูรณาการในเชิงยุทธศาสตร์ ตั้งแต่ระดับวางแผนไปถึงการปฏิบัติการที่มุ่งพัฒนาการคุ้มครองแรงงานนอกระบบ ให้ได้รับสิทธิตามกฎหมายและเข้าถึงบริการของรัฐ โดยการกำหนดแนวทาง มาตรการ และวิธีปฏิบัติด้านการคุ้มครองแรงงานนอกระบบ ยึดหลักความเสมอภาค เท่าเทียม ไม่เลือกปฏิบัติ ซึ่งได้จัดทำแผนยุทธศาสตร์แรงงานนอกระบบ พ.ศ. 2561 – 2565 เป็นกรอบเพื่อใช้ดำเนินการมาระยะหนึ่ง และด้วยประเด็นความท้าทายทางสังคม เศรษฐกิจ และเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ทำให้กรมต้องมีการทบทวนยุทธศาสตร์ และการดำเนินงานเพื่อให้มีทิศทางการบริหารจัดการที่สอดคล้องกับบริบทต่าง ๆ ที่เปลี่ยนแปลงไป อธิบดี กสร. กล่าวต่อว่า เพื่อให้การวางแผนการคุ้มครอง ส่งเสริม และพัฒนาแรงงานนอกระบบไปสู่ภาพลักษณ์ใหม่ ก้าวสู่วิสัยทัศน์ที่ต้องการในอนาคต จึงได้เชิญผู้บริหาร คณะทำงาน เจ้าหน้าที่ผู้รับผิดชอบงานด้านการคุ้มครองแรงงานนอกระบบในส่วนกลาง ผู้แทนจากหน่วยงานราชการภายนอก หน่วยงานเอกชน เครือข่ายแรงงานนอกระบบ คณะกรรมการคุ้มครองการรับงานไปทำที่บ้าน และผู้ที่เกี่ยวข้องจำนวน […]

กสร. สร้างความเข้มแข็งเครือข่ายคุ้มครองแรงงาน ช่วยเป็นหูเป็นตา เฝ้าระวัง ดูแลแรงงานต่างด้าวให้ได้รับสิทธิตามกฎหมาย

กสร. สร้างความเข้มแข็งเครือข่ายคุ้มครองแรงงาน ช่วยเป็นหูเป็นตา เฝ้าระวัง ดูแลแรงงานต่างด้าวให้ได้รับสิทธิตามกฎหมาย

กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เสริมสร้างองค์ความรู้ในการบริหารชมรมเครือข่ายการคุ้มครองแรงงานต่างด้าวให้เข้มแข็ง เพิ่มทักษะด้านการสอดส่อง ดูแล เฝ้าระวัง และเบาะแสการปฏิบัติที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน เพื่อคุ้มครองสิทธิแรงงานต่างด้าวให้เป็นธรรม ทั่วถึงและเท่าเทียม นายอภิญญา สุจริตตานันท์ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เปิดเผยว่า กรมได้ดำเนินการส่งเสริมให้มีการจัดตั้งเครือข่ายการคุ้มครองแรงงานในระบบ และเครือข่ายการคุ้มครองแรงงานต่างด้าว เพื่อทำหน้าที่สอดส่อง ดูแล เฝ้าระวัง และแจ้งเบาะแส เมื่อพบเห็นการใช้แรงงานที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมาย รวมทั้งแรงงานเด็ก และการค้ามนุษย์ด้านแรงงาน ตลอดจนช่วยประชาสัมพันธ์เผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเกี่ยวกับสิทธิหน้าที่ตามกฎหมายคุ้มครองแรงาน ให้แก่ นายจ้าง ลูกจ้าง และประชาชนทั่วไป ซึ่งในปัจจุบันมีบุคคลหลากหลายภาคส่วนของสังคมได้เข้ามาเป็นเครือข่ายการคุ้มครองแรงงานเป็นจำนวนมาก และกระจายอยู่ทั่วประเทศ รวมจำนวนทั้งสิ้น 2,206 คน ซึ่งบุคคลเหล่านี้เข้ามาปฏิบัติงานช่วยเหลือภาครัฐด้วยความเสียสละ ดังนั้น เพื่อให้เครือข่ายดังกล่าวเกิดความเข้มแข็งอย่างต่อเนื่อง และยั่งยืน จึงได้จัด Workshop เพื่อเสริมสร้างองค์ความรู้ในการบริหารชมรมเครือข่ายการคุ้มครองแรงงานต่างด้าว และองค์ความรู้ที่สำคัญที่จะได้นำไปใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ของเครือข่ายให้เกิดประสิทธิภาพ อาทิ บทบาทหน้าที่เครือข่ายการคุ้มครองแรงงานในสถานการณ์ในปัจจุบัน กฎหมายคุ้มครองแรงงานไทยกับมาตรฐานสากล เป็นต้น อธิบดี กสร. กล่าวต่อว่า การประชุมเชิงปฏิบัติการ (Workshop) ในครั้งนี้เป็นการสร้างความเข้มแข็งให้กับเครือข่ายคุ้มครองแรงงาน ที่จะเป็นหูเป็นตา เป็นกระบอกเสียงให้แก่กรม โดยการช่วยประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารของหน่วยงานภายใต้สังกัดกระทรวงแรงงาน ซึ่งเป็นข้อมูลความรู้เกี่ยวกับสิทธิหน้าที่ นายจ้าง […]

