โรงพยาบาลรามคำแหง

ขอเชิญร่วมบริจาคโลหิต สู้วิกฤติ COVID-19 ครั้งที่ 32

ขอเชิญร่วมบริจาคโลหิต สู้วิกฤติ COVID-19 ครั้งที่ 32

ขอเชิญร่วมบริจาคโลหิต สู้วิกฤติ COVID-19 ครั้งที่ 32 ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติ สภากาชาดไทย ยังคงประสบภาวะวิกฤติโลหิตไม่เพียงพออย่างต่อเนื่อง จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ศูนย์บริการโลหิตแห่งชาติสภากาชาดไทยประสบปัญหาขาดแคลนเลือดทุกกรุ๊ปถึงขั้นวิกฤติ เพราะจำนวนการใช้เลือดในแต่ละวันยังคงมีมากเท่าเดิม แต่ในขณะที่มีผู้มาบริจาคเลือดน้อยลง หากยังเป็นเช่นนี้ต่อไป อาจเกิดอันตรายแก่ผู้ป่วยถึงขั้นเสียชีวิตได้ คุณก็เป็นผู้ให้ที่ยิ่งใหญ่ได้ มาเป็นส่วนหนึ่งที่ได้ช่วยเหลือคนอื่นกันเถอะ โรงพยาบาลรามคำแหงร่วมกับสภากาชาดไทย ขอเชิญร่วมบริจาคโลหิต สู้วิกฤติ COVID-19 ครั้งที่ 32 วันจันทร์ที่ 9 สิงหาคม 2564 เวลา 09.00-15.00 น. (พักเที่ยง 12.00-13.00 น.) ณ ห้องประชุมอาคาร 3 ชั้น 10 โรงพยาบาลรามคำแหง โดยโลหิตทุกยูนิตที่ได้รับบริจาคจากท่าน สภากาชาดไทย จะนำไปใช้ในการรักษาพยาบาลผู้ป่วยทั่วประเทศ โรงพยาบาลรามคำแหงขอเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนการรับบริจาคเลือดนอกพื้นที่ให้กับสภากาชาดไทย โรงพยาบาลรามคำแหงมีมาตราการป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาลระดับสูงสุด ท่านไม่ต้องกังวลเรื่องความปลอดภัย… เพียงเตรียมร่างกายให้พร้อมแล้วมาบริจาคเลือดกันนะครับ คำแนะนำการเตรียมตัวก่อนบริจาคโลหิต >> https://www.ram-hosp.co.th/news_detail/1000.

