นาฬิกา

นาฬิกาตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 10

นาฬิกาตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 10

นอกจากเหรียญที่ระลึกและเข็มกลัดแล้ว ยังมีนาฬิกาแบรนด์ไทย แบรนด์เดียวที่ได้รับอนุญาตผลิตนาฬิกาตราสัญลักษณ์พระราชพิธีบรมราชาภิเษก รัชกาลที่ 10 รุ่น “ในหลวงสถิตในใจไทย” จำนวน 20,000 เรือน ออกแบบภายใต้ความหมาย “ดวงตาเปรียบเสมือนหน้าต่างของหัวใจ” ดวงตานี้มีเลข ๑๐ อยู่ด้านใน ความหมายโดยนัย “มีพระมหากษัตริย์อยู่ในหัวใจของคนไทยทุกคน” จัดทำขึ้นเพื่อแสดงความจงรักภักดีและร่วมเฉลิมฉลองในช่วงงานพระราชพิธีบรมราชาภิเษกและไว้ให้ประชาชนเก็บรักษาไว้เป็นที่ระลึกแห่งความทรงจำเหตุการณ์สำคัญของชาติไทย สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม Facebook: Thailandwatch Line: @thailandwatch เบอร์โทร: 02-5514405, 086-3932937

เรือนเวลาแอร์เมสรุ่น อาร์โซ 78 (Arceau 78)

เรือนเวลาแอร์เมสรุ่น อาร์โซ 78 (Arceau 78)

เรือนเวลา Arceau 78 สุดคลาสสิค โดดเด่นด้วยดีไซน์เรียบหรู ดูสง่างาม เหนือกาลเวลา หากเข้ากันได้เป็นอย่างดีกับช่วงเวลาแห่งแอร์เมส ในปี 1978 อองรี ดอริญี ได้ถอดรหัสแห่งสุนทรียศาสตร์ ด้วยการนำหูตัวเรือนแบบอสมมาตรที่ได้รับแรงบันดาลใจจากโกลนม้า มาผสานเข้ากับตัวเรือนทรงกลมและเลขอักขระที่จัดวางเอียงโค้งลู่ไปกับหน้าปัด เพื่อสื่อถึงจังหวะการควบย่างของม้า รุ่นขนาดใหญ่มากนี้มาในตัวเรือนสเตนเลสสตีล ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 40 มม. หน้าปัดสีดำแอนทราไซต์ ตัดกับตัวเลขและเข็มนาฬิกาโทนสีครีม รับกับสายหนังลูกวัวบาเรเนียสีธรรมชาติ นับตั้งแต่แรกรังสรรค์ คอลเลกชั่นอาร์โซของแอร์เมสได้ถ่ายทอดสไตล์ใหม่ๆ ที่ไม่จำเจ ผสานลักษณะเฉพาะตัวดูเป็นธรรมชาติ ที่หล่อหลอมขึ้นจากดีไซน์อันเรียบง่ายแต่สะดุดตาและลายเส้นธรรมดาแต่พิถีพิถัน เรือนเวลาอาร์โซ 78 (Arceau 78) มาในตัวเรือนทรงกลม ทำจากสเตนเลสสตีลขัดเงาวาวราวกระจก ขอบตัวเรือนขัดแต่งด้วยเทคนิคบีดบลาสต์ ทำด้วยวัสดุสเตนเลสสตีลเคลือบเงาเนื้อด้าน และหูตัวเรือนแบบอสมมาตรอันโดดเด่นที่มีต้นแบบมาจากโกลนม้า สะท้อนรากเหง้าของบูติคแห่งแรก ที่ก่อตั้งขึ้นบริเวณถนนโฟร์บูร์ก แซงต์-ออนอเร่ ในกรุงปารีส หน้าปัดสีดำแอนทราไซต์ลายเกรนอันประณีตบอกจังหวะด้วยเข็มนาฬิกาเพรียวบางในโทนสีครีมโปร่งแสง พร้อมเลขอารบิก ทำหน้าที่บอกชั่วโมง นาที และวันที่ ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา ขับเคลื่อนด้วยกลไกควอทซ์ที่ผลิตในสวิตเซอร์แลนด์ องค์ประกอบที่แตกต่างอย่างพิถีพิถันนี้เสริมความโดดเด่นให้กับดีไซน์สุดพิเศษของตัวเลขที่เอียงลู่ เรือนเวลา Arceau 78 […]

