นายจ้าง

กสร. เผยป้องกันยาเสพติดได้ผล สถานประกอบกิจการผ่านการรับรองกว่าห้าพันแห่ง เตรียมจัดงานประกาศเกียรติคุณ 23 มิ.ย.นี้

กสร. เผยป้องกันยาเสพติดได้ผล สถานประกอบกิจการผ่านการรับรองกว่าห้าพันแห่ง เตรียมจัดงานประกาศเกียรติคุณ 23 มิ.ย.นี้

กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เผยนโยบายป้องกันและแก้ไขยาเสพติดในสถานประกอบกิจการได้ผล  มีสถานประกอบกิจการทั่วประเทศผ่านการรับรองแล้วกว่าห้าพันแห่ง โรงงานสีขาวอีกกว่าสี่หมื่นแห่ง ลูกจ้างมีภูมิคุ้มกันยาเสพติดมากกว่า 5.7 ล้านคน เตรียมพร้อมจัดงานประกาศเกียรติคุณสถานประกอบกิจการ 23 มิ.ย.60 นายสุเมธ มโหสถ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เปิดเผยว่า การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานประกอบกิจการเป็นภารกิจสำคัญที่กสร. ให้ความสำคัญมาโดยตลอด โดยได้เร่งดำเนินการมิให้กลุ่มผู้ใช้แรงงานเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดตามนโยบายของรัฐบาลและแผนประชารัฐร่วมใจ  สร้างหมู่บ้านชุมชนมั่นคง ปลอดภัยยาเสพติด พ.ศ.2559-2560 ซึ่งมุ่งเน้นการรณรงค์ให้ความรู้เกี่ยวกับโทษ พิษภัย และผลกระทบ รวมไปถึงการส่งเสริมให้สถานประกอบกิจการมีระบบการจัดการปัญหายาเสพติดตามโครงการโรงงานสีขาว และระบบมาตรฐานการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานประกอบกิจการ หรือ มยส. ตลอดจนการจัดกิจกรรมแสดงเจตนารมณ์ร่วมกันต่อต้านยาเสพติด ระหว่างนายจ้าง ลูกจ้าง เครือข่ายสถานประกอบกิจการ และองค์กรต่าง ๆ ซึ่งผลการดำเนินงานเป็นที่น่าพอใจเนื่องจากสถานประกอบกิจการให้ความสำคัญกับปัญหาดังกล่าวและให้ความร่วมมือจนปัจจุบันมีสถานประกอบกิจการผ่านเกณฑ์โรงงานสีขาว 47,434 แห่ง ลูกจ้างที่เกี่ยวข้อง 4,625,664 คน และสถานประกอบกิจการผ่านเกณฑ์การรับรองมาตรฐานการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานประกอบกิจการ (มยส.) 5,751 แห่ง ลูกจ้าง 1,167,467 คน อธิบดีกสร. กล่าวต่อไปว่า องค์การสหประชาชาติได้กำหนดให้วันที่ 26 มิถุนายนของทุกปี เป็นวันต่อต้านยาเสพติดแห่งโลก ในปีนี้ กสร. ได้จัดกิจกรรมรณรงค์ภายใต้กรอบแนวคิด […]

