แรงงาน

กสร.สั่งติดตามสถานการณ์เลิกจ้าง MONO 29 ใกล้ชิด

กสร.สั่งติดตามสถานการณ์เลิกจ้าง MONO 29 ใกล้ชิด

กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน สั่งการติดตามสถานการณ์เลิกจ้างช่อง MONO 29 พร้อมดูแลให้ลูกจ้างได้รับเงินชดเชยตามกฎหมาย ประสานหน่วยในสังกัดกระทรวงแรงงานให้ความช่วยเหลือลูกจ้างเต็มที่ นายอภิญญา สุจริตตานันท์ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เปิดเผยถึงกรณีข่าว สถานีโทรทัศน์ MONO 29 ได้มีการเลิกจ้างลูกจ้างว่า กสร.ได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงทราบว่า บริษัท โมโน เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) และบริษัทในเครือโมโนฯ มีการเลิกจ้างลูกจ้างจริงตามที่ปรากฏในข่าวจริง ปัจจุบันมีการเลิกจ้างลูกจ้างไปแล้ว 86 คน ทั้งนี้ทางบริษัทฯ ได้มีการจ่ายเงินค่าบอกกล่าวล่วงหน้า ค่าชดเชยให้กับลูกจ้างตามกฎหมาย รวมทั้งสิทธิประโยชน์อื่นให้กับลูกจ้างดังกล่าวแล้ว รวมเป็นเงิน 15 ล้านบาท อธิบดีกสร. กล่าวเพิ่มเติม วันนี้ (20 ม.ค. 63) พนักงานตรวจแรงงาน สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดนนทบุรี ได้ลงพื้นที่เข้าไปชี้แจงสิทธิหน้าที่ตามกฎหมายให้แก่นายจ้างลูกจ้างได้ทราบเรียบร้อยแล้ว นอกจากนี้ กสร.ได้สั่งการให้ติดตามสถานการณ์ดังกล่าวอย่างใกล้ชิด รวมทั้งประสานกับหน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงานร่วมดูแลสิทธิและให้ความช่วยเหลืออย่างเต็มที่ เช่น ประโยชน์ทดแทนกรณีว่างงาน การประสานหาตำแหน่งงานรองรับ เป็นต้น

กสร.เสริมทักษะจนท.คลังทั่วประเทศ เน้น ถูกต้อง โปร่งใส ตรวจสอบได้

กสร.เสริมทักษะจนท.คลังทั่วประเทศ เน้น ถูกต้อง โปร่งใส ตรวจสอบได้

กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จัดอบรมเจ้าหน้าที่การเงิน การคลัง และพัสดุทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 15-17 มกราคม 2563 เน้นสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้อง ปฏิบัติงานได้จริง รวดเร็ว โปร่งใส คุ้มค่า เกิดประโยชน์สูงสุด และตรวจสอบได้ นายอภิญญา สุจริตตานันท์ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กล่าวในฐานะประธาน เปิดการอบรมหลักสูตร “การเพิ่มประสิทธิภาพการปฏิบัติงานด้านการเงินการคลัง และการพัสดุของกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ประจำปีงบประมาณ 2563” ณ โรงแรมไม้แก้วดำเนิน รีสอร์ท จังหวัดราชบุรี ว่า กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ได้เน้นย้ำมาโดยตลอดถึงการปฏิบัติงานด้านการเงิน การคลัง และพัสดุ จะต้องเป็นไปด้วยความถูกต้อง โปร่งใส มีประสิทธิภาพ รวดเร็วเท่าทันต่อสถานการณ์ คุ้มค่า เกิดประโยชน์สูงสุด ภายใต้หลักธรรมภิบาล และสามารถตรวจสอบได้ ประกอบกับปัจจุบันกระทรวงการคลัง ได้ปรับปรุงพัฒนางาน ด้านการเงินการคลังให้มีความสอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบการชำระเงิน แบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (Nation e-Payment Master Plan) นอกจากนี้พระราชบัญญัติวินัยการเงินการคลังของรัฐ พ.ศ. 2561 ได้มีบทบัญญัติเกี่ยวกับกรอบการดำเนินการทางการคลังและงบประมาณของรัฐการกำหนดวินัยทางการเงินการคลังด้านรายได้และรายจ่าย การบริหารทรัพย์สินของรัฐ […]

