วัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก

โครงการคุณภาพ วัคซีนป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูก สร้างภูมิคุ้มกันให้เด็กไทย

โครงการคุณภาพ วัคซีนป้องกันโรคมะเร็งปากมดลูก สร้างภูมิคุ้มกันให้เด็กไทย

มะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับ 2 ในหญิงไทยที่รองจากมะเร็งเต้านม จากระบบเฝ้าระวังโรคมะเร็งของประเทศไทยพบว่า ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาประเทศไทยมีผู้ป่วยมะเร็งปากมดลูกรายใหม่ประมาณ 6,500 รายต่อปี และมีผู้ป่วยเสียชีวิตจากมะเร็งปากมดลูกประมาณ 2,000 รายต่อปี การฉีดวัคซีนเอชพีวีให้แก่เด็กหญิงไทยนับเป็นการป้องกันไม่ให้เด็กที่เติบโตขึ้นไปในวันหน้าจะต้องมีความเสี่ยงในโรคมะเร็งปากมดลูก ซึ่งจะมีผลกระทบทั้งต่อชีวิตและความเป็นอยู่ของผู้ป่วย รวมถึงเป็นภาระของครอบครัว ดังนั้นภาครัฐจึงมีนโยบายการสนับสนุนให้ประชาชนได้รับวัคซีนป้องกันโรค และนับเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยในการควบคุมโรคในประเทศไทย โรคมะเร็งปากมดลูกไม่ได้เกิดจากกรรมพันธุ์แต่เกิดจากการติดเชื้อไวรัส human papillomavirus หรือเชื้อ HPV ชนิดที่ก่อมะเร็งแบบฝังแน่นซึ่งปัจจุบันเราพบว่ามีอย่างน้อยถึง 15 สายพันธุ์ ทำให้เกิดความผิดปกติของเซลล์ปากมดลูก และกลายพันธุ์เปลี่ยนแปลงเป็นเซลล์มะเร็งในที่สุด ในประเทศไทยเราพบสายพันธุ์ที่มีความสัมพันธ์กับการเกิดมะเร็งปากมดลูกมากที่สุดเช่นเดียวกับในภาพรวมของโลกคือ สายพันธุ์ที่ 16 และ 18 ซึ่ง 2 สายพันธุ์นี้เกี่ยวเนื่องถึงประมาณร้อยละ 73.8 จากการศึกษาถึงประโยชน์และความคุ้มค่าของการใช้วัคซีน HPV ซึ่งมีหลายการศึกษาได้ยืนยันแล้วว่า การฉีดวัคซีน HPV ให้กับเด็กผู้หญิงในช่วงอายุ 10-12 ปี จะมีประสิทธิภาพในการป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้อย่างสูงสุด สำหรับภาครัฐบาลโดยหน่วยงานหลักอย่างกระทรวงสาธารณสุข ร่วมกับสำนักงานหลักประกันสุขภาพแห่งชาติได้ดำเนินโครงการขยายการให้บริการวัคซีนเอชพีวีในแผนงานสร้างเสริมภูมิคุ้มกันโรค พ.ศ. 2560 แก่นักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 ครอบคลุมทั่วประเทศ เป้าหมายเพื่อเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับผู้หญิงไทยและลดอัตราผู้ป่วยโรคมะเร็งปากมดลูกรายใหม่ในอนาคต ซึ่งกระทรวงสาธารณสุข ได้ฉีดให้กับนักเรียนหญิงชั้น […]