กสร. ย้ำ นายจ้างต้องฝึกอบรมให้ลูกจ้างที่ทำงานเกี่ยวกับไฟฟ้า

กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ย้ำ นายจ้างต้องจัดฝึกอบรมความปลอดภัยในการทำงานเกี่ยวกับไฟฟ้าให้ลูกจ้างที่ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวกับไฟฟ้า นายสุเมธ มโหสถ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เปิดเผยว่า กสร.ได้กำหนดให้ลูกจ้าง ที่ปฏิบัติงานเกี่ยวกับไฟฟ้าต้องผ่านการฝึกอบรมความปลอดภัยในการทำงานเกี่ยวกับไฟฟ้า เพื่อให้ลูกจ้างมีความรู้ ความเข้าใจ และทักษะที่จำเป็นในการทำงาน และสามารถปฏิบัติงานได้อย่างปลอดภัยตามกฎกระทรวงกำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับไฟฟ้า พ.ศ.2558 โดยนายจ้างจะต้องจัดให้มีการฝึกอบรมลูกจ้างที่ปฏิบัติงานเกี่ยวกับไฟฟ้า ระยะเวลา ไม่น้อยกว่า 3 ชั่วโมง ซึ่งประกอบด้วยหัวข้อวิชาดังนี้ 1. กฎหมายความปลอดภัยในการทำงานเกี่ยวกับไฟฟ้าและความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับระบบไฟฟ้า 2. สาเหตุและการป้องกันอันตรายจากไฟฟ้า และอุปกรณ์คุ้มครองความปลอดภัยส่วนบุคคล 3. การให้ความช่วยเหลือผู้ประสบอันตรายจากไฟฟ้า และการปฐมพยาบาลเบื้องต้น แต่ในกรณีที่มีความเสี่ยงจากลักษณะงานอื่นรวมอยู่ด้วย เช่น การทำงานในที่สูง การทำงานในบริเวณที่อาจเป็นอันตราย นายจ้างอาจจัดให้มีระยะเวลาการฝึกอบรมและหัวข้อวิชาที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติมได้ อธิบดีกสร. กล่าวต่อไปว่า เจตนารมณ์ของกฎหมายต้องการให้นายจ้างเป็นผู้ดำเนินการจัดอบรมด้วยตัวเอง แต่หากไม่สามารถดำเนินการได้สามารถจัดหาวิทยากรจากหน่วยงานภายนอกที่มีคุณสมบัติตามที่กสร. กำหนด หรือให้ผู้ที่ขึ้นทะเบียน ได้รับใบอนุญาตจากกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานเป็นผู้อบรมซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการกำหนดการขึ้นทะเบียนและใบอนุญาต นอกจากนี้ ลูกจ้างที่ได้รับหนังสือรับรองความรู้ความสามารถสาขาช่างไฟฟ้าภายในอาคารของกรมพัฒนาฝีมือแรงงานถือว่าเป็นผู้ผ่านการฝึกอบรมของกสร. ด้วย ทั้งนี้ หากนายจ้างไม่ได้ดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนดมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปีปรับไม่เกิน 400,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

แรงงาน เตือนนายจ้างแจ้งรายชื่อสารเคมีที่ใช้ ฝ่าฝืนผิดกม.

แรงงาน เตือนนายจ้างแจ้งรายชื่อสารเคมีที่ใช้ ฝ่าฝืนผิดกม.

กระทรวงแรงงาน โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เผยผลการตรวจสถานประกอบกิจการที่มีการใช้จัดเก็บสารเคมีอันตรายตามมาตรการ ๓-๓-๒ พบสถานประกอบกิจการปฏิบัติไม่ถูกต้องเรื่องการจัดทำบัญชีรายชื่อสารเคมีอันตรายและรายละเอียดข้อมูลความปลอดภัยฯ มากสุด ย้ำนายจ้างต้องปฏิบัติตามกฎหมายหากฝ่าฝืนมีโทษอาญา นายสุเมธ มโหสถ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน(กสร.) เปิดเผยถึงผลการตรวจ ความปลอดภัยฯแบบเข้มข้นตามมาตรการ ๓-๓-๒ ในสถานประกอบกิจการที่มีการใช้สารเคมีว่า ช่วงเดือนกุมภาพันธ์ ถึงเดือนเมษายน ๒๕๖๐ ได้ดำเนินการตรวจสถานประกอบกิจการ ๙๘๖ แห่งลูกจ้างเกี่ยวข้อง ๑๒๖,๔๕๘ คน พบสถานประกอบกิจการปฏิบัติไม่ถูกต้อง ๓๐๗ แห่ง พนักงานตรวจความปลอดภัยได้ออกคำสั่งให้ปรับปรุงแล้ว ๒๘๒ แห่ง ให้นำเอกสารมาแสดง ๒๕ แห่ง ในจำนวนนี้ได้ส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย ๑ แห่ง ทั้งนี้พบว่าเรื่องที่ปฏิบัติไม่ถูกต้อง ๓ ลำดับแรก ได้แก่ ไม่จัดทำบัญชีรายชื่อสารเคมีอันตรายและรายละเอียดข้อมูลความปลอดภัยของสารเคมีที่มีอยู่ในครอบครองและแจ้งให้เจ้าหน้าที่ทราบภายในเจ็ดวัน จำนวน ๑๗๗ แห่ง คิดเป็นร้อยละ ๕๗.๖, ไม่ปิดฉลากรายละเอียดเกี่ยวสารเคมีเป็นภาษาไทยไว้ที่หีบห่อหรือภาชนะบรรจุสารเคมีอันตราย จำนวน ๘๐ แห่ง คิดเป็นร้อยละ ๒๖ และไม่จัดทำคู่มือ ขั้นตอนการทำงานเกี่ยวกับสารเคมีอันตราย จำนวน ๒๕ แห่ง […]

1 10 11 12