ไข้หวัดใหญ่เป็นไข้หวัดที่มีความรุนแรงว่าไข้หวัดปกติ ทำให้ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงต่อโรคประจำตัวเกิด ภาวะแทรกซ้อนรุนแรง อาจทำให้หลอดลมอักเสบ ภาวะปอดบวม หรือมีผลกระทบต่อหัวใจ การฉีดวัคซีนจึงจำเป็นอย่างยิ่ง เพราะสามารถลดความรุนแรงของโรคได้ 70-80 เปอร์เซ็นต์ โรคไข้หวัดใหญ่เกิดจากเชื้อไวรัสที่เรียกว่า ไวรัสอินฟลูเอนซ่า (influenza virus) จะมีอยู่ 2 ชนิด คือ influenza A และ influenza B หลายท่านอาจเข้าใจว่าการฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่เพียงแค่ครั้งเดียวจะมีภูมิคุ้มกันไปตลอดเหมือนวัคซีนชนิดอื่นซึ่งเป็นเรื่องที่เข้าใจผิด เพราะเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่จะมีการกลายพันธุ์อยู่ตลอด มีการเกิดเชื้อใหม่ๆ อยู่เป็นระยะเป็นเหตุให้ภูมิคุ้มกันที่มีอยู่เดิมอาจไม่สามารถป้องกันโรคได้ และด้วยภูมิคุ้มกันจะค่อยๆ ลดลงอยู่เสมอ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องฉีดวัคซีนไข้หวัดใหญ่เป็นประจำทุกปี อย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อกระตุ้นให้ระบบภูมิคุ้มกันเหมาะสมกับเชื้อไข้หวัดใหญ่ที่มาใหม่ในแต่ละปี ลดภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้นจากการติดเชื้อไข้หวัดใหญ่และลดอัตราการระบาดของโรคไข้หวัดใหญ่ ข้อมูลดีๆ จาก..พญ.ธารินทิพย์ ทีงาม กุมารแพทย์ ศูนย์แม่และเด็ก โรงพยาบาลหัวเฉียว
บริษัท เอ็ทน่า ประกันสุขภาพ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ผู้ให้บริการด้านประกันสุขภาพระดับโลก จัดโครงการฉีดวัคซีนป้องกันไข้หวัดใหญ่ฟรี 4 สายพันธุ์ จำนวน 88,000 เข็ม ให้กับสมาชิกประกันสุขภาพเอ็ทน่า เข้ารับบริการในโรงพยาบาล 59 แห่งทั่วประเทศ
ทำไม?…ไข้หวัดใหญ่ถึงอันตรายต่อผู้ป่วยเบาหวาน โรคเบาหวานจะส่งผลให้ระบบภูมิคุ้มกันทำงานได้ไม่ดีนัก จึงเสี่ยงต่อการติดเชื้อและอาจเกิดภาวะแทรกซ้อน เช่น ปอดบวม ไซนัสอักเสบ ร่วมกับไข้หวัดใหญ่ได้ ในขณะที่ไข้หวัดใหญ่เองก็ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดแปรปรวน อาจสูงขึ้นกว่าปกติหรือต่ำจนอันตรายได้ หากป่วยจนทานอาหารไม่ได้นั่นเองครับ ไข้หวัดใหญ่กับเบาหวาน อ่านเพิ่มเติม https://bit.ly/2HAJROS องค์การอนามัยโลกและราชวิทยาลัยอายุรแพทย์แห่งประเทศไทย ได้แนะนำให้ผู้ป่วยเบาหวานฉีดวัคซีนป้องกันโรคไข้หวัดใหญ่ เป็นประจำทุกปีเพื่อลดโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงจากไข้หวัดใหญ่
