Hermes

เรือนเวลาแอร์เมส กาล็อป (GALOP D’ HERMÈS)

เรือนเวลาแอร์เมส กาล็อป (GALOP D’ HERMÈS)

พลิ้วไหว เจิดจรัส เริงเล่นกับเวลา โลดแล่น เป็นดั่งเพื่อนคู่กาย เพลิดเพลินกับโมงยามที่เคลื่อนผ่าน ซุกซนและกล้าหาญ กับเม็ดมะยมในตำแหน่ง 6 นาฬิกา 8 นาฬิกา ชวนให้หวนนึกถึงตำนานของแอร์เมส ที่เริ่มต้นจากการทำบังเหียนและอานม้า ปรากฏโฉมขึ้นอีกครั้งกับโกลนม้าในดีไซน์ใหม่ เป็นซุ้มประตูโค้งงามราวกับฝัน เป็นยานท่องอวกาศท่องโลกอนาคต ทั้งสามสิ่งในเรือนเดียว? ลงตัวกับห้วงเวลา และบอกเล่าเรื่องราวของแอร์เมส ด้วยจังหวะอันฉับไว ใส่ใจในรายละเอียด และชัดเจนในตัวเอง แอร์เมส กาล็อป เรือนเวลาอันตกผลึกจากการเฝ้าสังเกตของอินี อาร์ชิบอง ถึงรายละเอียดที่แทรกอยู่ในเหล็กปากม้า โกลนม้า และบังเหียนม้า ที่เก็บไว้ในห้องจัดแสดงชิ้นงานของแอร์เมส Conservatoire des Créations Hermès โดยดีไซเนอร์คนนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากข้าวของทุกชิ้นและองค์ประกอบต่างๆ ในคอลเลกชันบังเหียนม้า สู่ศิลปะแห่งการผสมผสาน เขาได้สกัดทักษะการสร้างสรรค์ ลักษณะทางเทคนิค ความสมดุลที่ลงตัว ความคิดอันล้ำสมัยและความประณีตงดงามเข้าไว้ด้วยกัน นับเป็นการรังสรรค์ที่ผสานจังหวะการเคลื่อนไหวบนลายเส้นที่เปลี่ยนทิศทาง คุณสมบัติด้านฟังก์ชั่นที่บรรจุไว้ข้างใน สร้างความมีชีวิตชีวา และสง่างามลงตัวในทุกองค์ประกอบ คุณค่าและมุมมองอันล้ำสมัยของแอร์เมสได้ส่งผ่านจากวันวานสู่วันพรุ่งนี้ ด้วยการออกแบบตามหลักกลศาสตร์ ความงามที่ถอดแบบมาจากประโยชน์ใช้สอย ความพลิ้วไหวแห่งย่างก้าว… แอร์เมส กาล็อป ยังก่อกำเนิดขึ้นจากลูกเล่นแสง การสะท้อน คืนวันได้หล่อหลอมออกมาเป็นรูปทรงของงานชิ้นนี้ […]

THE GALOP D’HERMÈS WATCH

THE GALOP D’HERMÈS WATCH

Flowing and luminous, it plays with time. Dynamic and companionable, it takes pleasure in the passing hours. Mischievous and bold, it flaunts a crown at 6 o’clock. At 8, it recalls the entire history of Hermès, a harness and saddlemaker from the start. It is a transformed stirrup. A dreamlike arch. A futuristic space vessel. […]

เรือนเวลาแอร์เมสรุ่น อาร์โซ 78 (Arceau 78)

เรือนเวลาแอร์เมสรุ่น อาร์โซ 78 (Arceau 78)