กสร. ทบทวนปรับอัตราน้ำหนักยกของเด็กให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล มุ่งขจัดการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้าย

กสร. ทบทวนปรับอัตราน้ำหนักยกของเด็กให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล มุ่งขจัดการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้าย

กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นจากทุกภาคส่วน ทบทวน ปรับปรุงอัตราน้ำหนักยกที่เหมาะสมสำหรับการทำงานของเด็กเพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้ายในประเทศไทย นายอภิญญา สุจริตตานันท์ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เปิดเผยว่า กรมได้ให้ความสำคัญต่อการแก้ไขปัญหาการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้ายอย่างต่อเนื่องมาตลอด โดยได้ให้สัตยาบันอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ 182 ว่าด้วยการห้ามและดำเนินการโดยทันทีเพื่อขจัดการใช้แรงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้าย จึงมีการดำเนินการภายใต้นโยบายและแผนระดับชาติเพื่อขจัดการใช้แรงงานเด็กในรูปแบบที่เลวร้ายตั้งแต่ปี พ.ศ. 2552 เป็นต้นมาจนถึงปัจจุบัน การใช้เด็กทำงานยกของหนักด้วยแรงกายเกินกว่ามาตรฐานที่กำหนดเข้าข่ายเป็นการให้เด็กทำงานอันตราย ซึ่งถือเป็นการทำงานในรูปแบบที่เลวร้ายรูปแบบหนึ่งตามอนุสัญญาฉบับที่ 182 ดังกล่าว ทั้งนี้ประเทศไทยได้ออกกฎกระทรวงกำหนดอัตราน้ำหนักที่นายจ้างให้ลูกจ้างเด็กทำงานยก แบก หาม หาบ ทูน ลาก หรือของหนักสำหรับเด็กอายุ 15 ปี แต่ไม่ถึง 18 ปี เพศหญิง ไม่เกิน 20 กิโลกรัม เพศชาย ไม่เกิน 25 กิโลกรัม ซึ่งองค์การแรงงานระหว่างประเทศขอให้ประเทศไทยพิจารณาทบทวนปรับอัตราน้ำหนักยกของเด็กให้สอดคล้องกับมาตรฐานสากล อธิบดี กสร. กล่าวต่อว่า เพื่อทบทวนมาตรฐานและปรับปรุงข้อกฎหมายเกี่ยวกับน้ำหนักยกของเด็กทำงานให้เหมาะสม สอดคล้องกับมาตรฐานสากล กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จึงได้เชิญนายจ้าง ลูกจ้าง เจ้าหน้าที่ความปลอดภัยในการทำงาน หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง นักวิชาการ องค์กรภาคประชาสังคม […]

กสร. อนุมัติเงินกู้ 3 ล้าน ให้สหกรณ์ออมทรัพย์

กสร. อนุมัติเงินกู้ 3 ล้าน ให้สหกรณ์ออมทรัพย์

กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน อนุมัติเงินกู้กองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงาน 3 ล้านบาท ให้สหกรณ์ออมทรัพย์โรงแรมรอยัลออคิด เชอราตัน แก้ปัญหาหนี้นอกระบบให้ลูกจ้างสมาชิกสหกรณ์ 354 คน นายอภิญญา สุจริตตานันท์ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เปิดเผยว่า คณะอนุกรรมการพิจารณาเงินกู้กองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงานได้มีมติอนุมัติเงินกู้กองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงาน จำนวน 3 ล้านบาท ให้แก่สหกรณ์ออมทรัพย์โรงแรมรอยัลออคิด เชอราตัน จำกัด ตั้งอยู่เขตบางรัก กรุงเทพมหานคร โดยในวันนี้ (23 ม.ค. 63) ได้มอบเงินจำนวนดังกล่าวให้แก่สหกรณ์ออมทรัพย์โรงแรมรอยัลออคิด เชอราตัน จำกัด เพื่อนำไปเป็นทุนหมุนเวียนเสริมสภาพคล่องและเป็นสินเชื่อให้ลูกจ้างที่เป็นสมาชิกได้กู้ยืมเพื่อนำไปลดภาระหนี้สิน และค่าใช้จ่ายในครอบครัว ซึ่งคาดว่าจะเกิดประโยชน์แก่ลูกจ้างที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ที่มีอยู่จำนวน 354 คน นายอภิญญา กล่าวต่อไปว่า กองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงาน มีวัตถุประสงค์หลักในการส่งเสริมการออมทรัพย์ และสนับสนุนการปลดเปลื้องหนี้นอกระบบของผู้ใช้แรงงาน โดยให้สหกรณ์ออมทรัพย์และสหกรณ์เครดิตยูเนี่ยนในสถานประกอบกิจการและรัฐวิสาหกิจกู้เงินในอัตราดอกเบี้ยต่ำและนำไปให้ลูกจ้างที่เป็นสมาชิกสหกรณ์กู้ต่ออีกทอดนึง เพื่อป้องกันแก้ไขปัญหาจากการกู้เงินจากแหล่งเงินกู้นอกระบบของลูกจ้าง และพัฒนาคุณภาพชีวิตลูกจ้างและครอบครัวให้ดียิ่งขึ้น หากสหกรณ์ออมทรัพย์ในสถานประกอบกิจการและรัฐวิสาหกิจใดสนใจกู้เงินกองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงาน สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ กองสวัสดิการแรงงาน กลุ่มงานกองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงาน โทรศัพท์ 0 2248 6684 หรือ 0 2246 0383

1 2 3 8