By admin on March 15, 2020
กระทรวงแรงงาน, ตรวจสอบ, ทับคนงาน, พัง, ย่านรัชดา, ลงพื้นที่, อันตราย, อุบัติภัย, เสียชีวิต, โรงแรม
อื่นๆ ทั่วไป
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ส่งคณะทำงานเฉพาะกิจตรวจสอบการเกิดอุบัติภัยหรือการประสบอันตรายจากการทำงาน กรณีร้ายแรง ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุอาคารโรงแรมรัชดาซิตี้พังถล่มทับคนงานเสียชีวิต พร้อมเรียกสอบนายจ้าง 19 มีนาคมนี้ นายอภิญญา สุจริตตานันท์ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เปิดเผยว่า หม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้แต่งตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจตรวจสอบการเกิดอุบัติภัยหรือการประสบอันตรายจากการทำงานกรณีร้ายแรงโดยให้เดินทางเข้าไปตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุทันทีเมื่อมีเหตุการณ์หรืออุบัติภัยที่มีแรงงานบาดเจ็บสาหัสและเสียชีวิตเพื่อรวบรวมพยานหลักฐานและแจ้งความดำเนินคดีกับผู้รับผิดชอบ โดยล่าสุด นายวรรณรัตน์ ศรีสุขใส ผู้ตรวจราชการกรม ในฐานะคณะทำงานเฉพาะกิจฯ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบเหตุการณ์อาคารโรงแรมรัชดาซิตี้พังถล่มขณะทำการรื้อถอนจนเป็นเหตุให้มีลูกจ้างเสียชีวิต 1 ราย เมื่อวันที่ 11 มีนาคม 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งการตรวจสอบข้อเท็จจริงเบื้องต้นพบว่า อาคารโรงแรมรัชดาซิตี้ ซึ่งตั้งอยู่ที่ซอยประราษฎร์บำเพ็ญ 6 เขตห้วยขวาง มีบริษัท เรียลพาร์ทเนอร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด เป็นเจ้าของอาคาร ได้ว่าจ้างให้บริษัท ดี.อาร์.พี.สตีล จำกัด รื้อถอนอาคารซึ่งจุดเกิดเหตุเป็นอาคารที่พักสูง 11 ชั้น อยู่ระหว่างการรื้อถอนอีก 7 ชั้นได้พังถล่มลงมาเนื่องจากแผ่นปูน เกิดการสไลด์ตัวทำให้รถแบคโฮพร้อมคนขับตกลงมาเป็นเหตุให้นายอดิศักดิ์ เจือรัมย์ อายุ 43 ปี ที่เป็นผู้ขับรถเสียชีวิต นายอภิญญา […]
By admin on August 13, 2018
7 วัน, กฎหมาย, กรมสวัสดิการ, กสร., ความปลอดภัย, นายจ้าง, รายชื่อ, ลูกจ้าง, สถานประกอบกิจการ, สารเคมี, อนันต์ชัย, อันตราย, แรงงาน
อื่นๆ ทั่วไป
กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เตือนนายจ้างที่มีการใช้สารเคมีอันตราย ปฏิบัติตามกฎหมาย ความปลอดภัยแจ้งรายชื่อสารเคมีอันตรายภายใน 7 วัน นับแต่วันที่มีอยู่ในครอบครอง ฝ่าฝืนมีความผิด นายอนันต์ชัย อุทัยพัฒนาชีพ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เปิดเผยว่า กฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัยและสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับสารเคมีอันตราย พ.ศ.2556 กำหนดให้นายจ้างที่มีสารเคมีอันตรายอยู่ในครอบครอง ต้องจัดทําบัญชีรายชื่อสารเคมีอันตรายและรายละเอียดข้อมูลความปลอดภัยของสารเคมีอันตรายตามแบบที่กําหนด พร้อมทั้งแจ้งรายชื่อของสารเคมีอันตรายต่อกสร.ภายใน 7 วันนับแต่วันที่มีสารเคมีอันตรายอยู่ในครอบครอง อธิบดีกสร. กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากนั้นภายในเดือนมกราคมของทุกปีนายจ้างต้องแจ้งบัญชีรายชื่อสารเคมีอันตราย และรายละเอียดข้อมูลความปลอดภัยของสารเคมีอันตรายที่มีอยู่ในครอบครองต่อกสร. ด้วย จึงขอให้นายจ้างปฏิบัติให้ถูกต้องตามกฎหมาย หากฝ่าฝืนจะมีความผิดโดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ กรณีต้องการทราบรายชื่อสารเคมีอันตรายหรือแบบแจ้งรายชื่อ สามารถดาวน์โหลดได้ที่ www.oshthai.org หากมีข้อสงสัยสามารถสอบถามได้ที่กองความปลอดภัยแรงงาน โทรศัพท์ 0 2448 9141
By admin on March 13, 2018
กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน, กสร., ค่าฝุ่นละออง, นายจ้าง, อธิบดี, อนันต์ชัย, อันตราย, อุทัยพัฒนาชีพ, อุปกรณ์คุ้มครอง, เกินมาตรฐาน
สุขภาพ การแพทย์ ความงาม
อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ห่วงลูกจ้างปฏิบัติงานพื้นที่โล่งแจ้งในกรุงเทพฯ ได้รับผลกระทบจากค่าฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน แนะนายจ้างจัดหน้ากากกรองฝุ่นละอองให้ลูกจ้าง พร้อมกำชับให้สวมใส่ตลอดระยะเวลาปฏิบัติงานและระหว่างการเดินทาง นายอนันต์ชัย อุทัยพัฒนาชีพ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กล่าวว่า จากรายงานสถานการณ์ฝุ่นละออง PM 2.5 ในพื้นที่กรุงเทพมหานครของกรมควบคุมมลพิษ พบว่ากลับมาเกินค่ามาตรฐาน อีกครั้ง จากการตรวจวัดได้ระหว่าง 64 – 79 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เกินเกณฑ์มาตรฐานที่ 50 ไมโครกรัม ต่อลูกบาศก์เมตร ในจำนวน 6 สถานี ได้แก่ เขตบางนา เขตวังทองหลาง ริมถนนพระราม 4 ริมถนนอินทรพิทักษ์ ริมถนนลาดพร้าว และริมถนนพญาไท และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกสถานี ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ โดยเฉพาะกลุ่มลูกจ้าง ผู้ใช้แรงงานที่ต้องปฏิบัติงานภายนอกอาคารเป็นเวลานาน ๆ เช่น ลูกจ้างในงานก่อสร้าง งานในที่โล่งแจ้ง ลูกจ้างที่ต้องขับขี่ยานพาหนะ เป็นต้น จึงขอแนะนำให้นายจ้างและผู้ประกอบการต้องให้ความสำคัญในเรื่องดังกล่าว รวมถึงให้การคุ้มครอง ดูแลลูกจ้างที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ที่เสี่ยงต่อการสูดดมฝุ่นละอองเพื่อป้องกันมิให้เกิดอันตรายต่อสุขภาพอนามัยของลูกจ้าง โดยจัดหน้ากากที่กรองฝุ่นละอองขนาดเล็กได้ให้ลูกจ้าง และกำชับให้สวมใส่ตลอดระยะเวลาที่ปฏิบัติงานรวมถึงระหว่างการเดินทางไปกลับจากที่พักและที่ทำงานด้วย อธิบดี กสร. กล่าวต่อไปว่า สำหรับลูกจ้าง […]
By admin on February 23, 2018
หัวใจ, หัวใจเต้นผิดจังหวะ, อันตราย, โรงพยาบาลรามคำแหง
สุขภาพ การแพทย์ ความงาม
AF มีโอกาสเป็นโรคหลอดเลือดสมอง…3 เท่า โรคหัวใจเต้นผิดจังหวะมีอาการแสดงตั้งแต่ไม่มีอาการ หรือมีใจสั่นเล็กน้อยไปจนถึงเหนื่อยง่ายหมดสติ เกิดภาวะหลอดเลือดสมองเฉียบพลัน หรือเสียชีวิตได้เลยนะครับ AF หรือหัวใจห้องบนเต้นพลิ้ว เป็นโรคหัวใจเต้นผิดจังหวะที่พบบ่อยที่สุด บางคนอาจมีอาการไม่รุนแรง แค่ใจสั่นเป็นครั้งคราว จึงไม่ได้ใส่ใจที่จะรักษาต่อเนื่อง หมอขอบอกเลยว่าอันตรายมากครับ เพราะหัวใจห้องบนที่บีบตัวไม่สมบูรณ์ ทำให้เลือดไหลเวียนในหัองหัวใจไม่ดีจนบางครั้งเกิดลิ่มเลือด ที่ลอยไปอุดจุดสำคัญๆ ของร่างกายเช่น ปอด หรือสมองจนเกิดเรื่องร้ายแรงได้อย่างคาดไม่ถึงเลยครับ ดังนั้นการไปพบแพทย์อย่างสม่ำเสมอ ตรวจเช็คเป็นประจำ ทานยาควบคุม หรือทำการรักษาเพื่อป้องกันการเกิดลิ่มเลือด จึงเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยรักษาชีวิตของเราเอาไว้ได้ อยากรู้เรื่องหัวใจเต้นผิดจังหวะมากกว่านี้ คลิกได้เลยครับ https://goo.gl/mKXWDh
By admin on February 6, 2018
กฎหมาย, กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน, กสร., นายจ้าง, ป้องกัน, สถานประกอบกิจการ, อธิบดี, อนันต์ชัย, อันตราย, อุทัยพัฒนาชีพ, เพลิงไหม้
อื่นๆ ทั่วไป
กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกำชับนายจ้างปฏิบัติตามกฎหมายความปลอดภัย ช่วยป้องกันและลดความสูญเสีย กรณีเกิดจากเหตุอัคคีภัยในสถานประกอบกิจการ พร้อมส่งเจ้าหน้าที่สร้างความรู้ ความเข้าใจการปฏิบัติตามกฎหมาย นายอนันต์ชัย อุทัยพัฒนาชีพ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน(กสร.) เปิดเผยว่า จากข่าวอัคคีภัยที่เกิดขึ้นบ่อยครั้งในสถานประกอบกิจการก่อให้เกิดความสูญเสียทั้งทรัพย์สิน บางครั้งอาจก่อให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตของลูกจ้างในสถานประกอบกิจการ เพื่อป้องกันและลดความสูญเสียจากเหตุดังกล่าว กสร. จึงขอเตือนสถานประกอบกิจการ นายจ้าง ลูกจ้าง ให้ระวังเหตุเพลิงไหม้ โดยเน้นเฝ้าระวังจุดเสี่ยงภายในสถานประกอบกิจการ เช่น ห้องเก็บของ พื้นที่จัดเก็บสารเคมี สายไฟฟ้าที่ชำรุด เป็นต้น รวมถึงปฏิบัติตามกฎกระทรวง กำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับการป้องกันและระงับอัคคีภัย พ.ศ. 2555 อย่างเคร่งครัด ทั้งนี้กฎหมายดังกล่าวกำหนดให้นายจ้าง สถานประกอบกิจการ จัดมาตรการและดำเนินการในการป้องและระงับอัคคีภัย เช่น การกำหนดให้มีแผนป้องกันและระงับอัคคีภัย การฝึกซ้อมดับเพลิงและอพยพหนีไฟประจำปี เป็นต้น กรณีนายจ้างฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามก็จะมีความผิดตามกฎหมายโดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปีหรือปรับไม่เกิน 4 แสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า นอกจากนี้ได้สั่งการให้พนักงานตรวจความปลอดภัยลงพื้นที่สร้างความรู้ ความเข้าใจ รวมทั้งให้คำแนะนำแก่นายจ้าง สถานประกอบกิจการในการปฎิบัติตามกฎกระทรวง กำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย […]
By admin on January 29, 2018
กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน, กสร., ความปลอดภัย, ประเทศไทย, พัฒนา, ศึกษางาน, สภาพงาน, อธิบดี, อนันต์ชัย, อันตราย, อุทัยพัฒนาชีพ, เด็ก, เด็กทำงาน, แรงงานเด็ก
อื่นๆ ทั่วไป
กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ศึกษางานอันตรายสำหรับเด็กในประเทศไทย ตั้งเป้าทบทวน เปรียบเทียบกฎหมาย พร้อมประเมินความเสี่ยงในการทำงาน มุ่งวางแนวทางพัฒนาความปลอดภัยและดูแลคุณภาพชีวิตเด็กทำงาน นายอนันต์ชัย อุทัยพัฒนาชีพ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เปิดเผยว่า กสร. ได้จัดทำโครงการศึกษาวิเคราะห์สภาพงานอันตรายสำหรับเด็กในประเทศไทย เพื่อศึกษาทบทวน เปรียบเทียบกฎหมาย มาตรฐานและแนวปฏิบัติเชิงนโยบายในการจัดการควบคุมและคุ้มครองเด็ก โดยมุ่งสำรวจและประเมินความเสี่ยงลักษณะงาน หรือกิจการที่มีการใช้แรงงานเด็ก พร้อมระบุปัจจัยเสี่ยงและวิเคราะห์ถึงอันตรายของลักษณะงานที่มีเด็กทำงาน ซึ่งจากการศึกษาพบว่า กลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วมีการออกกฎหมายเป็นสองลักษณะ คือ ลักษณะงานอันตรายที่ห้ามทำและลักษณะงานเบาที่ปลอดภัยอนุญาตให้เด็กทำได้ ซึ่งแตกต่างจากแนวทางของประเทศไทยที่ออกกฎหมายงานที่ห้ามเด็กทำและงานที่เด็กทำได้ แต่ยังไม่ได้ระบุประเภทกิจการไว้ ขณะที่ผลสำรวจและประเมินความเสี่ยงกิจการที่มีเด็กทำงานมากที่สุด พบว่า ลักษณะงานที่ควรกำหนดให้เป็นงานอันตรายสำหรับเด็กเพิ่มเติมและห้ามจ้างเด็กทำงาน ได้แก่ งานวัดระดับน้ำมันในบ่อเก็บน้ำมัน และการเติมก๊าซแอลพีจีในกิจการขายปลีกน้ำมัน งานขับขี่รถจักรยานยนต์ส่งอาหารและเอกสารในกิจการบริการด้านอาหารและเครื่องดื่ม งานส่งวัสดุ การติดตั้งเครื่องปรับอากาศในกิจการก่อสร้าง และงานซักรีดในกิจการบริการโรงแรม อธิบดีกสร. กล่าวต่อไปว่า นอกจากนี้ ผลจากการศึกษายังพบว่า การทำงานบนที่สูงตั้งแต่ 7 เมตรขึ้นไป และการทำงานในอุณหภูมิสูงกว่า 32 องศาเซลเซียส รวมถึงการทำงานเกิน 22.00 น. อาจเป็นอันตรายและส่งผลเสียต่อสุขภาพของเด็ก ซึ่งผลจากการวิจัยครั้งนี้จะเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในการวางแนวทางการพัฒนาความปลอดภัยในการทำงานของเด็กทำงานในประเทศไทยเพื่อให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีต่อไป