เรือนเวลา Arceau 78 สุดคลาสสิค โดดเด่นด้วยดีไซน์เรียบหรู ดูสง่างาม เหนือกาลเวลา หากเข้ากันได้เป็นอย่างดีกับช่วงเวลาแห่งแอร์เมส ในปี 1978 อองรี ดอริญี ได้ถอดรหัสแห่งสุนทรียศาสตร์ ด้วยการนำหูตัวเรือนแบบอสมมาตรที่ได้รับแรงบันดาลใจจากโกลนม้า มาผสานเข้ากับตัวเรือนทรงกลมและเลขอักขระที่จัดวางเอียงโค้งลู่ไปกับหน้าปัด เพื่อสื่อถึงจังหวะการควบย่างของม้า รุ่นขนาดใหญ่มากนี้มาในตัวเรือนสเตนเลสสตีล ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 40 มม. หน้าปัดสีดำแอนทราไซต์ ตัดกับตัวเลขและเข็มนาฬิกาโทนสีครีม รับกับสายหนังลูกวัวบาเรเนียสีธรรมชาติ นับตั้งแต่แรกรังสรรค์ คอลเลกชั่นอาร์โซของแอร์เมสได้ถ่ายทอดสไตล์ใหม่ๆ ที่ไม่จำเจ ผสานลักษณะเฉพาะตัวดูเป็นธรรมชาติ ที่หล่อหลอมขึ้นจากดีไซน์อันเรียบง่ายแต่สะดุดตาและลายเส้นธรรมดาแต่พิถีพิถัน เรือนเวลาอาร์โซ 78 (Arceau 78) มาในตัวเรือนทรงกลม ทำจากสเตนเลสสตีลขัดเงาวาวราวกระจก ขอบตัวเรือนขัดแต่งด้วยเทคนิคบีดบลาสต์ ทำด้วยวัสดุสเตนเลสสตีลเคลือบเงาเนื้อด้าน และหูตัวเรือนแบบอสมมาตรอันโดดเด่นที่มีต้นแบบมาจากโกลนม้า สะท้อนรากเหง้าของบูติคแห่งแรก ที่ก่อตั้งขึ้นบริเวณถนนโฟร์บูร์ก แซงต์-ออนอเร่ ในกรุงปารีส หน้าปัดสีดำแอนทราไซต์ลายเกรนอันประณีตบอกจังหวะด้วยเข็มนาฬิกาเพรียวบางในโทนสีครีมโปร่งแสง พร้อมเลขอารบิก ทำหน้าที่บอกชั่วโมง นาที และวันที่ ณ ตำแหน่ง 6 นาฬิกา ขับเคลื่อนด้วยกลไกควอทซ์ที่ผลิตในสวิตเซอร์แลนด์ องค์ประกอบที่แตกต่างอย่างพิถีพิถันนี้เสริมความโดดเด่นให้กับดีไซน์สุดพิเศษของตัวเลขที่เอียงลู่ เรือนเวลา Arceau 78 […]

เรือนเวลาแอร์เมส รุ่น เคปคอด แชน ดองคร์ (CAPE COD Chaîne d’ancre )

เรือนเวลาแอร์เมส รุ่น  เคปคอด แชน ดองคร์ (CAPE COD Chaîne d’ancre )