นอนกรนสัญญาณอันตราย!.. อาจหยุดหายใจขณะหลับ

นอนกรนสัญญาณอันตราย!.. อาจหยุดหายใจขณะหลับ

นอนกรนสัญญาณอันตราย!.. อาจหยุดหายใจขณะหลับ ส่วนใหญ่เรามักจะเข้าใจว่าการนอนกรนเป็นเรื่องปกติ โดยเฉพาะคุณผู้ชายที่ดูเหมือนจะเป็นเรื่องธรรมดาไปซะแล้วแต่รู้ไหมครับว่า? การนอนกรนบางครั้งก็อันตรายกว่าที่เราคิดอีกนะครับ นอนกรน เกิดจากระบบทางเดินหายใจส่วนบนที่ตีบแคบลงขณะที่เรานอนหลับสนิท ซึ่งในขณะนอนหลับนอกจากอาการกรนแล้วยังพบว่าอาจมีภาวะหยุดหายใจเกิดขึ้นร่วมด้วย ซึ่งเป็นภาวะผิดปกติของการหายใจ คือมีอาการหยุดหายใจเป็นช่วงๆ ขณะนอนหลับ จึงทำให้คุณภาพการนอนไม่ดี การนอนหลับไม่ต่อเนื่อง กลายเป็นสาเหตุของปัญหาสุขภาพ เช่น ร่างกายอ่อนเพลีย สมาธิและความจำไม่ดี การเผาผลาญด้อยประสิทธิภาพลง อาจทำให้เกิดโรคอ้วนและเบาหวานได้ รวมไปถึงการเกิดโรคต่างๆ ที่เกี่ยวกับสมองและหลอดเลือดหัวใจ เช่น โรคความดันโลหิตสูง ภาวะหัวใจเต้นผิดจังหวะ โรคหลอดเลือดสมอง และยังอาจทำให้เสื่อมสมรรถภาพทางเพศได้อีกด้วย ซึ่งปัจจัยเสี่ยงของการนอนกรนและภาวะหยุดหายใจขณะหลับนั้นมีหลายประการด้วยกัน เช่น ผู้ที่มีน้ำหนักตัวเยอะ มีอาการของโรคภูมิแพ้บริเวณจมูก สันจมูกเบี้ยวหรือคด รูปหน้าหรือคางผิดปกติ ต่อมทอนซิลโต การรับประทานยาที่ทำให้ง่วง และผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์ สูบบุหรี่เป็นประจำ การรักษาโรคนอนกรนมีหลายวิธีด้วยกันครับ ขึ้นอยู่กับสาเหตุผิดปกติที่ตรวจพบและความรุนแรง แบ่งเป็นการรักษาทางยา เช่น การรักษาภาวะภูมิแพ้ การปรับพฤติกรรม เช่น การปรับท่านอน ลดน้ำหนักตัว, ไปจนถึงการรักษาด้วยเครื่องมือพิเศษ เช่น การใช้พลังจากคลื่นวิทยุกระชับเนื้อเยื่ออ่อนภายในช่องปากและคอที่หย่อนตัว หรือการผ่าตัดรักษา  นอกจากนี้ปัจจุบันยังมี Application ( SnoreLab ) ที่ช่วยตรวจจับและบันทึกการกรนของเราในเบื้องต้น ก่อนจะมาพบแพทย์ […]

“ปวดคอ” อาการปวดทั่วไป ที่อาจเป็นอันตราย

“ปวดคอ” อาการปวดทั่วไป ที่อาจเป็นอันตราย

“ปวดคอ” อาการปวดทั่วไป ที่อาจเป็นอันตราย ในยุคที่คนต้องทำงานอยู่กับคอมพิวเตอร์นั่งท่าเดิมๆ หรือเล่นมือถือ ก้มหน้า เงยหน้าอยู่ตลอด รวมถึงความเครียดที่เกิดขึ้นจึงทำให้เราเกิดอาการปวดคอเอาได้ง่ายๆ ไม่ว่าจะปวดแบบเป็นๆ หายๆ หรือปวดเรื้อรัง ซึ่งถ้าอาการปวดมาจากกล้ามเนื้อก็ไม่มีอะไรน่าห่วง แต่ถ้าอาการปวดนั้นเกิดจากหมอนรองกระดูกคอเสื่อมไปกดทับเส้นประสาทหรือไขสันหลัง แบบนี้ไม่ดีแน่ๆ ให้สังเกตว่าถ้าเป็นการปวดกล้ามเนื้อคอธรรมดาจะมีอาการเมื่อใช้งาน หรือเวลาก้มคอลงอาการปวดจะยิ่งชัดเจนขึ้นพอได้พักการใช้กล้ามเนื้อคออาการจะดีขึ้น แต่ถ้ามาจากสาเหตุอื่นๆ เช่น หมอนรองกระดูกคอเสื่อมกดทับเส้นประสาท เวลาก้มคอลงจะรู้สึกสบาย แต่ถ้าแหงนคอขึ้นจะรู้สึกปวดร้าวไปตามแนวเส้นประสาทแม้จะพักการใช้งานแล้วอาการก็ยังไม่ดีขึ้นและยังคงปวดต่อเนื่อง หากอาการปวดคอเป็นแค่อาการเคลื่อนของหมอนรองกระดูก ก็อาจรักษาด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการนั่งทำงาน ไม่นั่งท่าเดียวนานๆ จัดท่านั่งให้เหมาะสม ลุกเดินเปลี่ยนอิริยาบท หรือทำกายบริหารยืดกล้ามเนื้อคอผ่อนคลายความเมื่อยล้า การทำกายบริหารกล้ามเนื้อบริเวณโดยรอบคอเป็นประจำ จะช่วยเพิ่มความแข็งแรงให้กับกล้ามเนื้อคอและลดอาการปวดคอได้ “ ท่ากายบริหารลดอาการปวดคอ ” https://www.ram-hosp.co.th/news_detail/114 แต่หากอาการปวดคอเรื้อรังนั้นเกิดจากหมอนรองกระดูกคอเสื่อมกดทับเส้นประสาท การรักษาที่ดี คือการผ่าตัดเปลี่ยนหมอนรองกระดูกคอเทียม โดยเมื่อผ่าตัดแล้วอาการปวดที่เคยมีก็จะหายไปได้