เรือนเวลาแอร์เมส รุ่น เคปคอด แชน ดองคร์ (CAPE COD Chaîne d’ancre )

เรือนเวลาแอร์เมส รุ่น  เคปคอด แชน ดองคร์ (CAPE COD Chaîne d’ancre )

เรือนเวลาเคป คอด โฉมใหม่ สะท้อนการผสมผสานสไตล์ผาดโผนซุกซุนแต่ยังคงไว้ซึ่งความอ่อนหวานแบบสุภาพสตรีอย่างแยบยล “ลายแองเคอร์เชน” ในรุ่นตัวเรือนสเตนเลสสตีลขนาดใหญ่นี้ถ่ายทอดจากจินตนาการของโรเบิร์ต ดูมาส์ เมื่อปี 1938 ได้พลิกโฉมกรอบเกณฑ์แห่งการประดิษฐ์เครื่องบอกเวลาผ่านความคิดสร้างสรรค์ที่สะท้อนออกมาภายใต้กรอบที่ล้อมอยู่ สำหรับนาฬิการุ่นเคป คอด นี้ มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสซ้อนในกรอบสี่เหลี่ยมผืนผ้า เป็นการออกแบบที่กล้าหาญของอองรี ดอริญี เมื่อปี 1991 ลายเส้นกราฟิกที่คมชัด มีลูกเล่น ไม่ซ้ำใคร ผลงานชิ้นเอกอันมีสไตล์เรือนนี้ได้โลดแล่นไปกับคลื่นเวลาอย่างลื่นไหล สื่อถึงความเป็นชิ้นงานที่คงอยู่เหนือกาลเวลา ในปี 1998 ได้มีการออกแบบคอลเลกชั่นใหม่เป็นสายพันแบบสองรอบ และประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว จนในปี 2016 เรือนเวลาเคป คอด ได้ผ่านการปรับโฉมสู่หน้าปัดที่ทำด้วยหิน เคลือบเงา พร้อมสายหนังสีสันสดใสแบบใหม่ และในปีต่อมา แอร์เมสได้ออกรุ่นตัวเรือนชุบกรรมวิธี DLC ในโทนสีดำเนื้อแมตต์ สไตล์การออกแบบที่ประสบความสำเร็จเหล่านี้หล่อหลอมขึ้นจากความเป็นอิสระและห้วงจินตนาการ สำหรับปีนี้ เรือนเวลาเคป คอด ได้ถอดรหัสแห่งสุนทรียศาสตร์โดยนำความเชื่อมโยงของสายสร้อยข้อมือรุ่นแองเคอร์เชนมาตีความใหม่ ลวดลายบนหน้าปัดตัดกับสีพื้นหลังสีดำหรือสีขาวเคลือบเงา เรียงร้อยกลมกลืนไปกับนิลสีดำและหินอเวนเจอรีน หรือจะเป็นเพชรเม็ดงามและมุกสีขาวบริสุทธิ์ ลายเส้นอักขระผสานความทันสมัยของโลโก้ที่อยู่เยื้องกัน เสริมความโดดเด่นด้วยเข็มนาฬิกาที่เพรียวบางและขอบตัวเรือนสี่เหลี่ยมผืนผ้าประดับเพชร มาพร้อมสายตัวเรือนทำด้วยหนังจระเข้แบบพันรอบเดียวและแบบพันสองรอบเสริมให้เครื่องบอกเวลาอันงามสง่าในสไตล์ลำลองเรือนนี้รับกับข้อมือสุภาพสตรีได้อย่างลงตัว