เรือนเวลาเคป คอด โฉมใหม่ สะท้อนการผสมผสานสไตล์ผาดโผนซุกซุนแต่ยังคงไว้ซึ่งความอ่อนหวานแบบสุภาพสตรีอย่างแยบยล “ลายแองเคอร์เชน” ในรุ่นตัวเรือนสเตนเลสสตีลขนาดใหญ่นี้ถ่ายทอดจากจินตนาการของโรเบิร์ต ดูมาส์ เมื่อปี 1938 ได้พลิกโฉมกรอบเกณฑ์แห่งการประดิษฐ์เครื่องบอกเวลาผ่านความคิดสร้างสรรค์ที่สะท้อนออกมาภายใต้กรอบที่ล้อมอยู่ สำหรับนาฬิการุ่นเคป คอด นี้ มีลักษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยมจัตุรัสซ้อนในกรอบสี่เหลี่ยมผืนผ้า เป็นการออกแบบที่กล้าหาญของอองรี ดอริญี เมื่อปี 1991 ลายเส้นกราฟิกที่คมชัด มีลูกเล่น ไม่ซ้ำใคร ผลงานชิ้นเอกอันมีสไตล์เรือนนี้ได้โลดแล่นไปกับคลื่นเวลาอย่างลื่นไหล สื่อถึงความเป็นชิ้นงานที่คงอยู่เหนือกาลเวลา ในปี 1998 ได้มีการออกแบบคอลเลกชั่นใหม่เป็นสายพันแบบสองรอบ และประสบความสำเร็จอย่างรวดเร็ว จนในปี 2016 เรือนเวลาเคป คอด ได้ผ่านการปรับโฉมสู่หน้าปัดที่ทำด้วยหิน เคลือบเงา พร้อมสายหนังสีสันสดใสแบบใหม่ และในปีต่อมา แอร์เมสได้ออกรุ่นตัวเรือนชุบกรรมวิธี DLC ในโทนสีดำเนื้อแมตต์ สไตล์การออกแบบที่ประสบความสำเร็จเหล่านี้หล่อหลอมขึ้นจากความเป็นอิสระและห้วงจินตนาการ สำหรับปีนี้ เรือนเวลาเคป คอด ได้ถอดรหัสแห่งสุนทรียศาสตร์โดยนำความเชื่อมโยงของสายสร้อยข้อมือรุ่นแองเคอร์เชนมาตีความใหม่ ลวดลายบนหน้าปัดตัดกับสีพื้นหลังสีดำหรือสีขาวเคลือบเงา เรียงร้อยกลมกลืนไปกับนิลสีดำและหินอเวนเจอรีน หรือจะเป็นเพชรเม็ดงามและมุกสีขาวบริสุทธิ์ ลายเส้นอักขระผสานความทันสมัยของโลโก้ที่อยู่เยื้องกัน เสริมความโดดเด่นด้วยเข็มนาฬิกาที่เพรียวบางและขอบตัวเรือนสี่เหลี่ยมผืนผ้าประดับเพชร มาพร้อมสายตัวเรือนทำด้วยหนังจระเข้แบบพันรอบเดียวและแบบพันสองรอบเสริมให้เครื่องบอกเวลาอันงามสง่าในสไตล์ลำลองเรือนนี้รับกับข้อมือสุภาพสตรีได้อย่างลงตัว