ปวดไหล่เอ็นหัวไหล่ฉีกขาด รีบรักษาก่อนเกิดปัญหาข้อไหล่เสื่อม

ปวดไหล่เอ็นหัวไหล่ฉีกขาด รีบรักษาก่อนเกิดปัญหาข้อไหล่เสื่อม

ปวดไหล่เอ็นหัวไหล่ฉีกขาด รีบรักษาก่อนเกิดปัญหาข้อไหล่เสื่อม การฉีกขาดของเส้นเอ็นหัวไหล่เกิดได้จากหลายสาเหตุ แต่ส่วนใหญ่จะเกิดจากความเสื่อมของเส้นเอ็นตามอายุที่มากขึ้น นอกจากนี้ยังเกิดจากอุบัติเหตุที่หัวไหล่หรือบาดเจ็บจากการใช้งานหัวไหล่ซ้ำๆ เป็นเวลานาน หรือจากการเล่นกีฬา เอ็นหัวไหล่ที่ขาดส่วนใหญ่จะเริ่มจากขาดบางส่วนหรือขาดเป็นรูเล็กๆ ก่อนแล้วจึงค่อยๆ ขาดเพิ่มขึ้นๆ เหมือนกระดาษหรือผ้าที่เมื่อเริ่มมีรอยฉีกรอยปรุ ก็จะขาดตามรอยที่มีอยู่ไปเรื่อยๆ ดังนั้นหากไม่รีบรักษาจากที่ขาดแค่เล็กน้อยก็จะกลายเป็นขาดเพิ่มแล้วก็ลามไปเรื่อยๆ จนข้อไหล่เสื่อมหรือพังตามมา ดังนั้นใครที่มีอาการปวดไหล่เรื้อรังหรือไม่สามารถใช้งานไหล่ได้อย่างปกติควรไปพบแพทย์ตรวจวินิจฉัยเพราะหากพบว่าเส้นเอ็นฉีกขาดแค่เล็กน้อย อาจแค่ทานยา พักการใช้งานหัวไหล่หนัก ออกกำลังกายบริหารเส้นเอ็นหัวไหล่ให้แข็งแรง แต่หากพบว่าเส้นเอ็นฉีกขาดมากก็อาจจำเป็นต้องทำการผ่าตัดเย็บซ่อม การผ่าตัดในปัจจุบันนี้ไม่น่ากลัว เพราะใช้วิธีการผ่าตัดส่องกล้องเข้าไปเย็บซ่อมเอ็นหัวไหล่ ช่วยให้แผลผ่าตัดมีขนาดเล็ก ลดโอกาสติดเชื้อและลดการเกิดภาวะแทรกซ้อน ลดการบาดเจ็บของเนื้อเยื่อข้างเคียง ฟื้นตัวได้เร็ว และถือเป็นมาตรฐานการรักษาที่ยอมรับกันทั่วโลก ข้อมูลเพิ่มเติมคลิก >> https://www.ram-hosp.co.th/news_detail/256 สายด่วนสุขภาพโทร 0 2743 9999 ต่อ 2999