แอร์เมส: ศิลปะแห่งการตัดต่อผืนหนัง

แอร์เมส: ศิลปะแห่งการตัดต่อผืนหนัง

อาร์โซ กาวาลส์ และ สลิม แอร์เมส เลซ์ แซบรส์ เดอ ตองซานี ลวดลายสัตว์ต่างๆ ที่แอร์เมสโปรดปรานถูกถ่ายทอดออกมาในสไตล์ของงานศิลป์สีสันสดใสด้วยเทคนิคการตัดต่อผืนหนัง รูปทรงของม้าและลายทางของม้าลายก่อเกิดขึ้นจากแพทเทิร์นการตัดต่อและค่อยๆ จัดวางลงบนหน้าปัดของเครื่องบอกเวลารุ่น อาร์โซ และสลิม แอร์เมส องค์ประกอบอันประณีตของชิ้นงานที่ทำด้วยหนังลูกวัวขนาดเล็กสะท้อนความเป็นชิ้นงานขนาดจิ๋วโดยแท้ภายใต้กรอบจำกัดของพื้นที่เล็กๆ นี้ สีแดง สีน้ำเงินมอลต้า หรือสีกราไฟต์ของแอร์เมส ล้วนเป็นเอกลักษณ์แห่งเฉดสีที่แต่งแต้มลงบนเรือนเวลา ผสานงานหัตถกรรมเครื่องหนังและทักษะการทำนาฬิกาเข้าไว้ด้วยกัน เรือนเวลาทั้งสองรุ่นทำด้วยทองขาวที่น้อยครั้งจะเลือกนำมาใช้ ผลิตในจำนวนจำกัด บนหน้าปัดที่สอดแทรกความสมบูรณ์แบบในทุกรายละเอียด ช่างเครื่องหนังของแอร์เมสจะประกอบชิ้นงานหลากเฉดสีเข้าด้วยกันเป็นลวดลายของม้าหรือม้าลาย การสร้างสรรค์เหล่านี้ที่ถูกย่อขนาดมาไว้ในตัวเรือนทรงกลมขับเน้นสีสันอันโดดเด่นของชิ้นหนังที่คัดสรรมาอย่างดี ผ่านการตัดแต่งและติดลงไปโดยอาศัยทักษะความเชี่ยวชาญในการทำอานม้า รวมถึงงานเครื่องหนัง เทคนิคการตัดต่อลายโดยใช้ผืนหนังต้องอาศัยกลวิธีอันละเอียดอ่อนเช่นเดียวกับงานประกอบกลไกนาฬิกา เริ่มจากนำผืนหนังลูกวัวที่มีลายเกรนชัดเจนสวยงามมาตัดเป็นชิ้นเล็กๆ ให้มีความหนา 0.5 มม. ก่อนนำแผ่นหนังแต่ละชิ้นที่ตัดออกเป็นลวดลายต่างๆ อย่างแม่นยำทั้งขนาดและรูปร่างมาเรียงร้อยเข้าด้วยกัน โดยช่างฝีมือจะเลือกสรรชิ้นหนังทีละชิ้นแล้วติดลงบนหน้าปัดเพื่อสร้างเป็นลวดลาย เรือนเวลาอาร์โซและสลิม แอร์เมส จึงเป็นผลงานที่ถ่ายทอดศิลปะการทำเครื่องหนังขนาดจิ๋วได้อย่างแท้จริง อาร์โซ กาวาลส์ “สีแดงแอร์เมส” และ “สีน้ำเงินคราม” สองสีอันเป็นเอกลักษณ์ของแอร์เมสถูกนำมาตีความให้ต่างกันออกไปอย่างมีชั้นเชิงผ่านผืนหนัง เสริมด้วยสีแดงคาปูซีนหรือสีแดงอาเกต หลังจากช่างฝีมือได้เฝ้าเพียรประกอบชิ้นงานอย่างยาวนาน 6 ชั่วโมง ผืนหนังสีสันต่างๆ ก็กลายเป็นงานแพทช์เวิร์คชิ้นหนึ่งที่ดูคล้ายกลีบดอกป๊อปปี้อันบอบบาง และอีกชิ้นงานที่สื่อถึงการพรางตัวอย่างมีสไตล์ หากสังเกตดูใกล้ๆ […]