แอร์เมส: ศิลปะแห่งการตัดต่อผืนหนัง

แอร์เมส: ศิลปะแห่งการตัดต่อผืนหนัง

อาร์โซ กาวาลส์ และ สลิม แอร์เมส เลซ์ แซบรส์ เดอ ตองซานี ลวดลายสัตว์ต่างๆ ที่แอร์เมสโปรดปรานถูกถ่ายทอดออกมาในสไตล์ของงานศิลป์สีสันสดใสด้วยเทคนิคการตัดต่อผืนหนัง รูปทรงของม้าและลายทางของม้าลายก่อเกิดขึ้นจากแพทเทิร์นการตัดต่อและค่อยๆ จัดวางลงบนหน้าปัดของเครื่องบอกเวลารุ่น อาร์โซ และสลิม แอร์เมส องค์ประกอบอันประณีตของชิ้นงานที่ทำด้วยหนังลูกวัวขนาดเล็กสะท้อนความเป็นชิ้นงานขนาดจิ๋วโดยแท้ภายใต้กรอบจำกัดของพื้นที่เล็กๆ นี้ สีแดง สีน้ำเงินมอลต้า หรือสีกราไฟต์ของแอร์เมส ล้วนเป็นเอกลักษณ์แห่งเฉดสีที่แต่งแต้มลงบนเรือนเวลา ผสานงานหัตถกรรมเครื่องหนังและทักษะการทำนาฬิกาเข้าไว้ด้วยกัน เรือนเวลาทั้งสองรุ่นทำด้วยทองขาวที่น้อยครั้งจะเลือกนำมาใช้ ผลิตในจำนวนจำกัด บนหน้าปัดที่สอดแทรกความสมบูรณ์แบบในทุกรายละเอียด ช่างเครื่องหนังของแอร์เมสจะประกอบชิ้นงานหลากเฉดสีเข้าด้วยกันเป็นลวดลายของม้าหรือม้าลาย การสร้างสรรค์เหล่านี้ที่ถูกย่อขนาดมาไว้ในตัวเรือนทรงกลมขับเน้นสีสันอันโดดเด่นของชิ้นหนังที่คัดสรรมาอย่างดี ผ่านการตัดแต่งและติดลงไปโดยอาศัยทักษะความเชี่ยวชาญในการทำอานม้า รวมถึงงานเครื่องหนัง เทคนิคการตัดต่อลายโดยใช้ผืนหนังต้องอาศัยกลวิธีอันละเอียดอ่อนเช่นเดียวกับงานประกอบกลไกนาฬิกา เริ่มจากนำผืนหนังลูกวัวที่มีลายเกรนชัดเจนสวยงามมาตัดเป็นชิ้นเล็กๆ ให้มีความหนา 0.5 มม. ก่อนนำแผ่นหนังแต่ละชิ้นที่ตัดออกเป็นลวดลายต่างๆ อย่างแม่นยำทั้งขนาดและรูปร่างมาเรียงร้อยเข้าด้วยกัน โดยช่างฝีมือจะเลือกสรรชิ้นหนังทีละชิ้นแล้วติดลงบนหน้าปัดเพื่อสร้างเป็นลวดลาย เรือนเวลาอาร์โซและสลิม แอร์เมส จึงเป็นผลงานที่ถ่ายทอดศิลปะการทำเครื่องหนังขนาดจิ๋วได้อย่างแท้จริง อาร์โซ กาวาลส์ “สีแดงแอร์เมส” และ “สีน้ำเงินคราม” สองสีอันเป็นเอกลักษณ์ของแอร์เมสถูกนำมาตีความให้ต่างกันออกไปอย่างมีชั้นเชิงผ่านผืนหนัง เสริมด้วยสีแดงคาปูซีนหรือสีแดงอาเกต หลังจากช่างฝีมือได้เฝ้าเพียรประกอบชิ้นงานอย่างยาวนาน 6 ชั่วโมง ผืนหนังสีสันต่างๆ ก็กลายเป็นงานแพทช์เวิร์คชิ้นหนึ่งที่ดูคล้ายกลีบดอกป๊อปปี้อันบอบบาง และอีกชิ้นงานที่สื่อถึงการพรางตัวอย่างมีสไตล์ หากสังเกตดูใกล้ๆ […]

เรือนเวลาแอร์เมสรุ่น ARCEAU Robe du Soir (อาร์โซ โรบ ดู ซัวร์)

เรือนเวลาแอร์เมสรุ่น ARCEAU Robe du Soir (อาร์โซ โรบ ดู ซัวร์)