ปวดหลังร้าวลงขา เรื่องไม่เล็กอย่ามองข้าม

ปวดหลังร้าวลงขา เรื่องไม่เล็กอย่ามองข้าม

ปวดหลังร้าวลงขา เรื่องไม่เล็กอย่ามองข้าม ใครที่มีอาการปวดหลังบ่อยๆ และปวดร้าวลงไปที่ขาหรือร้าวลงไปถึงปลายเท้ามีอาการชาอ่อนแรงร่วมด้วยแล้วละก็ นี้อาจเป็นสัญญาณเตือนว่าคุณกำลังเป็นโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทอยู่ก็ได้นะ เมื่ออายุมากขึ้นหมอนรองกระดูกจะเริ่มเสื่อมและอาจทำให้เนื้อเยื่ออ่อนส่วนที่อยู่ภายในหมอนรองกระดูกปลิ้นโผล่ออกมาแล้วไปกดทับเส้นประสาท จึงทำให้เกิดอาการปวดหลัง ชา อ่อนแรงหรือเจ็บบริเวณแนวเส้นประสาทที่ถูกกดทับ แต่อย่าเพิ่งคิดว่าโรคหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท จะเกิดขึ้นได้แค่กับคนสูงอายุเท่านั้นนะ…เดี๋ยวนี้อายุแค่ 30 ต้นๆ ก็มีโอกาสเป็นโรคนี้ได้แล้ว!! ซึ่งสาเหตุส่วนใหญ่ก็มาจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตแทบ อาการหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาทจะค่อยๆ ดีขึ้นหากได้รับการรักษาตั้งแต่เนิ่นๆ การรักษาก็จะขึ้นอยู่กับระดับความรุนแรง อาการ และตำแหน่งที่หมอนรองกระดูกเคลื่อนไปกดทับ ซึ่งผู้ป่วยประมาณร้อยละ 90 สามารถหายได้ด้วยการทานยา ทำกายภาพบำบัด การฉีดยาสเตียรอยด์เพื่อลดอาการปวดและการอักเสบของเส้นประสาท แต่หากอาการรุนแรงและรักษาด้วยวิธีดังกล่าวแล้วไม่ได้ผลหรือนานเกิน 6 สัปดาห์ ก็อาจจำเป็นต้องรักษาด้วยวิธีการผ่าตัด การผ่าตัดหมอนรองกระดูกทับเส้นประสาท ปัจจุบันจะเป็นการผ่าตัดส่องกล้องแผลเล็ก“กล้องเอ็นโดสโคป” (Endoscope) ที่ช่วยลดการบาดเจ็บต่อเนื้อเยื่อ ลดอาการเจ็บปวดจากแผลผ่าตัด ลดระยะเวลาในการนอนโรงพยาบาลและช่วยให้ผู้ป่วยฟื้นตัวเร็วขึ้น “การปฏิบัติตัวเพื่อป้องกันอาการปวดหลัง” https://www.ram-hosp.co.th/news_detail/112

เลี้ยงลูกอย่างไรดีในยุคที่ “ไวรัสโควิด-19” กำลังระบาด?

เลี้ยงลูกอย่างไรดีในยุคที่ “ไวรัสโควิด-19” กำลังระบาด?