กสร. จัดเวทีระดมความคิดเห็นค้นหาปัจจัยความสำเร็จ มุ่งพัฒนาการบริหารกองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

กสร. จัดเวทีระดมความคิดเห็นค้นหาปัจจัยความสำเร็จ มุ่งพัฒนาการบริหารกองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงานให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) จัดเวทีระดมความคิดเห็นจากคณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงานทั้ง 5 คณะ ร่วมวิเคราะห์ค้นหาปัจจัยที่ส่งผลต่อความสำเร็จของกองทุนฯ พร้อมเสริมสร้างวิสัยทัศน์ และทักษะในการบริหาร เพื่อนำมาพัฒนาการบริหารงานกองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงานให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น นายอภิญญา สุจริตตานันท์ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เปิดเผยว่า กองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงาน เป็นทุนหมุนเวียนที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน และบริหารงานโดยคณะกรรมการบริหารกองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงาน ซึ่งได้แต่งตั้งคณะอนุกรรมการขึ้นอีกจำนวน 5 คณะ ประกอบด้วย 1. คณะอนุกรรมการพิจารณาเงินกู้กองทุนฯ 2. คณะอนุกรรมการบริหารและพัฒนากองทุนฯ 3. คณะอนุกรรมการพัฒนาและปรับปรุงกฎ ระเบียบ แนวปฏิบัติที่เกี่ยวข้องกับกองทุนฯ 4. คณะอนุกรรมการจัดทำตัวชี้วัดการประเมินผลการดำเนินงานกองทุนฯ และสุดท้าย คณะอนุกรรมการติดตามและประเมินผลเงินกู้กองทุนฯ โดยมีภารกิจในการให้บริการเงินกู้แก่ผู้ใช้แรงงานโดยผ่านสหกรณ์ออมทรัพย์ในสถานประกอบกิจการและรัฐวิสาหกิจ ซึ่งนับตั้งแต่เริ่มให้บริการเงินกู้ในปีงบประมาณ 2540 มาถึงปัจจุบันสามารถสร้างประโยชน์และบรรเทาความเดือดร้อนทางการเงินแก่ผู้ใช้แรงงานที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ในสถานประกอบกิจการและรัฐวิสาหกิจกว่า 250,000 คน หรืออาจกล่าวได้ว่า “กองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงาน” เป็นสวัสดิการภาครัฐรูปแบบหนึ่ง ที่มุ่งหวังจะช่วยให้ผู้ใช้แรงงานที่เป็นสมาชิกสหกรณ์ออมทรัพย์ในสถานประกอบกิจการสามารถปลดเปลื้องหนี้สินจากการกู้ยืมเงินนอกระบบที่มีอัตราดอกเบี้ยสูง ตลอดจนช่วยให้ผู้ใช้แรงงานและครอบครัวมีความมั่นคงทางเศรษฐกิจและมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น อธิบดี กสร. กล่าวเพิ่มเติมว่า กลไกที่ขับเคลื่อนให้กองทุนเพื่อผู้ใช้แรงงานสามารถบริหารงานได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลนั้น คณะกรรมการบริหารกองทุนฯ รวมถึงคณะอนุกรรมการทุกคณะถือเป็นส่วนสำคัญในการสร้างประโยชน์ให้แก่ผู้ใช้แรงงาน กรมจึงได้จัดเวทีเพื่อระดมความคิดเห็นจากคณะกรรมการฯ ดังกล่าว รวมถึงเจ้าหน้าที่ผู้เกี่ยวข้อง จำนวน […]

กสร. ติวเข้มผู้ทำหน้าที่ตรวจประเมินคะแนน สร้างความเชื่อมั่นในกระบวนการพิจารณา เพื่อมอบรางวัล สปก.ดีเด่นด้านแรงงานสัมพันธ์และสวัสดิการแรงงาน

กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เตรียมความพร้อมผู้ทำหน้าที่ประเมินสถานประกอบกิจการดีเด่นด้านแรงงานสัมพันธ์และสวัสดิการแรงงาน ให้มีมาตรฐานเดียวกันก่อนเข้าตรวจประเมินให้คะแนน สร้างความเชื่อมั่นในกระบวนการพิจารณา เพื่อให้ก้าวสู่การเป็นสถานประกอบกิจการดีเด่นฯ ประจำปี 2563 อย่างมั่นใจ นายอนันต์ บวรเนาวรักษ์ หัวหน้าผู้ตรวจราชการกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เปิดเผยหลังเป็นประธานเปิดการอบรมเตรียมความพร้อมผู้ทำหน้าที่ประเมินคะแนน สปก.ดีเด่นด้านแรงงานสัมพันธ์และสวัสดิการแรงงานว่า กิจกรรมการเชิญชวนสถานประกอบกิจการทั่วประเทศ สมัครเข้าร่วมพิจารณาเป็นสถานประกอบกิจการดีเด่นด้านแรงงานสัมพันธ์และสวัสดิการแรงงานประจำปี 2563 และมอบรางวัลประกาศเกียรติคุณให้กับสถานประกอบกิจการที่สามารถบริหารจัดการระบบแรงงานสัมพันธ์และสวัสดิการแรงงานที่ดี ถือเป็นการส่งเสริมระบบแรงงานสัมพันธ์ที่ดีในสถานประกอบกิจการด้วยระบบทวิภาคี และบริหารจัดการแรงงานสัมพันธ์แบบหุ้นส่วน (Partnership) ที่อาจป้องกันการเกิดปัญหาความขัดแย้งระหว่างนายจ้าง ลูกจ้าง ในสถานประกอบกิจการได้ อันจะนำไปสู่การพัฒนาคุณภาพชีวิตการทำงานที่ดีให้กับลูกจ้าง ซึ่งกรมได้จัดต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 18 แล้ว รางวัลดังกล่าวจะมีคุณค่าน่าเชื่อถือ และได้รับการยอมรับว่าเป็นเครื่องมือสร้างแรงจูงใจต่อนายจ้าง ลูกจ้างให้เห็นถึงความสำคัญของระบบแรงงานสัมพันธ์ที่ดี และการจัดสวัสดิการแรงงานที่ได้มาตรฐานนั้น ปัจจัยสำคัญประการหนึ่งมาจากการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ผู้ทำหน้าที่ประเมินคะแนนที่มีความรู้ ความสามารถ และมีประสบการณ์ด้านแรงงานสัมพันธ์และสวัสดิการแรงงาน ฉะนั้น ก่อนเข้าประเมินจะต้องเตรียมความพร้อมด้านต่าง ๆ เช่น ศึกษาหลักเกณฑ์ แนวทางการพิจารณาประเมินคะแนนให้เข้าใจอย่างชัดเจน ข้อมูลของสถานประกอบกิจการที่จะเข้าประเมินจากแบบเสนอชื่อ และข้อมูลอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง อีกทั้งบุคลิกภาพการแต่งกายที่เหมาะสม เพื่อให้สถานประกอบกิจการเกิดความเชื่อถือ และมั่นใจว่าผู้ประเมินเป็นผู้ที่มีความรู้ ความสามารถที่จะให้คำแนะนำที่ดี และมีประโยชน์ต่อสถานประกอบกิจการที่เข้าร่วมกิจกรรมที่กรมจัดขึ้น หัวหน้าผู้ตรวจฯ กสร. กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อให้กระบวนการพิจารณาประเมินการให้คะแนนเป็นมาตรฐานเดียวกัน […]

กสร. เชิญชวนเสนอชื่อ “สตรีทำงานดีเด่น 2563”

กสร. เชิญชวนเสนอชื่อ “สตรีทำงานดีเด่น 2563”

กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เชิญชวนเสนอชื่อสตรีทำงานดีเด่น ประจำปี 2563 เพื่อเชิดชูเกียรติและรับโล่รางวัลในงานวันสตรีสากล หมดเขต 29 ม.ค. 63 นายอภิญญา สุจริตตานันท์ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กล่าวว่า กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ได้จัดงานวันสตรีสากลขึ้นเป็นประจำทุกปีเพื่อกระตุ้นให้ทุกภาคส่วนได้ตระหนักถึงความสำคัญของแรงงานสตรีว่าเป็นกำลังสำคัญในการช่วยพัฒนาประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจและสังคม โดยมีกิจกรรมหลักคือ การคัดเลือกสตรีทำงานดีเด่น เพื่อเชิดชูเกียรติและยกย่องให้เป็นตัวอย่างที่ดีของสตรีทำงาน สำหรับในปี 2563 นี้ กำหนดจัดขึ้นในวันที่ 6 มีนาคม 2563 ณ โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น กรุงเทพฯ มีแนวคิดหลักในการจัดงานว่า “แรงงานสตรี ร่วมแรงร่วมใจ สร้างความเสมอภาคสู่สังคมไทย” และได้กำหนดประเภทสตรีทำงานดีเด่น จำนวน 8 ประเภท ได้แก่ สตรีนักบริหารดีเด่น สตรีผู้ปฏิบัติการดีเด่น สตรีเครือข่ายด้านแรงงานดีเด่น สตรีผู้ประกอบอาชีพอิสระดีเด่น ศิลปินสตรีดีเด่น สื่อมวลชนสตรีดีเด่น สตรีองค์กรพัฒนาเอกชนดีเด่น และสตรีนักวิชาการด้านแรงงานดีเด่น อธิบดีกสร. กล่าวต่อไปว่า กสร. ขอเชิญชวนร่วมเสนอชื่อสตรีทำงานดีเด่น ประจำปี 2563 โดยสามารถดาวน์โหลดแบบเสนอประวัติ […]

กสร. ชี้แจงสถานการณ์ปิดกิจการและเลิกจ้าง

กสร. ชี้แจงสถานการณ์ปิดกิจการและเลิกจ้าง

กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ชี้แจงสถานการณ์การปิดกิจการของสถานประกอบกิจการและการเลิกจ้าง พบเลิกจ้างเพิ่มขึ้นแต่มีการจ้างงานก็เพิ่มขึ้นด้วย ส่วนการเลิกจ้างโยงสหภาพแรงงานอยู่ระหว่างคณะกรรมการแรงงานสัมพันธ์พิจารณา ยันส่งพนักงานตรวจแรงงานติดตามสถานการณ์และช่วยเหลือลูกจ้างอย่างใกล้ชิด นายอภิญญา สุจริตตานันท์ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) กล่าวถึงประเด็นที่มีหลายฝ่ายแสดงความเป็นห่วงสถานการณ์การปิดกิจการและการเลิกจ้างและอาจเกี่ยวโยงกับสหภาพแรงงาน โดยชี้แจงว่า จากสถานการณ์ดังกล่าว กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน มิได้นิ่งนอนใจแต่อย่างใดได้สั่งการให้พนักงานตรวจแรงงานติดตามสถานการณ์การเลิกจ้างลูกจ้าง และการปิดกิจการ รวมทั้งสถานการณ์ด้านแรงงานสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกับสหภาพแรงงานอย่างใกล้ชิด ทั้งนี้ จากการตรวจสอบตัวเลขลูกจ้างมายื่นคำร้องให้นายจ้างจ่ายเงินชดเชยการเลิกจ้างตามกฎหมาย ในปีงบประมาณ 2562 พบว่า มีสถานประกอบการเลิกกิจการ 1,017 แห่ง ลูกจ้างได้รับผลกระทบ 7,703 คน ขณะที่ในปีงบประมาณ 2561 มีสถานประกอบการเลิกจ้าง 607 แห่ง ลูกจ้างได้รับผลกระทบและมายื่นหนังสือร้องเรียน 5,619 คน เมื่อเทียบแล้วพบว่าปี 2562 มีสถานประกอบการได้รับผลกระทบเพิ่มขึ้นคิดเป็นร้อยละ 67.55 ลูกจ้างได้รับผลกระทบเพิ่มขึ้นร้อยละ 37.09 หากเทียบตั้งแต่ ต.ค.-ธ.ค. 2561 พบว่า มีสถานประกอบการปิดกิจการ 296 แห่ง ลูกจ้างได้รับผลกระทบ 1,101 คน ส่วน ต.ค.-ธ.ค. 2562 มีสถานประกอบการเลิกกิจการไปแล้ว […]

