www.fap.or.th

จากนี้ไปรายงานของผู้สอบบัญชีจะเป็นเรื่องแรกที่ทุกคนต้องอ่าน

จากนี้ไปรายงานของผู้สอบบัญชีจะเป็นเรื่องแรกที่ทุกคนต้องอ่าน

ในขณะที่รายงานของผู้สอบบัญชีพัฒนาอย่างต่อเนื่องตลอด 40 ปีที่ผ่านมาตั้งแต่ยุครายงานแบบสองวรรคจนปัจจุบันเป็นรายงานแบบหกวรรค และกำลังจะปรับโฉมอีกครั้งสำหรับงบการเงินที่สิ้นสุดรอบปีบัญชีตั้งแต่วันที่ 31 ธันวาคม 2559 แต่ก็อดสงสัยไม่ได้ว่าผู้ใช้งบการเงินส่วนใหญ่จะสามารถเข้าใจและใช้ประโยชน์จากข้อมูลในรายงานนั้นได้มากน้อยเพียงใด คุณประสัณห์ เชื้อพานิช นายกสภาวิชาชีพบัญชี เปิดเผยว่า “รายงานของผู้สอบบัญชีแบบใหม่เป็นประโยชน์ต่อสาธารณะและผู้ใช้งบการเงินน่าจะชอบรายงานของผู้สอบบัญชีแบบใหม่มากกว่าแบบหกวรรค เพราะให้ข้อมูลเชิงคุณภาพมากขึ้น อีกทั้งปรับวรรคความเห็นขึ้นมาอยู่เป็นวรรคแรก เสมือนเป็น Executive Summary แต่อย่างไรก็ดี หากจะให้เกิดประโยชน์สูงสุด ผู้ใช้งบการเงินต้องรู้จักวิเคราะห์และทำความเข้าใจข้อมูลเหล่านั้นแล้วเชื่อมโยงไปกับธุรกิจและตัวเลขในงบการเงิน มิใช่มองแต่เพียงว่ารายงานของผู้สอบบัญชีเป็นกระดาษที่จะอ่านแค่ให้ทราบว่าผู้สอบบัญชีมีความเห็นต่องบการเงินอย่างไร” การปรับโฉมรายงานของผู้สอบบัญชีครั้งนี้ สอดคล้องกับหลักการของ IAASB ในหลายประเทศ อาทิเช่น มาเลเซีย สิงคโปร์ เนเธอร์แลนด์ ออสเตรเลีย อเมริกาใต้ และสหราชอาณาจักร ก็ได้ปรับใช้แนวทางนี้เช่นกัน ซึ่งถือเป็นการพัฒนาที่สำคัญของวิชาชีพสอบบัญชีเสมือนว่ากำลังก้าวเข้าสู่ยุคทองแห่งวงการสอบบัญชีเลยก็ว่าได้ เพราะรายงานของผู้สอบบัญชีโฉมใหม่จะให้ข้อมูลที่มีคุณค่ามากขึ้นและเพิ่มความโปร่งใสให้กับงบการเงินยิ่งขึ้น โดยหลักๆ ได้เพิ่ม “วรรคเรื่องสำคัญในการตรวจสอบ” (Key Audit Matter) หรือเรียกย่อๆ ว่า KAM ซึ่งเป็นข้อมูลที่ช่วยให้ผู้ใช้งบการเงินเข้าใจถึงจุดเสี่ยงในกิจการนั้น ๆ ได้ง่ายขึ้น รวมทั้งเปิดเผยเบื้องหลังการทำงานของผู้สอบบัญชีให้ทราบ และรายงานผลการตรวจสอบที่ชัดเจนขึ้น อีกทั้งกรณีที่มีเหตุการณ์ที่อาจเป็นเหตุให้เกิดข้อสงสัยอย่างมีนัยสำคัญแม้ว่าผู้สอบบัญชีได้หลักฐานและสรุปผลว่าไม่มีความไม่แน่นอนที่มีสาระสำคัญแล้ว แต่ก็ยังกำหนดให้เพิ่มเติม “วรรคความไม่แน่นอนที่มีสาระสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานต่อเนื่อง” ซึ่งเป็นการให้ข้อมูลถึงเหตุการณ์ดังกล่าวเพื่อช่วยให้ผู้ใช้งบการเงินเข้าใจกิจการอย่างเต็มที่ รายงานของผู้สอบบัญชีโฉมใหม่จึงเปรียบเสมือน […]