เลี้ยงลูกอย่างไรดีในยุคที่ “ไวรัสโควิด-19” กำลังระบาด? ตั้งแต่มีการแพร่ระบาดของ “โควิด-19” ทำให้ไม่ว่าที่ประเทศไหนในโลกรวมทั้งในเมืองไทยของเราต้องใช้ชีวิตอยู่ด้วยความลำบากอย่างทั่วถึงกัน นอกจากผู้ใหญ่ที่ต้องระมัดระวังการติดเชื้อ หากแต่ยังมีลูกหลานที่ต้องดูแลห่วงใย คุณพ่อคุณแม่ คงอยากทราบแนวทางที่เหมาะสมในการเลี้ยงดูลูกอย่างไรจึงจะเป็นการส่งเสริมให้ลูกๆ ได้ก้าวข้ามสถานการณ์นี้ได้อย่างอยู่รอดและปลอดภัย พบว่าช่วงที่โควิด-19 แพร่ระบาดทำให้เด็กต้องอยู่บ้านเยอะกว่าปกติเช่นเดียวกับคุณพ่อคุณแม่ทุกคนที่ต้องใช้เวลาอยู่กับลูกๆ เยอะขึ้น ซึ่งถ้ามองในแง่ดีคือการมีเวลาอยู่กับลูกสร้างสัมพันธ์ที่ดี แต่ในขณะเดียวกันเมื่อเด็กไม่ได้ไปโรงเรียนแล้วกิจกรรมที่เคยทำก็จะลดลง จึงอยากให้ข้อแนะนำให้มี Quality Time หรือ Special Time ที่คุณพ่อคุณแม่ได้ใช้เวลาอยู่กับลูกอย่างน้อยวันละ 10-15 นาทีต่อวันโดยควรต้องอยู่กับลูกจริงๆ โดยไม่ดูมือถือ ไม่ดูทีวี หรือไม่สนใจอย่างอื่นเพื่อให้ลูกได้รู้สึกว่าเราให้ความสนใจกับเขาจริงๆ  นอกจากนี้ยังขอแนะนำให้เพิ่มบางอย่างและลดบางอย่างในการเลี้ยงดูลูก การเพิ่มก็คือ Positive Reinforcement คือเราให้การชื่นชมทางบวก การกระตุ้นทางบวกให้กับเด็ก อย่างเช่นถ้าเขาทำดีก็ชื่นชมเลยแล้วก็พูดให้ชัดเจนว่าเราชื่นชมเรื่องอะไร หมออยากให้พยายามมองข้อดีเขาเยอะ ๆ สิ่งสำคัญคืออยากให้คุณพ่อคุณแม่เพิ่มการควบคุมอารมณ์ตัวเอง เพราะไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรในบ้านลูกก็จะดูเราเป็นตัวอย่าง ลูกจะซึมซับและนำมาเป็นแบบอย่าง บางครั้งที่เราดุด่าว่ากล่าวอาจจะไม่ได้ประโยชน์เท่ากับเราทำให้ดู เราอาจจะบอกลูกว่าตอนนี้พ่อแม่โกรธอยู่ เดี๋ยวพ่อแม่หายโกรธเรามาคุยกันนะ… ส่วนที่อยากให้ลด ก็คืออยากให้ลดความสนใจเวลาที่ลูกมีพฤติกรรมไม่ดี หรืออาจจะเพิกเฉย ยกตัวอย่างเช่นลูกร้องกรี๊ดหรือว่าลูกแสดงความโวยวายไม่พอใจให้เราเพิกเฉยหรือลดความสนใจ เมื่อเขาพบว่าทำแล้วไม่มีใครสนใจเขาก็จะค่อย ๆ หายไป แล้วก็ลดการวิพากษ์วิจารณ์เด็ก แต่ใช่ว่าจะดุด่าว่ากล่าวไม่ได้นะ อาจจะรอให้สถานการณ์สงบก่อนแล้วรับฟังเหตุผลของลูก ถ้าเด็กโตพอที่จะอธิบาย และพูดสั้นๆว่าที่จริงแล้วพ่อแม่อยากให้ลูกทำอะไร” สรุปก็คือช่วงที่เราใช้เวลาอยู่กับลูก เขาจะต้องการความรัก ความไว้ใจ ความความปลอดภัย […]