กสร. เตรียมรับมือปรับขึ้นค่าจ้าง 1 ม.ค 63

กสร. เตรียมรับมือปรับขึ้นค่าจ้าง 1 ม.ค 63

กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน สั่งพนักงานตรวจแรงงานเร่งทำความเข้าใจนายจ้างลูกจ้างก่อนปรับขึ้นค่าจ้างขั้นต่ำ 1 ม.ค. นี้ พร้อมตรวจติดตามหลังปรับขึ้นค่าจ้าง ย้ำนายจ้างต้องปฏิบัติให้ถูกต้อง สงสัยโทร 1506 กด 3 นายอภิญญา สุจริตตานันท์ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน (กสร.) เปิดเผยว่า ตามที่ครม. มีมติรับทราบประกาศคณะกรรมการค่าจ้างปรับอัตราค่าจ้างขั้นต่ำทั่วประเทศ ค่าจ้างขั้นต่ำมีการปรับเพิ่มขึ้นจำนวน 5 – 6 บาท โดยจะแตกต่างกันในแต่ละจังหวัด ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค.2563 เป็นต้นไปนั้น กสร. ได้สั่งการให้พนักงานตรวจแรงงานทั่วประเทศ เร่งลงพื้นที่เพื่อชี้แจง ทำความเข้าใจกับนายจ้าง ลูกจ้างให้รับทราบสิทธิหน้าที่ตามกฎหมาย และภายหลังจากค่าจ้างขั้นต่ำอัตราใหม่มีผลบังคับใช้แล้วพนักงานตรวจแรงงานจะเข้าไปตรวจติดตามการจ่ายค่าจ้างของสถานประกอบกิจการ หากพบว่าปฏิบัติไม่ถูกต้องพนักงานตรวจแรงงานจะดำเนินการออกคำสั่งให้จ่ายค่าจ้างให้ถูกต้องตามกฎหมายทันที อธิบดีกสร. กล่าวต่อว่า ค่าจ้างขั้นต่ำเป็นอัตราค่าจ้างพื้นฐานสำหรับลูกจ้างที่เริ่มเข้าทำงาน สำหรับสถานประกอบกิจการที่มีการจ่ายค่าจ้างเท่ากับหรือมากกว่าที่อัตราค่าจ้างขั้นต่ำที่ปรับใหม่ถือว่าปฏิบัติถูกต้องตามกฎหมาย อย่างไรก็ตาม นายจ้างอาจจะพิจารณาปรับค่าจ้างตามอัตราส่วนให้กับลูกจ้างที่ทำงานกับสถานประกอบกิจการมานานเพื่อเป็นขวัญและกำลังใจให้กับลูกจ้าง ทั้งนี้ สามารถสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจังหวัดทุกจังหวัด สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานพื้นที่กรุงเทพมหานคร 10 พื้นที่ หรือสายด่วน 1506 กด 3

กสร. พัฒนาบุคลากรทั่วประเทศ เพิ่มขีดความสามารถในการขับเคลื่อนภารกิจ มุ่งพัฒนาคุณภาพการให้บริการสู่ความเป็นเลิศ

กสร. พัฒนาบุคลากรทั่วประเทศ เพิ่มขีดความสามารถในการขับเคลื่อนภารกิจ มุ่งพัฒนาคุณภาพการให้บริการสู่ความเป็นเลิศ

กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน พัฒนาองค์ความรู้แบบบูรณาการ ผนวกโครงการจาก 3 หน่วย เสริมสร้างศักยภาพ ทักษะ และความสามารถแก่บุคลากรกรมทั่วประเทศ ให้มีความพร้อม เพื่อขับเคลื่อนภารกิจให้บรรลุผลสัมฤทธิ์ที่รับผิดชอบตามนโยบายรัฐบาล สร้างประโยชน์ต่อนายจ้าง ลูกจ้าง สังคม และประเทศชาติ นายอภิญญา สุจริตตานันท์ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน เปิดเผยว่า การคุ้มครองและส่งเสริมให้นายจ้าง ลูกจ้างมีศักยภาพสูง มีคุณภาพชีวิตที่ดี รวมถึงดูแลแรงงานให้ได้รับสิทธิประโยชน์ตามที่กฎหมายกำหนด ถือเป็นภารกิจหลักที่กรมต้องดำเนินการให้บรรลุผลสัมฤทธิ์ตามนโยบายรัฐบาล บุคลากรของกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานจึงเป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนภารกิจดังกล่าว ที่ต้องได้รับการพัฒนาองค์ความรู้ และทักษะที่หลากหลาย ตลอดจนการปรับตัวและพัฒนาให้ทันต่อความก้าวหน้าของระบบเทคโนโลยีในปัจจุบัน ดังนั้น เพื่อให้เกิดการพัฒนาองค์ความรู้ที่ครอบคลุมงานที่ต้องปฏิบัติ และความรู้พื้นฐานที่ต้องทราบในการพัฒนาตนเองให้มีความพร้อมออกไปปฏิบัติหน้าที่โดยยึดถือประโยชน์ของผู้อื่นเป็นสำคัญ กรมจึงบูรณาการโครงการจาก 3 หน่วยงาน ได้แก่ ความรู้ด้านการจัดสวัสดิการให้แก่ผู้ใช้แรงงานที่เหมาะสมสอดคล้องกับมาตรฐานสากล จากกองสวัสดิการแรงงาน ความรู้ ความเข้าใจ แนวนโยบายและทิศทางการปฏิบัติราชการในปีงบประมาณ พ.ศ. 2563 รวมถึงการเสริมสร้างวินัย คุณธรรม จริยธรรม และจรรยาบรรณของข้าราชการ เกี่ยวกับการป้องกันและปราบปรามการทุจริต การป้องกันผลประโยชน์ทับซ้อนในการปฏิบัติงาน จากกองการเจ้าหน้าที่ และสุดท้าย ความรู้ในด้านการพัฒนาคุณภาพการให้บริการเพื่อมุ่งสู่ความเป็นเลิศ จากกลุ่มงานพัฒนาระบบบริหาร ซึ่งจะได้เข้าใจและมุ่งสู่เป้าหมายเดียวกัน เกิดภาพลักษณ์ที่ดี เป็นราชการใสสะอาด สามารถเป็นที่พึ่ง […]

ก.แรงงาน เปิดประชุมวิชาการตรวจแรงงานอาเซียน ครั้งที่ 8

ก.แรงงาน เปิดประชุมวิชาการตรวจแรงงานอาเซียน ครั้งที่ 8

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดประชุมวิชาการด้านการตรวจแรงงานอาเซียน ครั้งที่ 8 ภายใต้หัวข้อ “การสร้างงานที่มีคุณค่าในภาคประมงผ่านการตรวจแรงงานในอาเซียน” มุ่งพัฒนาการตรวจคุ้มครองแรงงานประมงให้มีประสิทธิภาพ สอดคล้องมาตรฐานสากล เสริมสร้างความร่วมมือเครือข่ายอาเซียน พร้อมเดินหน้าอนุสัญญาฉบับที่ 188 ลงสู่การปฏิบัติ หม่อมราชวงศ์จัตุมงคล โสณกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวในฐานะประธานเปิดการประชุมวิชาการด้านการตรวจแรงงานอาเซียน ครั้งที่ 8 ในวันที่ 18 ธันวาคม 2562 ณ โรงแรมเซ็นจูรี่พาร์ค กรุงเทพฯ ว่า การตรวจแรงงานถือเป็นกลยุทธ์สำคัญในระบบบริหารจัดการด้านแรงงาน มีวัตถุประสงค์ที่สำคัญคือการบังคับใช้กฎหมายเพื่อคุ้มครองสิทธิแรงงาน และให้เกิดการจ้างงานที่เป็นธรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งแรงงานในภาคประมง เนื่องจากมีสภาพการจ้างและการทำงานไม่เหมือนงานทั่วไป สภาพแวดล้อมในการทำงานที่เป็นอันตราย และสภาพการทำงานและการอยู่อาศัยบนเรือที่มีลักษณะเฉพาะ รวมทั้ง มีการดำเนินกิจกรรมข้ามทะเลอาณาเขตของประเทศต่าง ๆ ซึ่งอาจเป็นสาเหตุหนึ่งของการฝ่าฝืนการคุ้มครองสิทธิแรงงานได้ เพื่อให้เกิดการดำเนินการคุ้มครองสิทธิแรงงานกลุ่มนี้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพจะต้องความร่วมมือจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะความร่วมมือของรัฐเจ้าของท่าด้วย จากปัญหาดังกล่าวนำมาสู่การประชุมวิชาการว่าด้วยการตรวจแรงงานอาเซียน ครั้งที่ 8 ภายใต้หัวข้อการจัดงาน “การสร้างงานที่มีคุณค่าในภาคประมงผ่านการตรวจแรงงานในอาเซียน” นี้ มุ่งหวังที่จะส่งเสริมและพัฒนากลไกความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนในการคุ้มครองสิทธิแรงงานในภาคประมง รวมทั้งการสร้างแนวทางร่วมของภูมิภาคอาเซียนในการสร้างงานที่มีคุณค่าสำหรับคนงานในภาคประมง โดยอ้างอิงมาตรฐานระหว่างประเทศด้านแรงงาน ซึ่งประเทศไทยเป็นประเทศแรกในภูมิภาคอาเซียนที่ให้สัตยาบันอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศว่าด้วยการทำงานในภาคประมง ฉบับที่ 188 พร้อมที่จะสนับสนุนให้ประเทศสมาชิกอาเซียนให้สัตยาบันอนุสัญญาดังกล่าวและนำข้อบทของอนุสัญญาลงสู่การปฏิบัติอย่างเป็นรูปธรรมเพื่อคุ้มครองสิทธิแรงงานและสร้างงานที่มีคุณค่าในภาคประมงต่อไป นายอภิญญา สุจริตตานันท์ อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน […]