หยุดไข้หวัดใหญ่ ด้วยวัคซีน อาการของโรคไข้หวัดใหญ่ ที่พบได้บ่อย 1. มีไข้สูง บางครั้งหนาวสั่น 2. ไอ คัดจมูก น้ำมูกไหล เจ็บคอ 3. อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร 4. ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ 5. คลื่นไส้ อาเจียน อาจมีท้องเสียร่วมด้วย ไข้หวัดใหญ่มีผลแทรกซ้อนรุนแรงกว่าที่คิด ป้องกันด้วยการฉีดวัคซีนเป็นประจำทุกปีนะครับ “โรคไข้หวัดใหญ่” อ่านเพิ่มเติม https://goo.gl/ZvnCBu สายด่วนสุขภาพโทร 0-2743-9999
เหตุผลง่ายๆ ที่ทำให้ผู้ป่วยเบาหวานเมื่อเป็นไข้หวัด มีโอกาสเสียชีวิตสูง! เพราะ “น้ำตาลในเลือด” สูงเกินไป …เมื่อน้ำตาลในเลือดสูงขึ้น มันจะเริ่มเข้าไปรบกวนการทำงานของเม็ดเลือดขาว ทำให้ความสามารถในการกำจัดเชื้อโรคของเม็ดเลือดขาวลดลง ส่งผลให้ผู้ป่วยเบาหวานยิ่งมีโอกาสติดเชื้อได้ง่ายกว่าคนทั่วไป และเมื่อไหร่ที่เชื้อเริ่มลุกลาม ความเสี่ยงที่จะเกิดโรคแทรกซ้อน อย่าง ปอดบวม หูอักเสบ ก็ยิ่งมากขึ้น! จึงทำให้ผู้ป่วยเบาหวานอาจเสี่ยงที่จะเสียชีวิตได้ง่ายกว่าคนอื่น ช่วงนี้สภาพอากาศค่อนข้างแปรปรวน หมออยากให้ทุกคนดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ โดยเฉพาะผู้ที่มีความเสี่ยงสูง อย่างผู้ป่วยเบาหวานนะครับ
ไข้หวัดใหญ่ เป็นโรคติดเชื้อในระบบหายใจ ที่เกิดจากเชื้อไวรัสไข้หวัดใหญ่ ติดต่อได้ง่ายจากมือสัมผัสสารคัดหลั่งของผู้ป่วยที่ไอ จาม แล้วนำมือมาสัมผัสบริเวณจมูก ปาก หรือตา คนที่เป็นโรคนี้หากเกิดในเด็ก หรือผู้สูงอายุจะมีความรุนแรง และภาวะแทรกซ้อนมาก บางรายอาจเสียชีวิตได้ อาการที่พบได้บ่อยในโรคไข้หวัดใหญ่ 1. ไข้สูง บางครั้งหนาวสั่น 2. ปวดศีรษะ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อมาก 3. เจ็บคอ ไอ คัดจมูก น้ำมูกไหล 4. อ่อนเพลีย เบื่ออาหาร จุกแน่นท้อง 5. อาเจียน ท้องร่วงมาก การดูแลตนเองเมื่อเป็นไข้หวัดใหญ่ • รับประทานยาลดไข้ เช่น พาราเซตามอล (ห้ามใช้ยาแอสไพรินในคนที่มีอายุน้อยกว่า 16 ปี เพราะทำให้เกิด Reye’ Syndrome ได้) และยารักษาตามอาการ เช่น ยาแก้ไอ ยาละลายเสมหะ ยาลดน้ำมูก ตามคำแนะนำของแพทย์หรือเภสัชกร • เช็ดตัวลดไข้ด้วยน้ำสะอาดอุ่นเล็กน้อยเป็นระยะ เช็ดแขนขาย้อนเข้าหาลำตัว เช็ดบริเวณหน้าผาก ซอกรักแร้ ขาหนีบ […]