ป้องกันโควิด-19 ยึดหลัก D-M-H-T-T

ป้องกันโควิด-19 ยึดหลัก D-M-H-T-T

ป้องกันโควิด-19 ยึดหลัก D-M-H-T-T กรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข เผย​ #จุดเสี่ยงที่สัมผัสร่วมในที่สาธารณะ เช่น ราวบันได ห้องน้ำสาธารณะที่ใช้ร่วมกัน ลูกบิดหรือที่จับประตู #หากสัมผัสแล้วควรรีบล้างมือด้วยน้ำและสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์โดยเร็ว เพื่อป้องกันโควิด 19 พร้อมแนะผู้ที่ออกไปทำงานนอกบ้านต้องเข้มมาตรการ D-M-H-T-T เป็นการป้องกันโรคและลดโอกาสการนำเชื้อเข้ามาติดต่อสู่คนในครอบครัว เพื่อเป็นการลดจำนวนผู้ป่วย #ควรหลีกเลี่ยงการสัมผัสจุดที่เสี่ยงต่อการติดเชื้อโควิด 19 ในที่สาธารณะ และลดการเดินทางไปยังสถานที่แออัดอากาศถ่ายเทไม่สะดวก​ หรือมีคนอยู่เป็นจำนวนมาก แต่หากจำเป็นต้องเดินทางไปทำงานหรือออกนอกบ้านไปทำธุระส่วนตัว #ควรปฏิบัติตามมาตรการป้องกันโรคโควิด 19 อย่างเข้มข้น สำหรับจุดเสี่ยงที่มีโอกาสจะสัมผัสร่วมกันบ่อยๆ ในที่สาธารณะ ที่ควรระมัดระวังเป็นพิเศษ เช่น ราวบันได​ ห้องน้ำสาธารณะที่ใช้ร่วมกัน ลูกบิดหรือที่จับประตู โทรศัพท์ที่ใช้ร่วมกันในองค์กร ไมโครโฟน ราวจับรถสาธารณะ เหรียญหรือธนบัตร ตู้ ATM โต๊ะทำงาน รถเข็นหรือตะกร้าในห้างหรือซุปเปอร์มาร์เก็ต ปุ่มกดลิฟต์ และที่เปิดประตูรถสาธารณะ เป็นต้น ที่สำคัญ! หากมีการสัมผัสจุดเสี่ยงหรือใช้ของร่วมกับผู้อื่น ควรรีบล้างมือด้วยน้ำและสบู่หรือเจลแอลกอฮอล์โดยเร็ว และ​ #เลี่ยงการรับประทานอาหารร่วมกัน​ #ทั้งในที่ทำงาน​ และ #ในครอบครัวเดียวกัน เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่และรับเชื้อ ควรยึดหลัก […]

ถอนฟันแล้วไม่ใส่ฟันปลอม… ระวังจะเสียฟันจริงเพิ่ม!

ถอนฟันแล้วไม่ใส่ฟันปลอม… ระวังจะเสียฟันจริงเพิ่ม!

ถอนฟันแล้วไม่ใส่ฟันปลอม… ระวังจะเสียฟันจริงเพิ่ม! หลายคนหลังถอนฟันออกไปแล้ว เข้าใจว่าการใส่ฟันปลอมนั้นทำไปเพื่อความสวยงามเท่านั้น เช่น ใส่เฉพาะเวลาถอนฟันหน้าอะไรแบบนี้ แต่จริงๆ แล้วเวลาถอนฟันซี่อื่นๆ ทันตแพทย์ก็ยังแนะนำให้ใส่ฟันปลอมด้วย เนื่องจากเวลาที่ฟันแท้ของเราหลุดออกไป จะทำให้เกิดช่องว่างระหว่างฟันเป็นรูโหว่อยู่ ถ้าเราไม่ใส่ฟันปลอมจะส่งผลให้ฟันที่อยู่ข้างเคียงโยก ล้ม หรือเอียงได้ แทนที่จะเราเสียฟันไปแค่ซี่เดียว หากปล่อยไว้ก็อาจทำให้เสียฟันเพิ่มขึ้นอีกเป็นสองหรือสามซี่ได้ด้วย นอกจากนี้ยังทำให้การสบฟันมีปัญหา ส่งผลให้การบดเคี้ยวอาหารทำได้ไม่ดีพอ และยังทำให้โครงสร้างของใบหน้าผิดรูปไปจากเดิมได้เช่นกัน พอคำนวณความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นได้หากไม่ใส่ฟันปลอมแล้ว หลายคนบอก เอาเงินตรงนั้นมาทำฟันปลอมประหยัดกว่าเยอะมากๆ ฉะนั้นการใส่ฟันปลอมจึงสำคัญมากทั้งด้านความสวยงาม การบดเคี้ยว และสุขภาพของปากโดยรวมทั้งหมด รวมถึงเมื่อถอนฟันซี่เก่าแล้ว ใช่ว่าจะทำฟันปลอมทับเย็นวันนั้นได้เลยนะ แนะนำว่าควรรอให้แผลถอนฟันหายสนิทดีก่อน ซึ่งปกติก็จะใช้เวลาประมาณ 1 เดือนหลังถอนฟันเสร็จ ถ้าแผลหายดี ไม่มีการติดเชื้อเพิ่ม และเหงือกยุบตัวเต็มที่แล้ว เวลาทำฟันปลอมใส่ก็จะแนบสนิทกับเหงือกขอเรา ทำให้ไม่รู้สึกรำคาญเวลาสวมใส่ รวมถึงไม่ทำให้เราพาลเกลียดฟันปลอมไปด้วย ปัจจุบันมีเทคโนโลยีใหม่ๆ ในการทำฟันปลอม ช่วยให้รู้สึกสบายเหมือนไม่ได้สวมใส่เลยด้วยซ้ำ ดังนั้นใครที่กำลังมีปัญหาเรื่องนี้อยู่ อย่าลืมเข้าไปปรึกษาทันตแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะทางเพื่อขอรับคำแนะนำในการใส่ฟันปลอมกันด้วยนะครับ

