กระเช้าตรุษจีนองค์กร

ทำไมต้องเแห่มังกร ในวันตรุษจีน by GiftnGo.Gift

ทำไมต้องเแห่มังกร ในวันตรุษจีน by GiftnGo.Gift

การเชิดมังกรมักจะจัดขึ้นในช่วงเทศกาลปีใหม่ของจีน (ตรุษจีน) มังกรจีนเป็นสัญลักษณ์ของประเทศจีน และพวกเขาเชื่อว่ามังกรจะนำความโชคดีมาให้กับผู้คน การเชิดมังกรหรือแห่มังกร (จีนตัวย่อ: 舞龙; จีนตัวเต็ม: 舞龍; พินอิน: wǔ lóng หวู่หลง) เป็นรูปแบบการเต้นรำที่สืบทอดมาและถือเป็นธรรมเนียมปฏิบัติของวัฒนธรรมจีน เหมือนกับการเชิดสิงโต มักจะพบเห็นในการฉลองเทศกาลต่างๆ. การเต้นจะใช้ทีมเต้นต่อกันไปตามรูปร่างความยาวของมังกร ทีมเต้นจะมีการเคลื่อนไหวเลียนแบบการเคลื่อนไหวของแม่น้ำที่คดเคี้ยวไปมา แห่มังกร มังกรเป็นสัตว์ในตำนานที่ชาวจีนเชื่อว่าทรงอำนาจมากที่สุดในบรรดาสัตว์เทพเจ้าทั้งปวง ด้วยอิทธิฤทธิ์อันยิ่งใหญ่และความสง่างาม จึงทำให้มังกรถูกใช้เป็นสัญลักษณ์ของกษัตริย์จีนมาตั้งแต่โบราณ โดยประเพณีการเชิดมังกรนี้เกิดขึ้นในสมัยราชวงศ์ฮั่น (พ.ศ. 337-763) แต่เดิมเป็นพิธีบูชาบรรพบุรุษและบวงสรวงเทพเจ้าเพื่อขอให้ฝนตกต้องตามฤดูกาล เพราะชาวจีนเชื่อว่ามังกรคือผู้กำหนดการตกของฝน ระบำขอฝนที่จัดขึ้นในฤดูแล้งจึงมักมีมังกรเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเสมอ โดยมีหนังสือเล่มหนึ่งชื่อ “ชุนชิวฝานลู่” ที่เขียนขึ้นในสมัยรางวงศ์ฮั่นโดย ต่ง จ้งซู ได้บันทึกเกี่ยวกับพิธีกรรมขอฝนเอาไว้ว่า มีการใช้มังกรที่ทำจากจากดินเหนียว ผู้คนทั้งเด็กและผู้ใหญ่ก็จะออกเต้นกันอย่างสนุกสนาน นอกจากนี้ยังมีภาพแกะสลักที่แสดงให้เห็นถึง การแสดงเพื่อความบันเทิงที่เป็นนิยมในสมัยราชวงศ์ฮั่น เรียกว่า “ไป่ซี่” โดยจะมีการแต่งตัวเลียนแบบเป็นสัตว์ต่างๆ รวมไปถึงมังกรด้วย ต่อมาในสมัยราชวงศ์ถัง (พ.ศ.1161-1450) และราชวงศ์ซ่ง (พ.ศ. 1503-1822) ก็ได้มีโคมไฟรูปมังกรปรากฎในเทศกาลโคมไฟ โดยสร้างจากแก้วและผ้า ภายในบรรจุเทียนจำนวนมาก และจะหิ้วเดินขบวนกันไปตามถนนยามค่ำคืนในช่วงเทศกาลโคมไฟ ซึ่งเชื่อกันว่านี่เป็นต้นแบบที่ถูกนำไปประยุกต์กับการเชิดสิงโตในปัจจุบันที่มักจจะจัดกันในตอนกลางวัน ในประวัติศาสตร์ การเชิดมังกรจะมีการแสดงที่หลากหลายแตกต่างกันไป พร้อมด้วยรูปแบบ […]