ไข้หวัด ปล่อยไว้ก็หายเองได้จริงหรือ? หลายคนเมื่อไม่สบายก็มักจะมองว่าตัวเองเป็นแค่ไข้หวัด เดี๋ยวก็หายเอง ไม่ร้ายแรงอะไร จริงๆ แล้วอาจไม่ใช่อย่างที่คิดนะครับ เพราะคุณอาจกำลังเป็น “ไข้หวัดใหญ่” ซึ่งหากยิ่งปล่อยไว้มีโอกาสเกิดภาวะแทรกซ้อน อย่าง ปอดบวม ปอดอักเสบ กล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ หัวใจวาย หรือติดเชื้อในกระแสเลือดได้ ซึ่งอาการเหล่านี้อาจเป็นสาเหตุของการเสียชีวิตได้ ด้วยเหตุนี้เองทำให้มีสถิติผู้ป่วยไข้หวัดใหญ่ตั้งแต่ต้นปี 60 ที่ผ่านมาถึง 43,082 คน และในจำนวนนั้นมีผู้เสียชีวิตถึง 5 คน!! ดังนั้นการดูแลและป้องกันตัวเองไว้จึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ขั้นแรกหมอแนะนำให้หลีกเลี่ยงสถานที่แออัด สวมหน้ากากอนามัย ล้างมือด้วยน้ำสบู่ให้สะอาดอยู่เสมอ พกเจลฆ่าเชื้อไว้ล้างมือ ทำความสะอาดที่จับประตูหรือสิ่งของต่างๆ ที่อาจมีคนเป็นไข้หวัดมาจับอยู่เสมอ ก็จะช่วยลดโอกาสรับเชื้อได้นะครับ ส่วนในระยะยาวนั้นการฉีด “วัคซีนไข้หวัดใหญ่” ป้องกันไว้ก็จะช่วยลดโอกาสเกิดและความรุนแรงของโรคได้มากถึง 60% โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยงอย่างคนท้อง เด็กอายุ 6 เดือน ถึง 2 ปี ผู้ที่มีโรคเรื้อรัง เช่น ปอดอักเสบ หอบหืด หลอดเลือดสมอง เบาหวาน เป็นต้น ควรฉีดวัคซีนป้องกันไว้ เพราะหากติดเชื้อไวรัสมาเมื่อไหร่อาจทำให้ภาวะแทรกซ้อนได้ โดยวัคซีนจะออกฤทธิ์ป้องกันเชื้อไข้หวัดใหญ่ตั้งแต่ 2 […]
รู้หรือไม่ แค่จามก็ทำให้ไข้หวัดลามได้…ไม่รู้ตัว!! สาเหตุก็มาจากการทำงานในสถานที่ที่อากาศไม่ถ่ายเท หรือการเดินทางท่ามกลางความแออัดนี่แหละครับ เพราะคนที่ป่วยมีโอกาสแพร่เชื้อได้ตั้งแต่ 1 วันก่อนมีอาการจนถึง 7 วันหลังป่วย เพียงจามแค่ครั้งเดียวก็สามารถทำให้เชื้อโรคกระจายตัวไปได้ไกลกว่า 3 ฟุต และภายใน 5 นาที อาจทำให้คนที่อยู่ใกล้ได้รับเชื้อถึง 150 คนเลยทีเดียว!! ดังนั้นหากใครที่รู้ตัวว่ากำลังป่วยอยู่ อย่าลังเลที่จะหยุดงานอยู่บ้านเพื่อฟื้นฟูร่างกายตัวเองและป้องกันไม่ให้คนอื่นติดเชื้อไข้หวัดตามไปด้วย หากจำเป็นต้องมาทำงานควรสวมหน้ากากอนามัย และตอนไอ-จาม ควรใช้ทิชชู่หรือแขนปิดปาก-จมูก จะช่วยลดการแพร่เชื้อไปสู่คนอื่นได้นะครับ สำหรับคนรอบข้างควรรักษาระยะห่างจากผู้ป่วย ล้างมือบ่อย ๆ หรือพกเจลล้างมืออยู่เสมอ รวมทั้งหลีกเลี่ยงการใช้มือที่ไม่สะอาดสัมผัสปาก จมูกหรือตา อาจเป็นเหตุให้เชื้อโรคเข้าสู่ร่างกายได้นั่นเอง การดื่มน้ำมาก ๆ พยายามออกไปอยู่ในที่ที่อากาศถ่ายเท หรือการเข้ารับวัคซีนไข้หวัดใหญ่ก็ช่วยลดโอกาสเสี่ยงในการติดเชื้อหวัดจากคนอื่นได้เช่นกันครับ ด้วยความห่วงใยจากหมอราม #อบอุ่น #เชี่ยวชาญ #โรงพยาบาลรามคำแหง สายด่วนสุขภาพโทร 0-2743-9999 ต่อ 2999