แค่คุณดัด โลกก็เปลี่ยน รวมข้อดีของการดัดฟัน

แค่คุณดัด โลกก็เปลี่ยน รวมข้อดีของการดัดฟัน

แค่คุณดัด โลกก็เปลี่ยน รวมข้อดีของการดัดฟัน ข้อดีแรกที่คนส่วนใหญ่เลือกที่จะจัดฟันก็คือ เมื่อจัดเสร็จแล้วจะทำให้ฟันเรียงตัวกันสวยงาม ใบหน้าดูเข้ารูปขึ้น ดูสวยดูหล่อขึ้นแหละว่ากันง่ายๆ แต่ทว่าข้อดีของการจัดฟันที่หลายคนอาจยังไม่ทราบกันก็คือ การจัดฟันช่วยให้การบดเคี้ยวอาหารดีขึ้นได้ด้วย เพราะฟันเรียงตัวเสมอกันทั้งบนล่าง บางรายอาการผิดปกติของฟันไม่สามารถกัดเส้นก๋วยเตี๋ยวให้ขาดได้ แต่หลังจัดฟันไปแล้วก็ลดปัญหาประเภทนี้ลงไปได้ด้วยเช่นกัน และข้อดีอีกอย่างของการจัดฟันก็คือ พอฟันเรียงตัวกันอย่างมีระเบียบแล้ว การแปรงฟันและทำความสะอาดฟันก็จะง่ายยิ่งขึ้นไปอีก จากเดิมเราอาจจะแปรงซี่ที่อยู่ลึกๆ หรือฟันเอียงทับซ้อนกันอยู่ไม่ได้ เศษอาหารก็เลยมักจะไปตกค้างตามช่องว่างนั้น เสี่ยงเป็นฟันผุและโรคเหงือกในระยะยาวได้อีก แต่หลังจัดฟันแล้วจะช่วยลดปัญหาตรงนี้ไปได้อย่างมาก โดยผู้ที่มีปัญหาสามารถปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดฟัน เพื่อตรวจวินิจฉัยและพิจารณาว่าควรจัดฟันหรือไม่ เพราะบางกรณีอาจรักษาแค่หลักเดือน ไม่จำเป็นต้องขึ้นโครงเหล็กเพื่อรักษากันเป็นปีๆ นะ รวมถึงวิธีการรักษาและเครื่องมือในการจัดฟันนั้นมีหลายแบบ ตามแต่ความผิดปกติในลักษณะที่แตกต่างกันไปในแต่ละคน การจะเลือกจัดฟันด้วยวิธีไหนนั้น ต้องขึ้นอยู่กับดุลพินิจของทันตแพทย์จัดฟัน และที่สำคัญต้องเลือกสถานบริการที่ได้มาตรฐาน และทันตแพทย์ผู้รักษาจะต้องเป็นทันตแพทย์จัดฟันโดยเฉพาะเท่านั้นด้วยนะครับ ถึงจะลดความเสี่ยงฟันล้มยกแผงในอนาคตได้ ขืนไปหาหมอเถื่อนหรือสั่งอุปกรณ์มาติดตั้งเองจากอินเตอร์เน็ต แม้ว่าจะมีราคาถูกกว่ากันก็จริง แต่ตอนรักษาขึ้นมา เรียนตามตรงว่าแพงกว่าหลายเท่าเลยทีเดียว

แค่นอนกรน… ทำไมเสี่ยงไหลตาย?