โมเสค ศิลปะแขนงหนึ่งที่คุ้นหูกันดี เป็นการหลอมรวมมิติของศิลป์และแสงเข้าไว้ด้วยกัน จากการนำวัสดุขนาดจิ๋วหลากสีมาเรียงต่อกันจนเกิดเป็นลวดลายศิลปะ  บนหน้าปัดเรือนเวลารุ่นอาร์โซ ขนาดกว้าง 41 ม.ม. แอร์เมสได้นำผืนหนังมาตัดเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสขนาดจิ๋วจำนวน 2,200 ชิ้น แล้วเรียงร้อยเข้าด้วยกันจนเกิดเป็นลวดลายรูปม้า อันได้รับแรงบันดาลใจจากผ้าพันคอผืนงามลาย “Robe du Soir”  ผลงานการออกแบบของฟลอเรนซ์ แมนลิคในปี 2018  องค์ประกอบสีสันสะดุดตาบนพื้นหลังสีน้ำเงินอิเล็กทริก เสริมด้วยสายสีเข้ากัน ดูโดดเด่นขึ้นเมื่อขับเน้นด้วยตัวเรือนสีทองโรสโกลด์ พร้อมหูตัวเรือนแบบอสมมาตรและเข็มนาฬิกาทรงใบไม้เรียว ผลงานการสร้างสรรค์ประดิษฐกรรมแห่งเวลานี้หล่อหลอมขึ้นจากภูมิปัญญาการทำอานม้าและเครื่องหนังของแอร์เมสที่สืบทอดกันมา สู่เรือนเวลารุ่นผลิตจำนวนจำกัดเพียง 12 เรือน พร้อมตัวเลขกำกับประจำเรือน เคล็ดลับแห่งการรังสรรค์ทุกขั้นตอนนั้นถูกเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดีในสมุดบันทึก ซุกซ่อนความลับแห่งงานศิลป์ของช่างฝีมือแอร์เมส (ฟลอเรนซ์ แมนลิค) ผู้รังสรรค์และพัฒนาเทคนิคสุดพิเศษนี้เอาไว้นั่นเอง ตลอดระยะเวลาหนึ่งปีครึ่งของการค้นคว้าและวิจัย ซึ่งมีเพียงฝีมือของเธอเท่านั้นที่สามารถเนรมิตชิ้นงานชั้นครูนี้ได้ สัปดาห์แล้วสัปดาห์เล่า ที่เธอได้เพียรพยายามสร้างสรรค์ชิ้นงานศิลปะขนาดจิ๋ว ด้วยแผ่นหนังสี่เหลี่ยมจัตุรัสหลากสีสัน โดยเริ่มจากการตัดแผ่นหนังลูกวัวลายเกรนที่เลือกสรรมาอย่างดีออกเป็นชิ้นเล็กๆ ไม่ต่ำกว่า 3,500 ชิ้น  จากนั้นจึงนำชิ้นส่วนหนังเล็กๆ ทั้ง 2,200 ชิ้นมาประกอบเป็นลวดลายม้าที่ดัดแปลงจากลายบนผืนผ้าพันคอ “Robe du Soir” ของแอร์เมส มาปะติดปะต่อลงในช่องว่างที่มีขนาดเล็กยิ่งกว่าบนพื้นหน้าปัด ทักษะความชำนาญที่ผสานลงตัวกับงานช่างอานม้า เรือนเวลาอาร์โซทองโรสด์โกลด์โฉมใหม่นี้ตอกย้ำสไตล์การใช้สีที่เปี่ยมด้วยชีวิตชีวา ลวดลายของม้าที่ถ่ายทอดออกมาในเฉดสีสดใสตัดกับพื้นหลังสีน้ำเงินอิเล็กทริกอย่างสวยงาม เพิ่มความโดดเด่นด้วยสายหนังลูกวัวสวิฟต์ในโทนสีเดียวกัน […]