เรือนเวลาแอร์เมสรุ่นอาร์โซ กาวาลส์ (Arceau Cavales)

เรือนเวลาแอร์เมสรุ่นอาร์โซ กาวาลส์ (Arceau Cavales)

เรือนเวลาอาร์โซเผยอัตลักษณ์แห่งความงามผ่านการปรับโฉมเรือนเวลาแบบเดิม ให้โลดแล่นมีชีวิตชีวา ทว่าคงไว้ซึ่งสไตล์เฉพาะตัว นี่คือผลงานที่อองรี ดอริญี รังสรรค์ขึ้นในปี 1978 ผสมผสานลูกเล่นเพื่อสร้างความต่างให้นาฬิกาคลาสสิคด้วยหูสายแบบอสมมาตร ทุกองค์ประกอบของนาฬิกาเรือนนี้ผ่านการพิเคราะห์อย่างมีชั้นเชิง เผยให้เห็นความงามสง่าที่ไม่ยอมจำนนอยู่ใต้กรอบเกณฑ์อันเคร่งครัดใดๆ การนำเสนอความต่างระหว่างแบบแผนที่เข้มงวดและความกล้าที่จะสร้างสรรค์ หล่อหลอมกันเป็นจิตวิญญาณอิสระ พร้อมเปิดรับจินตนาการของประดิษฐกรรมแห่งเวลารุ่นอาร์โซ หน้าปัดมีให้เลือกสองขนาด คือ ขนาด 36 มม. และ 28 มม. ขอบตัวเรือนด้านในประดับอัญมณีสุกสกาวรังสรรค์ด้วยเทคนิคไม่เหมือนใคร เจิดจรัสด้วยเพชรจำนวน 70 หรือ 60 เม็ดที่ประดับลงบนหน้าปัดเปลือกหอยมุกที่ใช้เทคนิคตัดต่อลาย (Marquetry) อวดโฉมลวดลายของ “ม้า” อันเป็นจุดเด่นของแอร์เมส นอกจากนี้ ยังมีเรือนเวลาใหม่ ขนาด 28 มม. ประดับเพชร 56 เม็ดบนขอบตัวเรือนด้านนอก พื้นหน้าปัดสีดำเข้มที่ทำขึ้นด้วยเทคนิคชองเปลอเว่และเคลือบเงาทับ เจิดจรัสเฉกเช่นเดียวกับลุ่มลึก เรือนเวลาอาร์โซ กาวาลส์ (Arceau Cavales) ถ่ายทอดความเชี่ยวชาญอันเป็นเลิศของช่างทำนาฬิกาแอร์เมส พร้อมเล่าขานมุมมองแห่งเวลาอันเป็นเอกลักษณ์ของแอร์เมส