แค่นอนกรน… ทำไมเสี่ยงไหลตาย?

ก่อนจะรู้ถึงสาเหตุของการไหลตาย หรือวิธีรักษาการนอนกรน อยากให้ทุกคนรู้ก่อนว่า “การกรน” มันเกิดจากสาเหตุอะไรบ้าง ปกติแล้วหลอดลมในช่องคอของเรามันจะเป็นท่อเกลี้ยงๆ ธรรมดา เวลาลมวิ่งผ่านเข้าออกมันก็จะไม่มีเสียงอะไรอยู่แล้ว แต่ถ้าเกิดกล้ามเนื้อช่องคอไม่แข็งแรง มีการคลายตัวขณะนอนหลับหรือผนังกั้นจมูกคด, เพดานอ่อนหย่อน, โคนลิ้นโต จนทำให้ท่ออากาศเกิดการตีบตัน ก็จะทำให้ลมวิ่งผ่านเข้าออกได้ไม่ค่อยดีนัก หากท่ออากาศของเราแคบลง ก็ทำให้อากาศผ่านเข้าออกได้ไม่ดีพอ จนเราเริ่มขาดอากาศ ระบบประสาทอัตโนมัติ ก็พยายามเร่งการหายใจให้มากขึ้น พอลมแรงผ่านช่องอากาศแคบๆ ก็เลยกลายเป็นเสียงกรนนั่นเองซึ่งการนอนกรนนั้น แบ่งออกเป็น 2 แบบด้วยกัน คือ 1. นอนกรนธรรมดา อันนี้ไม่มีอะไรน่าห่วง นอกจากมลพิษทางเสียงที่รบกวนคนรอบข้างเท่านั้น 2. นอนกรนแบบมีภาวะหยุดหายใจร่วมด้วย ซึ่งแบบนี้ถือว่าอันตราย และเสี่ยงไหลตายได้เลย ซึ่งตอนนอนหลับอยู่เราจะไม่รู้ตัว หากทางเดินหายใจมีอะไรไปอุดไว้นิดๆ หน่อยๆ เราก็ยังนอนชิวต่อได้อยู่ ซักพักพอคาร์บอนไดออกไซด์ในเลือดเพิ่มขึ้น เพราะออกซิเจนตก สมองก็เลยสั่งการให้ระบบประสาทอัตโนมัติพยายามช่วยหายใจก่อน ไม่งั้นปล่อยไว้แบบนี้อาจเสียชีวิตได้ ด้วยเหตุนี้เราก็เลยพยายามหายใจเฮือกขึ้นมาขณะหลับ พอหลับไปซักพักออกซิเจนตกอีก ก็กลับเข้าสู่ภาวะนี้อีกรอบวนลูปแบบนี้ไปทั้งคืนจนกว่าจะเช้าจึงเป็นสาเหตุให้ตอนเช้าเราตื่นมาแล้วยังรู้สึกเพลียหรือง่วงตอนกลางวัน ทั้งๆ ที่นอนไปตั้งเยอะแล้วนั่นเอง ส่วนสาเหตุที่ทำให้นอนกรน นอกจากกล้ามเนื้อช่องคอคลายตัวแล้ว ก็มีปัจจัยอื่นอีกเพียบเลย อาจมีอะไรอุดตันในช่องจมูก หรือหลังโพรงจมูก ก็ทำให้เกิดเสียงกรนได้ทั้งนั้น และสาเหตุของการนอนกรนที่เป็นกันเยอะที่สุด เกิดจากความอ้วน เพราะไขมันที่สะสมบริเวณคอไปกดทับช่องทางเดินหายใจได้ […]

1 2 3 46