ผจญภัยไปกับห้วงเวลาของแอร์เมสในรูปแบบดิจิทัล กับแคมเปญ Experience Hermes Time

ผจญภัยไปกับห้วงเวลาของแอร์เมสในรูปแบบดิจิทัล กับแคมเปญ Experience Hermes Time

แอเมส รังสรรค์ชิ้นงานมากมาย เน้นประโยชน์การใช้งาน พร้อมคุณสมบัติด้านฟังก์ชั่นต่าง ๆ ก่อกำเนิดขึ้นจากทักษะความเชี่ยวชาญอันหาตัวจับยาก ผลงานของแอร์เมสให้ความพึงพอใจเหนือความคาดหมาย เป็นชิ้นงานที่จะเปลี่ยนทุกวันให้มีชีวิตชีวาและทุกจังหวะให้เป็นช่วงเวลาสุดพิเศษ สำหรับแอร์เมสแล้ว เวลาก็เป็นอีกหนึ่งผลงาน ความกดดันโดยธรรมชาติของมันได้ผ่านการตีความสู่ลักษณะเฉพาะตัว นอกเหนือจากการบอกเวลา จัดลำดับและค้นหาวิธีที่จะควบคุมมันแล้ว แอร์เมสยังกล้าที่จะมองหาเวลาแบบใหม่ ๆ ที่ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นความรู้สึก กล้าที่จะหยุดเว้นจังหวะ และเปิดพื้นที่สำหรับความเป็นธรรมชาติและการผ่อนคลาย มาปลดปล่อยตัวคุณไปกับห้วงเวลาของแอร์เมสในคลิกเดียว สู่โตเกียว ฮ่องกง ลอนดอน ลอสแอนเจลิส โฮโนลูลู และลิสบอน ทุกช่วงจังหวะคุณจะได้ค้นพบประสบการณ์ที่แตกต่างกันไปตามสถานที่และช่วงเวลานั้นๆ ของวัน ลองปล่อยใจให้ล่องลอยไปตามเวลาดูสิ! การผจญภัยในรูปแบบดิจิทัลครั้งนี้เป็นการรังสรรค์ร่วมกันระหว่างแอร์เมสและเหล่าศิลปินผู้แสวงหาความท้าทาย เริ่มต้นกันที่โตเกียว ทาโอะ ทาจิมะ (Tao Tajima) ผู้กำกับและผู้อำนวยการสร้างภาพยนตร์ ได้หยิบเอาภาพทิวทัศน์ในชีวิตประจำวันมาผสมผสานเข้ากับเอฟเฟกต์แสง ต่อด้วยฮ่องกงกับผลงานของศิลปินด้านวิชั่นนารีวิดีโอ ฟีบี เจ็ง (Phoebe Cheng) ผู้ถ่ายทอดเรื่องราวที่ได้แรงบันดาลใจมาจากเมืองที่เปี่ยมด้วยชีวิตชีวา ตามด้วยลอนดอนกับนักออกแบบฉากและผู้อำนวยการฝ่ายศิลป์ ราเชล โทมัส (Rachel Thomas) ซึ่งครั้งหนึ่งได้ฝากฝีไม้ลายมือที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวด้วยการถ่ายทอดจินตนาการออกมาเป็นภาพและบรรยากาศต่างๆ ผสมผสานกันจนเป็นเรื่องราวที่น่าทึ่ง สำหรับลอสแอนเจลิส ผู้อำนวยการฝ่ายวิดีโอ อารี ฟารารูย์ (Ari Fararooy) […]

