กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง

ก้าวสู่ปีที่ 17 กองทุนหมู่บ้าน “กองทุนแห่งชาติเพื่อประชาชน : สู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน”

ก้าวสู่ปีที่ 17 กองทุนหมู่บ้าน  “กองทุนแห่งชาติเพื่อประชาชน : สู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน”

กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง (กทบ.)ได้จัดตั้งขึ้นทั่วประเทศ เมื่อ 16 ปีที่แล้ว เพื่อเสริมสร้างกระบวนการพึ่งพาตนเองของประชาชนในหมู่บ้านและชุมชนเมืองในด้านการเรียนรู้ การสร้างและพัฒนาความคิดริเริ่มและการแก้ไขปัญหาทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมของประชาชนในหมู่บ้านและชุมชนเมืองเองโดยรัฐบาลจัดสรรโอนเงินให้กองทุนละ ๑ ล้านบาท พร้อมทั้งเสริมสร้างและพัฒนากองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองให้มีขีดความสามารถในการจัดระบบบริหารจัดการเงินกองทุนหมุนเวียนให้ประสบผลสำเร็จ ซึ่งปรากฏว่ากองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองส่วนใหญ่สามารถดำเนินการได้อย่างดีจนรัฐบาลให้โอกาสเพิ่มทุน และเพิ่มบทบาทให้ช่วยดำเนินการในเรื่องการพัฒนาหมู่บ้านและชุมชน มาโดยตลอด นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรีและประธานกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง เป็นประธานเปิดงาน“ครบรอบ 16 ปี และก้าวสู่ปีที่17 กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก” เปิดเผยว่า ได้กำหนดนโยบายกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติโดยให้กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองได้มีโอกาสร่วมแก้ไขปัญหาความยากจน และการลดความเหลื่อมล้ำ โดยสนับสนุนให้กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองได้เป็นแหล่งเงินทุนหมุนเวียน เพื่อการลงทุนในการสร้างอาชีพ สร้างงาน และรายได้ของประชาชนในหมู่บ้าน และชุมชน ช่วยส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดการออมของประชาชนเพื่อความมั่นคงในรากฐานของชีวิตและครัวเรือน จัดระบบสวัสดิภาพ สวัสดิการของหมู่บ้านและชุมชนเมือง เพื่อเป็นภูมิคุ้มกันทางสังคม โดยประชาชน เพื่อประชาชน ตลอดจนเสริมสร้างสวัสดิการที่จะกลับคืนสู่สมาชิก หมู่บ้าน และชุมชน จากการดำเนินงานมา 16 ปี ของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ก่อให้เกิดสิ่งดีๆขึ้นมากมายที่เป็นรูปธรรม อาทิ ร้านค้าประชารัฐจำนวนกว่า 19,306 แห่ง ตลาดประชารัฐ 1,359 แห่ง ผลิตภัณฑ์จากกองทุนหมู่บ้าน กว่า 10,000 รายการ […]

ครบรอบ 16 ปี กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง “กองทุนแห่งชาติเพื่อประชาชน : สู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน”

ครบรอบ 16 ปี กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง “กองทุนแห่งชาติเพื่อประชาชน : สู่ความมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืน”

กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ได้จัดตั้งขึ้นทั่วประเทศ เมื่อ 16 ปีที่แล้ว เพื่อเสริมสร้างกระบวนการพึ่งพาตนเองของประชาชนในหมู่บ้านและชุมชนเมืองในด้านการเรียนรู้ การสร้างและพัฒนาความคิดริเริ่ม และการแก้ไขปัญหา ทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคมของประชาชนในหมู่บ้านและชุมชนเมืองเอง โดยรัฐบาลจัดสรรโอนเงินให้กองทุนละ ๑ ล้านบาท พร้อมทั้งเสริมสร้างและพัฒนากองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองให้มีขีดความสามารถในการจัดระบบบริหารจัดการเงินกองทุนหมุนเวียนให้ประสบผลสำเร็จ ซึ่งปรากฏว่ากองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองส่วนใหญ่สามารถดำเนินการได้อย่างดีจนรัฐบาลให้โอกาสเพิ่มทุน และเพิ่มบทบาทให้ช่วยดำเนินการในเรื่องการพัฒนาหมู่บ้านและชุมชน มาโดยตลอด นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ได้กำหนดนโยบายกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองแห่งชาติให้กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองได้มีโอกาสในการแก้ไขปัญหาความยากจน และการลดความเหลื่อมล้ำ โดยสนับสนุนให้กองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองได้เป็นแหล่งเงินทุนหมุนเวียน เพื่อการลงทุนในการสร้างอาชีพ สร้างงาน และรายได้ของประชาชนในหมู่บ้าน และชุมชน ช่วยส่งเสริม และสนับสนุนให้เกิดการออมของประชาชนเพื่อความมั่นคงในรากฐานของชีวิตและครัวเรือน จัดระบบสวัสดิภาพ สวัสดิการของหมู่บ้านและชุมชนเมือง เพื่อเป็นภูมิคุ้มกันทางสังคม โดยประชาชน เพื่อประชาชน ตลอดจนสร้างสวัสดิการที่จะกลับคืนสู่สมาชิก หมู่บ้าน และชุมชน จากการดำเนินงานมา 16 ปี ของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมือง ก่อให้เกิดสิ่งดีๆขึ้นมากมาย ที่เป็นรูปธรรม อาทิ ร้านค้าประชารัฐ 19,306 แห่ง ตลาดประชารัฐ 1,359 แห่ง สินค้าจากกองทุนหมู่บ้าน กว่า 10,000 รายการ โรงน้ำดื่มชุมชนกว่า […]

สุวิทย์ เมษินทรีย์ ตรวจเยี่ยม 4 จังหวัดอีสานตอนล่าง เร่งปฏิรูปพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากสู่ไทยแลนด์ 4.0

สุวิทย์ เมษินทรีย์ ตรวจเยี่ยม 4 จังหวัดอีสานตอนล่าง เร่งปฏิรูปพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากสู่ไทยแลนด์ 4.0

นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ลงพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างเมื่อวันที่ 28-29 มิย.2560 ติดตามการปฏิรูปพัฒนาเศรษฐกิจ 4 จังหวัดในภูมิภาคเขตตรวจราชการที่ 13 ได้แก่ จังหวัดอุบลราชธานี ยโสธร ศรีสะเกษ อำนาจเจริญ โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัด ภาคเอกชนและภาคการศึกษาร่วมประชุมและหารือร่วมกัน เผยความก้าวหน้าของกองทุนหมู่บ้านและชุมชนเมืองในการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก (Local Economy) และเผยผลสำเร็จการปลูกข้าวนาแปลงใหญ่ลดต้นทุนการผลิตจากเดิมไร่ละ 3,980 บาท เหลือ 2,720 บาทต่อไร่ หนุนใช้เทคโนโลยีพัฒนา Smart Farm มุ่งทำเกษตรยุคไทยแลนด์ 4.0 กลุ่มจังหวัดอีสานตอนล่าง ได้ดำเนินงานพัฒนาศักยภาพทางเศรษฐกิจในแต่ละพื้นที่ โดยจังหวัดอุบลราชธานีมุ่งพัฒนาระบบโลจิสติกส์ให้เชื่อมโยงกลุ่มประเทศ CLMV ด้านจังหวัดศรีสะเกษมุ่งพัฒนาด้านปศุสัตว์ ส่งเสริมการเลี้ยงโคเนื้อ การเลี้ยงแพะและสวนผลไม้ ทุเรียนภูเขาไฟ ส่วนจังหวัดยโสธรมุ่งพัฒนาเกษตรอินทรีย์วิถียโสธร สามารถปลูกข้าวหอมมะลิได้มากที่สุดในประเทศไทย และจังหวัดอำนาจเจริญมุ่งพัฒนาข้าวหอมมะลิ ทำเกษตรอินทรีย์แปลงใหญ่ ส่งเสริมการลงทุนตามชายแดน ซึ่งมีผู้แทนสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมฯ กลุ่ม Biz Club ประกอบด้วย จังหวัดอุบลราชธานี ศรีสะเกษ ยโสธร และอำนาจเจริญ […]