ตำนานการเชิดสิงโตในวันตรุษจีน by GiftnGo.Gift

ตำนานการเชิดสิงโตในวันตรุษจีน by GiftnGo.Gift

ในวันตรุษจีนของทุกๆ ปี รวมไปถึงวันตรุษจีน2560 นี้ หลายคนมักจะเห็นการแสดง “เชิดสิงโต” ซึ่งเป็นเหมือนประเพณีที่ทำกันเป็นประจำ เป็นการเอาฤกษ์เอาชัยให้เกิดความเป็นสิริมงคลในวันตรุษจีนหรือวันปีใหม่จีนนั้นเอง คนจีนโบราณมีความเชื่อว่า “สิงโต” เป็นบุตรของมังกร ซึ่งมีอำนาจและทรงพลังมากที่สุดในบรรดาบุตรทั้งหมด ได้รับมอบหมายจากสวรรค์ในฐานะผู้พิทักษ์ สิงโตจึงถือเป็นสัญลักษณ์ของพลังอำนาจ ความกล้าหาญ และความจงรักภักดี นอกจากนี้ยังเชื่อว่ากันว่าสิงโตเป็น สัตว์เทพเจ้าที่ศักดิ์สิทธิ์ แม้เพียงเสียงคำรามก็สามารถปัดเป่าวิญญาณและสิ่งชั่วร้ายได้ ด้วยเหตุนี้เองชาวจีนจึงนิยมสร้างรูปสลักสิงโตไว้ตรงหน้าพระราชวัง ตามหน้าบ้านหรือสถานที่ต่างๆ เพื่อเป็นองครักษ์ผู้พิทักษ์คอยคุ้มครองป้องกันภัยอันตรายภูตผีปีศาจและสิ่งชั่วร้ายต่างๆ โดยจะสร้างสิงโตไว้ตรงหน้าประตูทางเข้าเป็นคู่ สิงโตตัวผู้จะอยู่ทางด้านขวามือ(ของผู้ที่เดินเข้า)และสิงโตตัวเมียจะอยู่ทางด้านซ้าย วันตรุษจีนเป็นวันขึ้นปีใหม่ของชาวจีน เป็นวันฤกษ์งามยามดี ประกอบกับชาวจีนให้การนับถือสิงโตมาก เพราะเชื่อว่า สิงโตมีความศักดิ์สิทธิ์ ทั้งมี อิทธิฤทธิ์ที่จะบันดาลโชคลาภมาให้ คอยช่วยปกป้องและปัดเป่าโพยภัยต่าง ๆ ไม่ให้มารังควานผู้คนได้ และเชื่อกันว่าผู้ใดได้ชมการเชิดสิงโต จะมีโชคลาภ เจริญรุ่งเรือง เป็นสิริมงคล จึงนิยมเชิดสิงโตในวันตรุษจีนและสืบทอดการแสดงมากว่าพันปี จริงๆ แล้วตำนานที่มาของการเชิดสิงโตมีหลากหลายแตกต่างกันอยู่พอสมควร แต่ในที่นี้ขอยกตัวอย่างมาแค่บางส่วนที่เป็นที่เล่ากันเป็นส่วนใหญ่ในปัจจุบัน มีตำนานหนึ่งกล่าวว่าในประเทศจีนสมัยห้าราชวงศ์ในวันตรุษจีน (หรือบางที่ก็ว่าวันไหว้พระจันทร์) จะปรากฏสัตว์ร้ายชื่อว่า เหนียน Nien (ตัวเหนียนนั้นมีตัวยาวแปดฟุต ศีรษะใหญ่ มีฟันแหลมคม ตาเหมือนระฆังทองแดง มีใบหน้าสีเขียว มีเขาบนศีรษะ) ซึ่งจะคอยทำร้ายผู้คน สัตว์เลี้ยงและทำลายพืชผลไร่นาเสียหาย […]