HERMES: JOYFUL COMPLICATIONS

HERMES: JOYFUL COMPLICATIONS

แอร์เมสรังสรรค์ชิ้นงานมากมาย ที่ให้ความพึงพอใจ เหนือความคาดหมาย เน้นประโยชน์ใช้สอย พร้อมคุณสมบัติด้านฟังก์ชั่นต่าง ๆ ที่ก่อกำเนิดขึ้นจากทักษะความเชี่ยวชาญอันหาตัวจับยาก เป็นชิ้นงานที่จะเปลี่ยนทุกวันให้มีชีวิตชีวา และทุกจังหวะให้เป็นช่วงเวลาสุดพิเศษ สำหรับแอร์เมสแล้ว เวลาก็เป็นอีกหนึ่งผลงาน ความกดดันโดยธรรมชาติของมันได้ผ่านการตีความสู่ลักษณะเฉพาะตัว นอกเหนือจาการบอกเวลา จัดลำดับและค้นหาวิธีที่จะควบคุมมันแล้ว แอร์เมสยังกล้าที่จะมองหาเวลาแบบใหม่ ๆ ที่ออกแบบมาเพื่อกระตุ้นความรู้สึกกล้าที่จะหยุดเว้นจังหวะ และเปิดพื้นที่สำหรับความเป็นธรรมชาติและการผ่อนคลาย แอร์เมสเนรมิตเวลาให้เป็นดั่งมิตรคู่กาย จนกลายเป็นความสัมพันธ์ดั่งเพื่อนคู่ใจ พัฒนาสู่กลไกซับซ้อนแห่งเรือนเวลาของแอร์เมสที่จะหยุดรั้งเวลาไว้ชั่วคราวและความซับซ้อนนี้เองที่ร่ายมนต์เป็นภาพฉายชัดสู่สายตา ลบเลือนกรอบเกณฑ์ดั้งเดิมที่ยึดถือกันมา และให้กลไกซับซ้อนถ่ายทอดห้วงอารมณ์อันน่าพึงใจ การรังสรรค์ห้วงเวลาที่ผสานความละเมียดละไมไว้เช่นนี้นับเป็นความเชี่ยวชาญแห่งศาสตร์การทำเรือนเวลาของแอร์เมส ที่มุ่งมั่นสร้างสรรค์กลไกซับซ้อนโดยมีเรือนเวลาอาร์โซ เลอ ตองป์ ซุสปองดู เป็นพยานแห่งความทุ่มเท ให้ผู้สวมใส่หยุดรั้งเวลาได้ทุกเมื่อที่ใจต้องการและเพลิดเพลินไปกับมันได้อย่างเต็มที่ เรือนเวลาเดรสซาจ เลอ มาสเก้ สามารถเผยและซ่อนเข็มชั่วโมง เพื่อขับเน้นห้วงเวลาที่น่าอภิรมย์ และเรือนเวลาสลิม แอร์เมส เลอร์ แองปาซิอองต์ที่ชวนให้เราลุ้นรอจดจ่ออยู่กับห้วงเวลาที่ขยับใกล้เข้ามา โดยเรือนเวลารุ่นพิเศษเลอ แองปาซิอองต์ การันตีด้วยรางวัลจากเวที Grand Prix de l’Horlogerie de Genève (GPHG) ได้นำไปจัดที่งานประมูลเพื่อการกุศล Only Watch ซึ่งจัดโดย Monaco Association […]

เรือนเวลาแอร์เมสรุ่นอาร์โซ กาวาลส์ (Arceau Cavales)

เรือนเวลาแอร์เมสรุ่นอาร์โซ กาวาลส์ (Arceau Cavales)

เรือนเวลาอาร์โซเผยอัตลักษณ์แห่งความงามผ่านการปรับโฉมเรือนเวลาแบบเดิม ให้โลดแล่นมีชีวิตชีวา ทว่าคงไว้ซึ่งสไตล์เฉพาะตัว นี่คือผลงานที่อองรี ดอริญี รังสรรค์ขึ้นในปี 1978 ผสมผสานลูกเล่นเพื่อสร้างความต่างให้นาฬิกาคลาสสิคด้วยหูสายแบบอสมมาตร ทุกองค์ประกอบของนาฬิกาเรือนนี้ผ่านการพิเคราะห์อย่างมีชั้นเชิง เผยให้เห็นความงามสง่าที่ไม่ยอมจำนนอยู่ใต้กรอบเกณฑ์อันเคร่งครัดใดๆ การนำเสนอความต่างระหว่างแบบแผนที่เข้มงวดและความกล้าที่จะสร้างสรรค์ หล่อหลอมกันเป็นจิตวิญญาณอิสระ พร้อมเปิดรับจินตนาการของประดิษฐกรรมแห่งเวลารุ่นอาร์โซ หน้าปัดมีให้เลือกสองขนาด คือ ขนาด 36 มม. และ 28 มม. ขอบตัวเรือนด้านในประดับอัญมณีสุกสกาวรังสรรค์ด้วยเทคนิคไม่เหมือนใคร เจิดจรัสด้วยเพชรจำนวน 70 หรือ 60 เม็ดที่ประดับลงบนหน้าปัดเปลือกหอยมุกที่ใช้เทคนิคตัดต่อลาย (Marquetry) อวดโฉมลวดลายของ “ม้า” อันเป็นจุดเด่นของแอร์เมส นอกจากนี้ ยังมีเรือนเวลาใหม่ ขนาด 28 มม. ประดับเพชร 56 เม็ดบนขอบตัวเรือนด้านนอก พื้นหน้าปัดสีดำเข้มที่ทำขึ้นด้วยเทคนิคชองเปลอเว่และเคลือบเงาทับ เจิดจรัสเฉกเช่นเดียวกับลุ่มลึก เรือนเวลาอาร์โซ กาวาลส์ (Arceau Cavales) ถ่ายทอดความเชี่ยวชาญอันเป็นเลิศของช่างทำนาฬิกาแอร์เมส พร้อมเล่าขานมุมมองแห่งเวลาอันเป็นเอกลักษณ์ของแอร์เมส