เรือนเวลา Slim d’Hermes GMT

เรือนเวลา Slim d’Hermes GMT

ประดิษฐกรรมแห่งเวลา แอร์เมส GMT โดดเด่นด้วยฟังก์ชั่นบอกโซนเวลา ออกเดินทางจากปารีสสู่นิวยอร์ก และจากบัวโนสไอเรสสู่มุมไบ ตัวเรือนแพลเลเดียมงามสง่าเพรียวบาง ส่งให้เรือนเวลาแอร์เมส GMT คอลเลกชั่นใหม่เจิดจรัสข้ามขอบฟ้า เสริมด้วยเสน่ห์ลึกลับชวนค้นหาของหน้าปัดหินชนวนสีเทาประดับเลขบอกเวลาที่โปร่งบาง แง้มหน้าผ่านกระจกสีอมเทา ขับเคลื่อนด้วยกลไก H1950 รุ่นบางพิเศษจากแอร์เมส เพิ่มความโดดเด่นเฉพาะตัวด้วยโมดูล GMT บอกโซนเวลา เช่นเดียวกับคุณสมบัติด้านความบางพิเศษ และแม้จะหลงทางไปบ้าง ก็จงปล่อยใจแล้วดื่มด่ำไปกับห้วงเวลา ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนหรือเมื่อใดก็ตาม ลองมาตามคำเชิญเพื่อออกสำรวจไปกับเรือนเวลาของแอร์เมส ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 90 เรือน สลิม เดอ แอร์เมส ผสานคุณสมบัติสำคัญไว้ด้วยกัน ทั้งความเรียบง่ายภายใต้กรอบเกณฑ์อันเคร่งครัดและสมดุลย์แห่งสุนทรียศาสตร์ เอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่นสำหรับคอลเลกชั่นนี้ได้รับการหล่อหลอมขึ้นในปี 2015 ด้วยสไตล์ที่ทั้งคลาสสิคและทันสมัยไปพร้อมๆ กัน ผ่านการรังสรรค์อย่างพิถีพิถันในทุกรายละเอียด ความโค้งที่ลาดลงเล็กน้อยของตัวเรือนกลาง วงรอบที่โค้งอย่างพอเหมาะพอดี และเลขอักขระที่คงความเป็นต้นแบบ ล้วนเป็นฝีมือของฟิลิปป์ อะเปอลัวก์ (Philippe Apeloig) ตัวเรือนทำจากแพลเลเดียม โลหะหายากและมีน้ำหนักเบาในกลุ่มเดียวกับแพลตินัม แอร์เมสรุ่น GMT เป็นดั่งเพื่อนคู่ใจสำหรับนักเดินทางรอบโลก ตัวเรือนที่บางพิเศษเพียง 9.48 มิลลิเมตรเผยภาพเบื้องล่างที่งามพิสุทธิ์ภายใต้มนต์ขลังของกระจกคริสตัลสีอมเทาที่ห่อหุ้มมันเอาไว้ หน้าปัดสีเทาหินชนวนที่กว้างและลายเส้นเพรียวบางของเลขอักขระงามจับตา คั่นด้วยช่องว่างระหว่างกัน ผ่านกรรมวิธีขัดแต่งที่แยบยลเพื่อเพิ่มมิติให้คมชัดยิ่งขึ้น Chapter […]

ไซโก จัดงาน “Discover The Unknown” เปิดแคมเปญใหม่ปี 2561

บริษัท ไซโก (ประเทศไทย) จำกัด จัดงานเปิดแคมเปญใหม่ “Discover The Unknown” ในวันพุธที่ 18 กรกฎาคม 2561 เวลา 18.00 – 19.30 น. ณ แฟชั่นฮอลล์ ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยมีพระเอกหนุ่ม อนันดา เอเวอริ่งแฮม แบรนด์แอมบาสซาเดอร์นาฬิกา SEIKO มาร่วมโชว์โฉมคอลเลคชั่นล่าสุด SEIKO PROSPEX Marinemaster ZIMBE Limited Edition พร้อมด้วยมินิคอนเสิร์ตสุดมันส์จาก Twopee Southside (รายการ The Rapper Thailand)

ไซโก จัดงาน “Discover The Unknown” เปิดแคมเปญใหม่ปี 2561

ไซโก จัดงาน “Discover The Unknown” เปิดแคมเปญใหม่ปี 2561

บริษัท ไซโก (ประเทศไทย) จำกัด จัดงานเปิดแคมเปญใหม่ “Discover The Unknown” ในวันพุธที่ 18 กรกฎาคม 2561 เวลา 18.00 – 19.30 น. ณ แฟชั่นฮอลล์ ชั้น 1 ศูนย์การค้าสยามพารากอน โดยมีพระเอกหนุ่ม อนันดา เอเวอริ่งแฮม แบรนด์แอมบาสซาเดอร์นาฬิกา SEIKO มาร่วมโชว์โฉมคอลเลคชั่นล่าสุด SEIKO PROSPEX Marinemaster ZIMBE Limited Edition พร้อมด้วยมินิคอนเสิร์ตสุดมันส์จาก Twopee Southside (รายการ The Rapper Thailand)

