ทิศทางการวิจัยชาติพันธุ์วรรณาในหัวข้อ “เปลือยสาวเว็บแคม ชาติพันธุ์วรรณนา สาวแคมฟร็อกไทย” โดย อ.ดร.อรวรรณ ศิริสวัสดิ์ อภิชยกุล

ในวันที่ 14 กันยายน 2562 มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ร่วมกับมหาวิทยาลัยสุโขทัยธรรมาธิราช ได้จัดงานประชุมกลุ่มการสื่อสารกับกลุ่มคนและชุมชนศึกษา ครั้งที่ 3 ณ ห้องประชุมอาคาร 24 มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มนักวิจัยจากหลากหลายแห่งมาร่วมนำเสนอและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับงานวิจัยในมิติต่าง ๆ เพื่อพัฒนาชุมชนและสังคมในรูปแบบกิจกรรมเชิงวิชาการ
อ.ดร.อรวรรณ ได้กล่าวไว้ว่า จุดเริ่มต้นจากความสนใจเรื่องปรากฏการณ์สาวเว็บแคม เป็นเรื่องที่ยังไม่มีการศึกษา มีเพียงการทำสารดี หรือการตีแผ่เรื่องของสาวเว็บแคม ซึ่งเนื้อหาเป็นไปในแง่ลบ ทำให้คนในสังคมตัดสินการกระทำดังกล่าวว่าเป็นเรื่องที่ไม่เหมาะสมและผิดศีลธรรม จึงเกิดคำถามการวิจัยว่า เมื่อสังคมมองว่าการเป็นสาวเว็บแคมเป็นเป็นสิ่งที่ไม่ดีแล้ว แต่เพราะเหตุใดกลุ่มสาวเว็บแคมที่กล้าถอดเสื้อผ้าโชว์จึงยังกล้าทำ จึงตั้งประเด็นในการศึกษาเพื่อทราบแรงจูงใจและปัจจัยที่มีอิทธิพลในการก่อร่างสร้างอัตลักษณ์การเป็นสาวเว็บแคม โดยผลการวิจัยพบว่า (1) ปัจจัยเชิงโครงสร้างทั้งในส่วนที่อยู่ในโลกออฟไลน์และโลกออนไลน์รวมถึงการมีอำนาจในตนของกลุ่มสาวเว็บแคมมีปฏิสังสรรค์ต่อกันแล้วก่อให้เกิดอัตลักษณ์สาวเว็บแคมขึ้นมา และ (2) สาวเว็บแคมเป็นนักแปรเปลี่ยนเชิงกลยุทธ์ (strategic capital converter) พวกเธอได้ใช้ร่างกายเป็นทุนในการแปรเปลี่ยนเป็นทุนอื่นๆ อีก 5 ประการด้วยกัน ได้แก่ เงินตรา อิสรภาพ ชื่อเสียง ความสนุก และมิตรภาพ ทั้งนี้หลังจากการนำเสนองานวิจัยมีคำแนะนำจากผู้ทรงคุณวุฒิและข้อซักถามต่างๆ ที่น่าสนใจในงานวิจัยชิ้นนี้ ดังนี้
โดย ร.ศ.ด.ร. ไพโรจน์ วิไลนุช ผู้ทรงคุณวุฒิจากมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ได้ให้ข้อเสนอแนะว่า งานวิจัยชิ้นนี้เป็นเรื่องหลังสมัยใหม่ วิธีวิทยา Ethnography และแนวคิดของปิแอร์ บูร์ดิเยอ (Pierre Bourdieu) ที่ใช้ ถือว่าเป็นข้อดีของงานวิจัยนี้
อีกทั้ง รศ.ดร.กาญจนา แก้วเทพ ผู้ทรงคุณวุฒิคนสำคัญภายในงานนี้ ก็ได้เสริมในประเด็นดังกล่าวว่า วิธีวิทยา Ethnography ควรศึกษาเพิ่มเติมในเรื่อง Natural Setting ที่ผู้วิจัยจะต้องลงไปสัมภาษณ์ด้วยตนเองซึ่งจะทำให้ผู้วิจัยได้ความเข้าใจต่อกลุ่มสาวแคมฟร็อกมากขึ้น ดังนั้น Ethnography Study ต้องมีหัวใจสำคัญคือ ในฐานะที่เราถือเป็น Outsider ที่พยายามมองเข้าไป วิธีการคือ การเข้าไปอยู่ข้างหลัง เพื่อเข้าใจกลุ่มตัวอย่าง และห้ามเป็นผู้ที่เราศึกษาเสียเองไม่เช่นนั้นจะมองไม่เห็นอะไรเลยในการศึกษา ซึ่งจะนำไปสู่การใช้วิธีวิทยา Ethnography ที่ประสบความสำเร็จ
อย่างไรก็ดี หลักของวิธีวิทยา Ethnography ในงานวิจัยคืองานวิจัยเลือกนักวิจัย เพราะฉะนั้นควรที่จะศึกษาไปสักระยะก่อนว่าอย่างเราทำได้ไหม ถ้าทำไม่ได้ก็คือทำไม่ได้ ในการที่จะนำข้อมูลมาใช้ในงานวิจัยเป็นลักษณะของการเข้ากันได้จึงทำให้ผู้เข้าร่วมวิจัยให้ข้อมูลอย่างเต็มที่ พร้อมทั้งยังได้รับคำแนะนำจาก ผศ.ดร.อุณาโลม จันทร์รุ่งมณีกุล ได้ให้ทัศนะในงานวิจัยว่างานวิจัยชิ้นนี้มีการอธิบายความสัมพันธ์ระหว่างโลกออฟไลน์และโลกออนไลน์ มีความโดดเด่นในเรื่องของ Convert Capital ในโลกออนไลน์
สุดท้าย อ.ดร.อรวรรณ ได้ฝากข้อคิดจากเรื่องสาวแคมฟร็อก เมื่อสังคมทุกวันนี้ความคิดของแต่ละคนก็ใหญ่ไม่แพ้กันไว้ว่า
การเคารพในการตัดสินใจของแต่ละคน หากว่ามีคนเห็นต่างจากเรา เราต้องเคารพ สิ่งนี้เป็นพื้นฐานของวิธิคิดฐานประชาธิปไตย ฉะนั้นถ้าเราเปิดใจยอมรับ ถึงแม้เขาจะไม่มีบรรทัดฐานทางสังคมเหมือนเรา หรืออยู่คนละวัยกัน ไม่ว่าอะไรก็แล้วแต่ที่มันเป็นความต่าง หากเราเคารพซึ่งกันและกัน เราจะไม่มองเขาไม่ดีแต่มันเป็นแค่ความต่าง คือต่างไม่ใช่ศัตรู ต่างก็คือคนที่เห็นไม่เหมือนด้วยกับเรา จะดีไม่ดีเราก็ต้องดู

เผยแพร่ข่าวโดย:

พีอาร์ บุฟเฟ่ต์ www.prbuffet.com ข่าวประชาสัมพันธ์ online







Leave a Reply

Your email address will not be published.

This site uses Akismet to reduce spam. Learn how your comment data is processed.