ตกขาว

มีตกขาวทุกวัน ผิดปกติไหม?

มีตกขาวทุกวัน ผิดปกติไหม?

การมีตกขาวขับออกมาทุกวัน ถือว่าเป็นเรื่องปกติของคุณผู้หญิง อาจมากบ้าง น้อยบ้าง ขึ้นอยู่กับว่าใกล้ช่วงเวลาไข่ตกมากแค่ไหน โดยตอนช่วงไข่ตกอาจมีตกขาวออกมามากเป็นพิเศษได้… หากมีตกขาวทุกวันไม่ใช่อาการที่ผิดปกติ แล้วแบบไหน? กันที่ต้องระวัง ง่ายๆ ครับ ให้คุณผู้หญิงลองสังเกตที่สีและกลิ่น ของตกขาวดู โดยทั่วไปแล้วตกขาวจะมีลักษณะเป็นเมือกสีขาวขุ่นและมีกลิ่นเฉพาะตัว หากสังเกตตัวเองแล้วพบว่า ตกขาวมีสีหรือกลิ่นที่ผิดปกติไปจากทุกวัน ควรปรึกษาสูตินรีแพทย์เพื่อหาสาเหตุ การเกิดตกขาวมีสาเหตุหลักๆ ได้ 2 ประเภท คือ ✔️ตกขาวที่เกิดจากปัจจัยภายนอก เช่น การใส่กางเกงชั้นในคับเกินไป การกินนมเปรี้ยว โยเกิร์ต หรือแพ้สารบางอย่างจากในเสื้อผ้า จะทำให้ตกขาวออกมามากผิดปกติและมีกลิ่นอับ สามารถแก้ไขได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ✔️ตกขาวจากการติดเชื้อ ซึ่งมักจะมีกลิ่นเหม็น ปริมาณมากผิดปกติ มีสีเปลี่ยนไป เช่น เป็นหนองหรือมีเลือดปน กลิ่นเหม็น ปวดท้องน้อย มีไข้ร่วมด้วย ควรไปพบแพทย์ เพื่อตรวจและรักษาให้ตรงจุด เพราะสาเหตุอาจมาจากเชื้อราหรือโรคทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ ก็เป็นได้นะครับ

ตกขาวเรื่องของสาวๆ ที่ต้องใส่ใจ

ตกขาวเรื่องของสาวๆ ที่ต้องใส่ใจ

ตกขาวเป็นภาวะปกติที่มีได้ในผู้หญิงทุกคน เกิดจากเซลล์เยื่อเมือกที่ผนังด้านในของช่องคลอดสร้างน้ำเมือกที่มีลักษณะคล้ายแป้งเปียก น้ำเมือกนี้จะช่วยหล่อลื่นช่องคลอด ขับสิ่งแปลกปลอม ฆ่าเชื้อโรคและปรับสมดุลความเป็นกรด-ด่างในช่องคลอดของคุณสาวๆ นั่นเองครับ ตกขาวปกติทั่วไปจะมีลักษณะเป็นมูกใสออกสีขาว ไม่มีกลิ่นเหม็น และไม่ทำให้เกิดอาการคัน แต่ถ้าตกขาวของคุณสาวๆ มีกลิ่นเหม็นสีขาวขุ่น มีเลือดปน มีปริมาณมากผิดปกติ ร่วมกับมีอาการคัน ปัสสาวะแสบขัด เจ็บเวลามีเพศสัมพันธ์ หรือมีอาการปวดท้องน้อย แบบนี้ไม่ปกติแล้วนะครับสาวๆ ทางที่ดีควรเข้าไปปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรักษาให้ตรงจุด เพราะสาเหตุอาจมาจากเชื้อรา เชื้อแบคทีเรียหรือโรคทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ ก็เป็นได้นะครับ

มีตกขาวทุกวันมันปกติมั้ย ?

มีตกขาวทุกวันมันปกติมั้ย ?

บางคนยังมีความเชื่อผิดๆ ที่ว่า มีตกขาวออกมาทุกวันเป็นเรื่องผิดปกติ ซึ่งแล้วไม่ใช่นะครับ การมีตกขาวขับออกมาทุกวัน ถือว่าเป็นเรื่องปกติของคุณผู้หญิง อาจมากบ้าง น้อยบ้าง ขึ้นอยู่กับว่าใกล้ช่วงเวลาไข่ตกมากแค่ไหน โดยตอนช่วงไข่ตกอาจมีตกขาวออกมามากเป็นพิเศษได้ ถ้าถามว่าแล้วจะรู้ได้ยังไง ว่าตกขาวผิดปกติ? คำตอบก็คือ ให้คุณผู้หญิงลองสังเกตที่สีและกลิ่นดู โดยทั่วไปแล้วตกขาวมีลักษณะเป็นเมือกสีขาวขุ่นและมีกลิ่นเฉพาะตัว หากสังเกตตัวเองแล้วพบว่า ตกขาวของคุณมีสีหรือกลิ่นที่ผิดปกติไปจากทุกวัน ควรเข้าไปปรึกษาแพทย์เพื่อหาสาเหตุและรักษาให้ตรงจุด เพราะสาเหตุอาจมาจากเชื้อราหรือโรคทางเพศสัมพันธ์อื่นๆ ก็เป็นได้นะครับ