เรือนเวลาแอร์เมส รุ่นการ์เร่ กุยร์ (CARRÉ CUIR)

เรือนเวลาแอร์เมส รุ่นการ์เร่ กุยร์ (CARRÉ CUIR)

เอกลักษณ์แห่งดีไซน์ที่คมชัดสะกดสายตาของเรือนเวลานี้ เป็นผลงานการร่ายมนตร์ของแอร์เมส สะท้อนความเป็นหนึ่งเดียวแห่งนาฬิกาผ่านสายหนังและรูปทรงสี่เหลี่ยม สายหนังถูกออกแบบให้กลายเป็นพื้นหลังของหน้าปัด ขณะที่หน้าปัดก็กลืนผสานไปกับสายหนัง เข็มนาฬิกาดูราวกับลอยอยู่ ทำให้การมองเห็นรูปทรงนั้นมีมิติหลอกตา กระนั้นหัวใจสำคัญอันเป็นเสน่ห์แห่งเรือนเวลาอันลึกลับนี้สามารถสรุปออกมาเป็นคำนิยามสั้น ๆ ได้ นั่นคือ เครื่องหนังที่โอมล้อมในกรอบสี่เหลี่ยมจัตุรัส! กรอบตัวเรือนสเตนเลสสตีลสี่เหลี่ยมจัตุรัส แบบขัดเงาหรือประดับเพชร รังสรรค์ขึ้นภายในเวิร์คช็อปผลิตเรือนเวลาของแอร์เมส ทำให้ประดิษฐกรรมแห่งเวลาชิ้นนี้ซึมซาบไปด้วยความงดงามลงตัวที่สืบทอดมาแต่เดิม รูปลักษณ์ที่ปรากฏจึงท้าทายธรรมเนียมการรังสรรค์เครื่องบอกเวลา ทว่าเป็นสไตล์การออกแบบที่แอร์เมสโปรดปราน สายนาฬิกาและหน้าปัดหนังจระเข้สีกรมท่ารังสรรค์ขึ้นเป็นเส้นสายเดียวกันอย่างประณีตกลมกลืนไร้ที่ติ สายนี้ถูกยึดอย่างแยบยลด้วยหูสายที่ออกแบบมาให้สามารถยึดสายนาฬิกาไว้กับตัวเรือนได้อย่างเหมาะเจาะ เป็นขั้นตอนที่ต้องอาศัยระยะเวลาการสร้างสรรค์ที่ยาวนานและฝีมืออันละเอียดบรรจงเพื่อให้เกิดมิติความงามตามที่ปรารถนา แอร์เมส รังสรรค์ชิ้นงานมากมาย ที่ล้วนกลั่นกรองจากฝีมือของช่างผู้ชำนาญ เพื่อให้สิ่งเหล่านี้กลายเป็นเพื่อนคู่ใจของผู้สวมใส่ ชิ้นงานของแอร์เมสให้ความพึงพอใจเหนือความคาดหมาย เน้นประโยชน์การใช้งาน พร้อมคุณสมบัติด้านฟังก์ชั่นต่าง ๆ ก่อกำเนิดขึ้นจากทักษะความเชี่ยวชาญอันหาตัวจับยาก เป็นชิ้นงานที่จะเปลี่ยนทุกวันให้มีชีวิตชีวา และทุกจังหวะให้เป็นช่วงเวลาสุดพิเศษ สำหรับแอร์เมสแล้ว เวลาก็เป็นอีกหนึ่งผลงาน ความกดดันโดยธรรมชาติของมันได้ผ่านการตีความสู่ลักษณะเฉพาะตัว นอกเหนือ จากการบอกเวลา จัดลำดับและค้นหาวิธีที่จะควบคุมมันแล้ว แอร์เมส ยังกล้าที่จะมองหาเวลาแบบใหม่ ๆ ที่ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นความรู้สึก กล้าที่จะหยุดเว้นจังหวะ และเปิดพื้นที่สำหรับความเป็นธรรมชาติและการผ่อนคลาย