ก.แรงงาน เตรียมพร้อมแรงงานนอกระบบรับสังคมสูงวัย

ก.แรงงาน เตรียมพร้อมแรงงานนอกระบบรับสังคมสูงวัย

กระทรวงแรงงาน โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน จัดโครงการอบรมส่งเสริมให้ความรู้แก่แรงงานนอกระบบเพื่อก้าวสู่สังคมสูงวัย (Ageing Society) เสริมความรู้สิทธิประโยชน์ตามกฎหมาย พร้อมทำงานอย่างมีคุณค่า พลโท นันทเดช เมฆสวัสดิ์ เลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน กล่าวในโอกาสเป็นประธานเปิดการอบรมการส่งเสริมให้ความรู้แก่แรงงานนอกระบบเพื่อก้าวสู่สังคมสูงวัย (Ageing Society) วันที่ 16 ธันวาคม 2562 ณ โรงแรมเวสต์เกต เรสซิเดนซ์ จังหวัดนนทบุรี ว่า การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประชากรของไทยที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วส่งผลให้ประเทศไทยเข้าสู่การเป็นสังคมสูงวัย ตั้งแต่ประมาณปี 2543- 2544 คือ มีประชากรอายุ 60 ปี คิดเป็นสัดส่วนมากกว่าร้อยละ 10 ของประชากรทั้งหมด และจากข้อมูลของสำนักงานสถิติแห่งชาติประจำปี 2561 พบว่ากำลังแรงงานกลุ่มอายุ 60 ปีขึ้นไป เป็นแรงงานนอกระบบ 3.59 ล้านคน คิดเป็นร้อยละ 88.3 อาชีพที่แรงงานกลุ่มนี้ทำส่วนใหญ่จะเป็นอาชีพหรือกิจกรรมที่ไม่ใช้กำลังมาก ทำงานไม่เต็มเวลา มีเป้าหมายเพื่อเสริมรายได้หรือเป็นงานอดิเรก กระทรวงแรงงานตระหนักถึงความสำคัญของแรงงานนอกระบบซึ่งเป็นผู้สูงอายุเหล่านี้ จึงได้จัดโครงการส่งเสริมให้ความรู้แก่แรงงานนอกระบบเพื่อก้าวสู่สังคมสูงวัยขึ้น เพื่อให้แรงงานนอกระบบกลุ่มผู้สูงอายุมีความรู้ ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับสิทธิหน้าที่ตามกฎหมาย ความปลอดภัยในการทำงาน การพัฒนาทักษะฝีมือเพื่อสร้างโอกาสในการสร้างรายได้ ไม่ถูกเอารัดเอาเปรียบ และมีคุณภาพชีวิตที่ดี […]