ระวัง ตกขาวสีเปลี่ยนไป

ระวัง ตกขาวสีเปลี่ยนไป

หากมีตกขาวทุกวันไม่ใช่อาการที่ผิดปกติ แล้วแบบไหนกันนะที่ต้องระวัง ง่ายๆ นะครับลองสังเกตดูที่สีและกลิ่น อาการตกขาวที่ผิดปกติมักจะมีสีและกลิ่นที่แตกต่างกัน โดยสาเหตุสามารถแยกออกได้เป็น 2 ประเภทคือ 1. ตกขาวที่เกิดจากปัจจัยภายนอก เช่น การใส่กางเกงชั้นในคับเกินไป การกินนมเปรี้ยว โยเกิร์ต หรือแพ้สารบางอย่างจากในเสื้อผ้า จะทำให้ตกขาวออกมามากผิดปกติและมีกลิ่นอับ ซึ่งสามารถแก้ไขได้แค่ปรับเปลี่ยนพฤติกรรม 2. ตกขาวจากการติดเชื้อ มักมีกลิ่นเหม็น ปริมาณมากผิดปกติ มีสีเปลี่ยนไปเช่น เป็นหนอง หรือมีเลือดปน กลิ่นเหม็น หรือมีอาการปวดท้องน้อย มีไข้ร่วมด้วย ควรไปพบแพทย์ เพื่อตรวจให้ชัดเจนและรักษาให้ถูกต้องจะดีกว่านะครับ #อบอุ่น #เชี่ยวชาญ #โรงพยาบาลรามคำแหง

“คัน” ช่องคลอด ภัยเงียบในผู้หญิง

“คัน” ช่องคลอด ภัยเงียบในผู้หญิง

ฤดูฝนปนอากาศร้อนอบอ้าวแบบนี้ มีหลายโรคให้ระวัง โดยเฉพาะผู้หญิงหลายคน อาจไม่รู้ว่า อาการ “คัน” บริเวณจุดซ่อนเร้น จะบานปลายเป็น “เชื้อราในช่องคลอด” โรคที่ต้องใส่ใจรักษาอย่างถูกวิธี อาการคันของโรค ไม่ใช่แค่คันแบบปกติทั่วไป แต่ส่งผลเสียกับบุคลิกภาพ ถ้าต้อง “หยุกหยิก” ตลอดเวลา หรือเกิด กลิ่นไม่พึงประสงค์ จะทำให้หมดความมั่นใจ ทั้งๆ ที่ ถ้าเริ่มเป็นไม่นานและรักษาอย่างใส่ใจ จะยุติปัญหาได้อย่างรวดเร็ว สาเหตุของโรคนี้ เกิดจากภาวะเสียสมดุลของช่องคลอด ทำให้เชื้อแบคทีเรียดีๆ อย่าง “แลคโตบาซิลลัย” ที่ทำหน้าที่ป้องกันโรค มีจำนวนลดลง ส่งผลให้เชื้อราในกลุ่ม “แคนดิดา” ซึ่งมีในช่องคลอดตามธรรมชาติอยู่แล้ว เพิ่มจำนวนขึ้น เป็นที่มาของการอักเสบ ติดเชื้อรา นอกจากนั้น หลายคนอาจไม่รู้เลยว่า “กางเกงคับๆ” ที่ผู้หญิงใส่แทบทุกวัน เพื่ออวดขาเรียวงาม ก็เป็นสาเหตุที่เร่งให้เชื้อราเพิ่มจำนวนขึ้น เพราะกางเกงรัดรูปแน่น เป็นอุปสรรคในการระบายอากาศ ยิ่งร้อนปะปนฝนในตอนนี้ ก็ทำให้ต้องใส่กางเกงอับชื้นเป็นเวลานานขึ้นอีก เช่นเดียวกัน ผู้หญิงนักกิน ที่ชื่นชอบอาหาร คาร์โบไฮเครตสูง ก็เป็นอีกกลุ่มเสี่ยงจากโรคเชื้อราในช่องคลอด รวมไปถึงผู้มีโรคประจำตัว เช่น “เบาหวาน” และผู้ที่กินยาปฏิชีวนะหรือสเตียรอยด์บ่อยและนาน […]