ชมนิทรรศการ TIME, A HERMÈS OBJECT เดือนมิถุนายนนี้ ที่สยามพารากอน

ชมนิทรรศการ TIME, A HERMÈS OBJECT เดือนมิถุนายนนี้ ที่สยามพารากอน

การออกสำรวจเวลาซึ่งเปรียบได้กับสนามเด็กเล่นอันกว้างใหญ่ ก็เหมือนกับได้ออกไปค้นพบประสบการณ์ที่แท้จริง ทั้งหมดนี้ไม่ใช่แค่เพื่อเทียบวัดเวลา แต่ยังเพื่อความเพลิดเพลินอีกด้วย สไตล์ที่ชัดเจนก็สำคัญอยู่หรอก แต่การออกนอกกรอบก็สำคัญไม่แพ้กัน เรือนเวลาของแอร์เมสจะมาอวดโฉมอีกครั้งที่กรุงเทพมหานคร ในวันที่ 6 มิถุนายน 2561 พร้อมโชว์สุดตระการตาโดยคณะนักแสดง Gandini Juggling จากกรุงลอนดอน และเปิดรอบสำหรับผู้ชมทั่วไปตั้งแต่วันที่ 7 ถึง 17 มิถุนายน 2561 ณ Hall of Fame ชั้น M สยามพารากอน สำหรับแอร์เมสแล้ว เวลาก็เป็นอีกหนึ่งผลงานที่รังสรรค์ขึ้นจากความเชี่ยวชาญที่หาตัวจับยาก ความกดดันโดยธรรมชาติของมันได้ผ่านการตีความสู่ลักษณะเฉพาะตัว นอกเหนือจากการบอกเวลา จัดลำดับและค้นหาวิธีที่จะควบคุมมันแล้ว แอร์เมส ยังกล้าที่จะมองหาเวลาแบบใหม่ ๆ ที่ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นความรู้สึก กล้าที่จะหยุดเว้นจังหวะ และเปิดพื้นที่สำหรับความเป็นธรรมชาติและการผ่อนคลาย สำหรับโชว์จาก Gandini Juggling ในครั้งนี้เป็นทั้งการผสมผสานและฉีกกฎของศาสตร์แห่งการแสดงไว้ด้วยกันอย่างสนุกสนานโดยนักแสดงมากฝีมือ ผู้ซึ่งจะมาสร้างสีสันให้กับแขกผู้มีเกียรติภายในงาน ด้วยการโชว์โยนผลแอปเปิ้ลที่ผสานการเต้นบัลเลต์ในท่วงท่าที่พลิ้วไหวและแม่นยำ ปลุกเร้าอารมณ์ผู้ชมให้โลดแล่นไปกับจังหวะการเคลื่อนไหวที่ดูราวกับถูกจับวางไว้บนภาพสเก็ตซ์การ์ตูน แรงโน้มถ่วงเป็นตัวแปรที่ท้าทายสำหรับผลแอปเปิ้ล ซึ่งก็ควบคุมได้ด้วยการรับที่ฉับไวในทุกครั้ง กอปรกับลีลาการเคลื่อนไหวที่เร่งเร้าขึ้นทุกขณะ พาผู้ชมสู่ห้วงภวังค์แห่งความรื่นเริงตื่นตาตื่นใจ จนการแสดงสิ้นสุดลงในหนึ่งชั่วโมง ใครล่ะจะรู้ว่าเวลาแห่งความหรรษาได้จบลงแล้ว เพราะมันได้ผ่านไปอย่างรวดเร็วหลังจากศิลปินได้รังสรรค์ท่วงท่าด้วยผลแอปเปิ้ลในมือ ประสบการณ์ของผู้ชมยังดำเนินต่อไปด้วยชิ้นงานต่าง ๆ […]