เรือนเวลา Slim d’Hermes GMT

เรือนเวลา Slim d’Hermes GMT

ประดิษฐกรรมแห่งเวลา แอร์เมส GMT โดดเด่นด้วยฟังก์ชั่นบอกโซนเวลา ออกเดินทางจากปารีสสู่นิวยอร์ก และจากบัวโนสไอเรสสู่มุมไบ ตัวเรือนแพลเลเดียมงามสง่าเพรียวบาง ส่งให้เรือนเวลาแอร์เมส GMT คอลเลกชั่นใหม่เจิดจรัสข้ามขอบฟ้า เสริมด้วยเสน่ห์ลึกลับชวนค้นหาของหน้าปัดหินชนวนสีเทาประดับเลขบอกเวลาที่โปร่งบาง แง้มหน้าผ่านกระจกสีอมเทา ขับเคลื่อนด้วยกลไก H1950 รุ่นบางพิเศษจากแอร์เมส เพิ่มความโดดเด่นเฉพาะตัวด้วยโมดูล GMT บอกโซนเวลา เช่นเดียวกับคุณสมบัติด้านความบางพิเศษ และแม้จะหลงทางไปบ้าง ก็จงปล่อยใจแล้วดื่มด่ำไปกับห้วงเวลา ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ไหนหรือเมื่อใดก็ตาม ลองมาตามคำเชิญเพื่อออกสำรวจไปกับเรือนเวลาของแอร์เมส ผลิตจำนวนจำกัดเพียง 90 เรือน สลิม เดอ แอร์เมส ผสานคุณสมบัติสำคัญไว้ด้วยกัน ทั้งความเรียบง่ายภายใต้กรอบเกณฑ์อันเคร่งครัดและสมดุลย์แห่งสุนทรียศาสตร์ เอกลักษณ์เฉพาะตัวที่โดดเด่นสำหรับคอลเลกชั่นนี้ได้รับการหล่อหลอมขึ้นในปี 2015 ด้วยสไตล์ที่ทั้งคลาสสิคและทันสมัยไปพร้อมๆ กัน ผ่านการรังสรรค์อย่างพิถีพิถันในทุกรายละเอียด ความโค้งที่ลาดลงเล็กน้อยของตัวเรือนกลาง วงรอบที่โค้งอย่างพอเหมาะพอดี และเลขอักขระที่คงความเป็นต้นแบบ ล้วนเป็นฝีมือของฟิลิปป์ อะเปอลัวก์ (Philippe Apeloig) ตัวเรือนทำจากแพลเลเดียม โลหะหายากและมีน้ำหนักเบาในกลุ่มเดียวกับแพลตินัม แอร์เมสรุ่น GMT เป็นดั่งเพื่อนคู่ใจสำหรับนักเดินทางรอบโลก ตัวเรือนที่บางพิเศษเพียง 9.48 มิลลิเมตรเผยภาพเบื้องล่างที่งามพิสุทธิ์ภายใต้มนต์ขลังของกระจกคริสตัลสีอมเทาที่ห่อหุ้มมันเอาไว้ หน้าปัดสีเทาหินชนวนที่กว้างและลายเส้นเพรียวบางของเลขอักขระงามจับตา คั่นด้วยช่องว่างระหว่างกัน ผ่านกรรมวิธีขัดแต่งที่แยบยลเพื่อเพิ่มมิติให้คมชัดยิ่งขึ้น Chapter […]